ลางเลือด โคลง ๔ ดั้นบาทกุญชร ผ่าวลมพัดผ่านไล้ เพียงโลม ลมผ่าวเพียงมาพูน พิษให้ ความโหดดั่งคอยโหม หาญหัก ราวเลือดรอย้อมไล้ หลั่งริน เกรียงไกรเอยหลักแก้ว หลักกรุง โปรดดับดาลแดนดิน ดุกร้าว อารักษ์ฤทธิ์อำรุง เรืองอร่าม วอนเทพไทไท้ท้าว ท่านยล ถิ่นฐานแถวท่ามท้อง ทุ่งพระเมรุ เมรุอย่ามาเผาลน ลวกหล้า ผลักกรรมแต่เพรงเกณฑ์ กรานกาจ คลายวุ่นวายว้างว้า หวาดหวาม สำเนียงกัมปนาทเน้น ชุมนุม เติมแต่งวาทะตาม ตอกย้ำ แซงแทรกซ่อนซอนสุม หลายศัพท์ แหนแห่เตรียมเข้าห้ำ หั่น, เบียน พรก. กลับใช้ ฉุกเฉิน อำนาจอันแนบเนียน นักแล้ว ออกกฎอย่ากดเกิน กดขี่ กฎเพื่อพอคุ้มแผ้ว ผ่านภัย ใช่ถมเท็จถี่ถ้วน ลงทัณฑ์ ไทยเข่นทวยคนไทย เที่ยวมล้าง เพียงผูกเกี่ยวกระหวัดพัน ผลประโยชน์ กำสรดศัลย์ซ้ำสร้าง โศกเนือง ลมเร้าแดดโรจน์ร้อน เริงแรง บอกข่าวลางเลือดเคือง หลากข้น ลมฝากซึ่งไฟแฝง ฟืนใส่ เกินคิดเกินคว้าค้น คาดถึง (๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)
29 มีนาคม 2550 10:37 น. - comment id 677889
29 มีนาคม 2550 15:51 น. - comment id 678090
ทะเลเลือดจักทาไหลบ่าท่วม ไผทน่วมหน่วงหนักมิหักหาย ประชาชนเดือดดิ้นแทบสิ้นกาย เพราะอุบายอุบาทว์บีฑะกรีฑา ประทุกคนป่นปี้ขยี้ชาติ ภพจะฆาตชะตาละเหี่ยหา อวสัตว์อุบัติชาติผงาดมา อสุราสยดสยองขึ้นครองเมือง ผ่าวลมพัดผ่านเลี้ยวเกี้ยวกบฏ ปันปรากฏเกียรติกระสือจะลือเลื่อง ประมวลม่าห์กลบวิญญูอย่าอยู่เมือง จะขุ่นเคืองเมธีวิจารณ์ตน หวั่นถูกกดด้วยกฏปรากฏเกิด หวั่นเมืองเลิศจะแล้งระแหงหน มอดไอสุขเป็นทุกข์ทุรายทุรน หวั่นผู้คนกอดหมองกองกันดาร