จตุสดมภ์
ตราชู
จตุสดมภ์
(แรงบันดาลใจจาก บทกวีชุด หมายเหตุร่วมสมัย ของ ท่านอาจารย์ไพบูลย์ วงศ์เทศ และงานของ ท่านคมทวน คันธนู ครับผม)
๑. เวียง
อีทิสังฉันท์ ๒๐
โอ....สยามสยองเพราะพ้องระยำ
คะคึกคระโหมกระโจมประจำ
ประจัญกล
เมืองกระเหม่นกระหม่าผวากมล
ประจวบประจบประสบประจญ
กะปัจจา
แรงพลังระดมผสมประดา
ละหมู่สิมุ่งถลุงสิมา
สมัครใจ
หนึ่งก็ทวงประชาประภาพพิชัย
ทว่าริสร้างกระด้างนิสัย
ทุสันดาน
ยั่วยุหวังณรงค์ประสงค์ระราน
สถุลจริตพินิจพิจาร-
ณจัญไร
หนึ่งตริแผนอุบาทว์ฉกาจฉไกร
สะสมทหารสะท้านไฉน
ขนัดเวียง
เล่ห์กระเท่ห์ประดังประนังเผดียง
คดีคระไลไถลเฉลียง
เฉลยหลอน
ปวงประชาประดัก, กระอัก, กระดอน
กระเจิงกระเจิดเตลิดกระจร
ตระหนกจริง
ร้อนอุราและหวาดมิอาจประวิง
คณาปิศาจฉกาจเกาะสิง
สยามโซ
มองฉนัดฉะนี้ทวีมโน-
สลด, ระหวย, ระทวย อะโห!
ฤดีหาย
โอ....กระโหยกระหนทุรนทุราย
เทวษถวิลมิสิ้นมิวาย
อุราวรณ์
๒. วัง
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
ดำเกิงผกายกนก, แก้ว
รุจิแผ้วทิฆัมพร
วังแสนพิสุทธิ์พระอดิสร
พิศสรรพประทับทรวง
แต่....ศรีกษัตริย์พระฤจะสรวล
ขณะป่วนนราปวง
จอมหล้าเฉลิมนครหลวง
ธ จะล้าระอาเหลือ
เวียงแซ่ประสานคณะกระสัน
เยอะแยะครันเพาะข่ายเครือ
ดวงใจมิเจอกุศลเจือ
ทุรจิตผนิดจินตน์
ห่า, โหง, กระหัง มุหะระห่ำ
พฤติกรรมตะกายกิน
โกยทรัพย์สะสมอธิกสิน
ตะละส่ำขม้ำโซม
แผ่นภูว์พะภัยทรสภาพ
ดุจราพณ์ตะลุยโรม
แท้ไทยกะไทยพลวะโถม
พสุธามิอาทร
อาดูรอุดมธรณิด้าว
มหิร้าว อุรารอน
จอมไท้จุฑา ธบมิถอน
ทุกข์ท้นพระทน, ทาน
๓. คลัง
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
ดื้อดึงตะบึงแดก
เละเทะแหลกมโหฬาร
ผาดแผลงแสดงผลาญ
ตะกระพลันกระสันเพลิน
บุก, บ้า ประสาบาป
มุขงาบกระหายเงิน
ห่าม, หาญ ทะยานเหิน
ประลุห้องคระลองหาว
ชิงช่วงทะลวงฉวย
วสุรวยสง่าราว-
เด็ดได้พิไลดาว
มหเดชวิเศษดล
หลักธรรมขยำทิ้ง
จรวิ่งตลบวน
ชั่วช้ามุสาฉล
กระจะชัดอุบัติชัง
เศร้าโศกวิโยคแสน
ธนแคลน พินาศคลัง
วอดวายมลายหวัง
บุรวัฒน์จรัสวาม
เงินบาทอนาถบ่ง-
ภยส่งชะตาทราม
อ่อนค่าผวาขาม
คุสิขีทวีคูณ
๔. นา
เปษณนาทฉันท์ ๑๖ (ฉันทลักษณ์ซึ่งคิดประดิษฐ์ขึ้นโดย ท่านอาจารย์สุภร ผลชีวิน)
เกษตรโศกใส่กษัยสินทรัพย์
สลอนสิ่งสรรพซิ่ลับสิ้นสูญ
พิการพอกพิษพิกฤตเพิ่มพูน
พิบากถมทูนพิบูลย์ทั่วไทย
ระทึกร่ำไห้ฤทัยร่ำหา
เพราะหลงเสียท่าพิลึกสาไถย
กระเท่ห์โป้ปดกระทดป่าวไป
ละเมียดลื่นไหลละไมลิ้นลม
แฉลบลับเลยเฉลยลวงเล่น
ประดาษขุกเข็ญประเด็นขื่นขม
กระหนาบซ้ำซ้ำกระหน่ำซวดซม
ระทวยจ่อมจมระทมจริงจัง
พะวงไขว่คว้าผวาเคว้งคว้าง
มลักเวิ้งว้างมล้างแววหวัง
กระจัดแพ้พ่ายกระจายภินท์พัง
ประเนืองหนี้พรั่งประนังนองพรู
แน่ะชาวนาไทยไฉนท่วมทุกข์
กระอักยืนยุคกระอุกยังอยู่
อนันต์แลดาษอนาถแลดู
ระรุ่มสิงสู่ฤรู้เสื่อมซา
สยามยอกย้อนสยอนหยันยั่ว
สล้างมารชั่วสลัวมิจฉา
แหละใครแบ่งชั้นล่ะใครบัญชา
ประชิดตีตราประชาต่างตรอม
๕. บทสรุป
วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
ราวทาส ราษฎร์ท้อ
กรรมส่อกำสรด
รับทัณฑ์ รันทด
นิ่งอดนิ่งออม
ถ่อยยื้อถือแย่ง
กลับแปลงกลายปลอม
แหลกเหลว เลวหลอม
เกิดหล้ากาลี
ช่างเยียบเฉียบยิ่ง
หลากสิ่งหลายส่วน
หันเซเหซวน
ทบทวนท่าที
พวกโลนโผนเล่น
อุณห์เข็ญอัคคี
บาปซัด บัดสี
เบียนซ้อนบ่อนแซง
เพียงใจไพจิตร
ไพสิฐผ่องใส
มากฝันหมั่นใฝ่
เรืองไรเริงแรง
ล้างทรามลามสุม
ชั่วคลุมชวนแคลง
รัตน์ส่องรองแสง
เศร้าห่างสร่างหาย
จุดให้ใจหาญ
ด้วยมานแดมุ่ง
หวังพราววาวพรุ่ง
ดาวรุ่งดื่นราย
สรรมาสามารถ
ไม่คลาดไม่คลาย
แก้วผ่องก่องภาย-
ผืนแดนแผ่นดิน
เลิกถด ลดท้อ
สานก่อสร้างกิจ
สุขร่ำสัมฤทธิ์
ทุกทิศ ทุกทิน
เพ็ญสบภพสุนทร์
ไร้ขุ่นราคิน
ทูนเชิดเทิดฉิน
ชาติไทยชัยเทอญ
(๒๑ ถึง ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)