ฟังเถื่อนสนั่นสร้อง......................................เรไร ห่มค่ำแห่งพงไพร...................................ดั่งถ้อย เดือนกระจ่างแสงไกล................งามแจ่ม ในนวล สีผ่องทาบพนาพร้อย............พร่างแพร้ว โลมดง ฯ ราตรีจรุงร้อย............................................ลำนำ พัดผ่านในลมคำ...................................ล่องพริ้ว เตือนตรึงอยู่ในจำ........................โชยชื่น โลมใจ ประหนึ่งรักร่ายริ้ว.....................ซ่านซึ้ง อารมณ์ ฯ ยลจันทร์กระจ่างแจ้ง..........................นวลจันทร์ จมอยู่แต่รำพัน.....................................พร่ำเพ้อ คนึงผ่านคืนวัน...........................ลับล่วง ตามกาล หวานซ่อนเพียงใจเก้อ................กล่อมร้าว หทัย ฯ ฝากลมพร่างผ่านซึ้ง..............................ในครวญ แทนซึ่งถ้อยสำนวน.................................นอบใช้ ยามนุชผ่านมาชวน....................น้องอ่าน คำโคลง อันพี่ร่ายสื่อไว้........................ดั่งพ้อง เจตน์จินต์ ฯ -------------------------------------------- ส.ผาติสุวัณณ ( ลานเทวา )
31 กรกฎาคม 2550 02:33 น. - comment id 731611
..ไพเราะมากเลยค่ะ.. หญิงรพีขออนุญาตฝึกต่อโคลงนะคะ..แนะนำด้วยค่ะ.. ยลฟ้ากระจ่างแจ้ง เพ็ญนวล ยินแว่วพี่คร่ำครวญ พร่ำเพ้อ ลมพัดผ่านรักหวน เตือนแม่ ประหวั่นจักรอเก้อ เช่นนั้นหรือไร พลิ้วโบกพัดผ่านถ้อย ครวญคำ น้องบ่เลือนจารจำ ถ่องแท้ จุมพิตพี่คอยย้ำ จิตมั่น คงเอย รักจริงบ่พ่ายแพ้ ต่อให้ไกลเกิน อ่านโคลงพี่ร่ายไว้ ตราตรึง ใจหวนครวญคำนึง ผ่านถ้อย คำหวานซ่อนแสนซึ้ง ซาบซ่าน ดวงจิต เรียงร้อยเล่าแต่งเรื่อง ต่อถ้อยพ่อชาย