บนแดนดินถิ่นไกลในชายป่า ความก้าวหน้าห่างไกลไปไม่ถึง มนุษย์อยู่อย่างพอเพียงไม่คำนึง มนุษย์จึงมีความสุขทุกคืนวัน วันหนึ่งมีคนเมืองเข้ามาพบ สิ่งที่เห็นที่ประสบไม่สุขสันต์ จึงช่วยสร้างความเป็นเมืองเฟื่องฟูพลัน ความสะดวกทำคนนั้นผันเปลี่ยนไป ความเจริญก้าวเข้ามาแทนป่าเขา พิธีกรรมเก่าเก่าหายไปไหน ความเป็นเพื่อนธรรมชาติยิ่งห่างไกล ที่เหลือไว้เพียงเศษหินแผ่นดินเดิม
19 เมษายน 2550 17:20 น. - comment id 684609
อยากให้เหลือผืนป่าที่ร่มรื่น ให้ใจชื่น กายพักผ่อน สูดกลิ่นหอม ป่าน้อย ใหญ่ หายไปหมด โดนเมืองล้อม แล้วใครจะร้องกล่อมนกพนา เฮ้อ...นั่นสิเนอะ เดี๋ยวนี้ธรรมชาติโดนทำลายลงไปเยอะเลย แต่เราคนหนึ่งอ่ะ จะอนุรักษ์สิ่งดีดีไว้จ๊ะ คิดถึงนามปากกานี้จัง ลอยไปในสายลม ที่คุ้นเคย สบายดีไหมเอ่ย คิดถึงและดีใจที่ได้อ่านกลอนจ๊ะ
19 เมษายน 2550 20:46 น. - comment id 684724
ความเจริญทำให้ธรรมชาติหายไป ได้อย่างเสียหลายๆอย่าง
19 เมษายน 2550 20:50 น. - comment id 684729
ย้อนอดีตได้คงจะดีนะคะ อยู่กับธรรมชาติสบายใจกว่าแบบนี้เป็นไหนๆ
20 เมษายน 2550 07:24 น. - comment id 684827
พี่เอมอยากให้หมู่บ้านที่แขนแก่นรักษาความเป็นชนบทไว้ไม่อยากให้สังคมเมืองเข้าไปแทนที่เช่นกันค่ะ
20 เมษายน 2550 09:46 น. - comment id 684890
คนบ้านนอกมาเยี่ยมค่ะน้องแวว
20 เมษายน 2550 12:49 น. - comment id 685012
สวัดสีค่ะ ธรรมชาติจัดสรรอย่างลงตัว หอมกลิ่นทั่วไพรในพนาสน ทั้งกลิ่นดินกลิ่นหญ้าทั่วทุกหน ใจสุขล้น...ภิรมย์ชมธรรมชาติ... ป่าเขาลำเนาไพร... อยากมีบ้านในสวน อะไรก็ได้หลังเล็ก ๆ แล้วปลูกต้นไม้ดอกไม้ล้อมรอบ นั่นคือสิ่งที่ฝันไว้...
20 เมษายน 2550 21:22 น. - comment id 685308
เหลือเวลาเท่าใดให้ชีวิต หากดวงจิตวิปโยคจนโศกศัลย์ ต้องทุกข์ทนเหนื่อยกายมาหลายวัน มายกจอกเย้ยจันทร์กันสักคืน มาปีนป่ายโขดเขินขึ้นเนินเขา สู่ลำเนาเขียวชะอุ่มแสนชุ่มชื่น ชมดอกไม้ผลิบานแต่วานซืน มาท่องผืนป่าดงเที่ยวพงไพร พอตะวันลับลงตรงขอบฟ้า ดวงดาราพราวพร่างสว่างไสว มาเก็บฟืนไว้รอก่อกองไฟ อิงอุ่นไอในคืนฟ้าดื่นดาว แล้วล้อมวงเล่านิยามของความฝัน แบ่งสุขสันต์เริงรื่นในคืนหนาว เพื่อลบรอยความฝันอันปวดร้าว มาก่อนดาวจะพ่ายแรงของแสงไฟ