เป็นเพียงเศษ...ฝุ่นทราย...พลิ้วลอยล่อง พัดผ่านท้อง...ทะเลทราย...ไร้แก่นสาร เหนือผืนดิน...ใต้ผืนฟ้า...นิรันดร์กาล ทุกวันวาร...คงอยู่...คู่ปฐพี ถึงเย็นย่ำ...ค่ำหนาว...รวดร้าวจิต แนบสนิท...นิทรา...ตามวิถี เพียงเม็ดทราย...เม็ดหนึ่ง...ในราตรี ย่อมไม่มี...คุณค่า...ราคาใด เมื่อแสงนวล...ทอละออ...จากฟ้ากว้าง แจ่มกระจ่าง...เปล่งประกาย...วับวาวใส มีดวงตา...โอบเอื้อ...แลห่วงใย สู่เบื้องใต้...นภาพร่าง...ทางแห่งดาว คล้อยรุ่งสาง...หนทาง...อาจผันเปลี่ยน เปลวแสงเทียน...นับล้าน...บนกลางหาว อาทิตย์ทอ...บดบัง...แสงสกาว เส้นทางยาว...ปรากฎไกล...สุดสายตา แม้ไร้สิ้น...ชีวีใด...ในถิ่นนี้ โลกโลกีย์...ไกลห่าง...เกินฝันหา ผืนแผ่นดิน...แห้งเหือด...สายธารา สายลมพา...แผ่วพลิ้ว...เพียงริ้วทราย จึงเป็นแค่...ฝุ่นทราย...ดูไร้ค่า รอเพียงลม...พัดพา...สูญสลาย หากยังมี...ฝุ่นทราย...เกลื่อนกล่นมากมาย ก่อผืนทราย...จรดผืนฟ้า...ตราบนิรันดร์
27 กุมภาพันธ์ 2549 15:08 น. - comment id 563403
ว่างๆจามาตอบน้างับ ไม่เจอคุณวันนึง เมื่อวานกาป๋มก็ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมครายเลยเหมือนกัน กลางวันน่ะงับ กลางคืนก็ออกหากินเหมื๊อนเดิมงับ ของมันเคยอ่ะ อิอิ อย่าคิดมากน้า \"เคยกลอน\" ตะหากงับ
27 กุมภาพันธ์ 2549 15:44 น. - comment id 563409
เพียงเม็ดทราย เศษศิลาดาษดื่นเป็นหมื่นแสน ทุกดงแดนทั่วถิ่นล้วนหินสี พลอยไพลินแก้วเพชรเก็จมณี ล้วนมากมีคุณค่าคนหาครอง ต่างดั้นด้นขุดเจาะเสาะแสวง ทุ่มทั้งแรงอยากเห็นเป็นเจ้าของ ทั่วผืนดินพลิกกลับอยากจับจอง หวังสนองพูนเทวษกิเลสตน เราก็ต่างตีกฎกำหนดค่า เสี้ยวศิลาให้พิเศษด้วยเหตุผล เชิดชูค่าสวยงามตามได้ยล สิ่งปลอมปนเขี่ยออกบอกไม่เอา เหลือเพียงแค่เม็ดทรายไร้ค่าแล้ว มิวับแววงดงามตามใจเขา ถูกทิ้งร้างเพราะไร้สีไม่มีเงา เป็นสีเทาน่าบัดสีธุลีดิน ถูกทับถมปล่อยวางข้างตลิ่ง คนเขาทิ้งเพราะเหตุเป็นเศษหิน พอน้ำซัดพัดเอื่อยระเรื่อยริน จนทั่วถิ่นเกลื่อนกลาดเป็นหาดทราย