ศรีนครินทร์ดินเพียงน้ำ....งามตาฟ้าหย่อนหย่อน นอนฟังเสียงฝนย้อย..........คอยท่าเบิ่งเดือน สายพิรุณบ่ยอมเอื้อน..........ฟ้าเหนือเขื่อนคะนองฝน หัวอกคนคอยเดือน............เลื่อนลอยบ่มีแล้ว ตาเบิ่งแนวเงาไม้...............ใจสิลอยหาใผน้อ....หาใผหน่อ ใจของนางสิคิดต่อ..............คือใจชายแหน่บ่หล่า ตาอ้าย..ส่องบ่เห็น ฝากเป็นคำผญาอ้อน..........วอนไปให้นางอ่าน ส่งเป็นสารก้อมก้อม...........ซอมใจเจ้าสิว่าใด๋ ฟ้าบ่ใสเปรียบดั่งใจชายนี้..มีแต่ความหมองหม่น ซอมใจคนคือน้อง..............ดั่งคองท่าเบิ่งเดือน อภิธานศัพท์ เพื่อความเข้าใจง่ายขอยกมาเป็นวลีหรือกลุ่มคำ ฝนย้อย หมายถึง ฝนตกพรำ ๆ หาใผน้อ หมายถึง หาใครหนอ คิดต่อ หมายถึง ครุ่นคิดแบบมีหวัง (อิ..อิ) ก้อม หมายถึง สั้น ซอมใจ หมายถึง รอดูท่าที สิว่าใด๋ หมายถึง จะว่าอย่างไร (รึ) คองท่า หมายถึง รอคอยอย่างมีหวัง อีกนั่นแหละ
14 กุมภาพันธ์ 2549 19:12 น. - comment id 560861
ดีนะเนี่ยคุณครู ไม่งั้นไม่รู้จะไปหาไผ มาแปลให้สิ รออยู่หลายวัน พอลงมาที อึ้ง...เลย... 555...
14 กุมภาพันธ์ 2549 21:20 น. - comment id 560903
อัลมิตราเขียนผญาไม่เป็น แต่ก็ดีใจ ที่คุณครูใหญ่เขียน \" รอจันทร์ \" เป็นผญาที่ไพเราะ คืนที่ไร้จันทร์ ทว่าก็ไม่เปล่าเปลี่ยวนัก เสียงฝนที่กระทบหลังคาเรือนแพ เป็นโสตธรรมชาติที่ฟังแล้วรื่นรมย์ รอยยิ้ม และหัวใจอุ่น ๆ .. จะยังคงซาบซึ้งตลอดไป ขอบคุณสำหรับเพื่อนร่วมทางที่ใจดี ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่มีให้ ขอบคุณค่ะ คุณครูใหญ่หัวใจไม่เล็ก มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
14 กุมภาพันธ์ 2549 22:12 น. - comment id 560916
รอพระจันทร์ที่ถ่ายรูปคู่กันหรอ ..
14 กุมภาพันธ์ 2549 22:22 น. - comment id 560919
อ่นแล้วสุดยอดจริงๆๆค่ะ
15 กุมภาพันธ์ 2549 04:34 น. - comment id 560944
หนูอยากต่อแต่หนูนึกยังไม่ออก ตอนนี้สมองกำลังปั่นป่วนอย่างแรง อัพเวบเจ้าของก็ปานนั้น สายตาก็บ่ค่อยอำนวย เหนื่อยตา แถมอาการภูมิแพ้ที่ลาจากไปไกลยังแวะมาเยี่ยมอีก เฮ้อ เดี๋ยวไว้หนูแว้บเข้ามาใหม่ ขอตัวพักตาสักหน่อยค่ะ
15 กุมภาพันธ์ 2549 12:31 น. - comment id 561017
ผญา ... แปลว่าอะไรอ่ะคะ .. พอดีถามพี่แถวนี้แล้วไม่มีใครรู้อ่ะ ( ขอนแก่น + อุบล ) โดนสายหัวว่าม่ายรู้อ่ะ .... เอ่ ... คนเสื้อส้มคลายน๊า .... คุ้น ๆ อิ อิ ... อื่ม .. กลับบ้านปลอดภัยก็โอเคแย้วน๊า ... เอมยังคิดอยู่ว่า จะขับรถไหวเปล่าน้อ ... เพราะว่าเอมง้อให้เล่นเรียงเลขเป็นเพื่อนกะพี่ ๆ ตั้งนานอ่ะนะ หุ หุ หุ ...
15 กุมภาพันธ์ 2549 13:22 น. - comment id 561045
บ่แปลอีนางกะฮู้เหรี๊ยง
15 กุมภาพันธ์ 2549 14:01 น. - comment id 561063
หลูโตนเด..คนคอง มาคือหมองใจหม่น น้ำฝนไหลจ้นจ้น แต่คนหลั่งน้ำตา หลูโตนเด..บักอ้าย เบิ่งเดือนบ่เห็นเงา เฝ้ากะบ่มา ถ่ากะบ่เห็น คือเนื้อเย็นน้องบ่มี ซั่นแล้ว อ้ายเอย.....
15 กุมภาพันธ์ 2549 14:01 น. - comment id 561064
เยี่ยมครับท่าน ถ้าไม่แปลให้ถ้าจะแย่เหมือนกันครับ
15 กุมภาพันธ์ 2549 16:29 น. - comment id 561097
ผญา ของดีศรีอีสาน เอ ค่ายเครือข่ายนักเรียนแกนนำสืบสานวัฒนธรรมอีสาน จะเชิญท่านร่วมเป็นวิทยากรได้ไหมหนอ
15 กุมภาพันธ์ 2549 17:05 น. - comment id 561124
15 กุมภาพันธ์ 2549 17:47 น. - comment id 561151
สวัสดีเด้อพี่น้อง ผู้มานั่ง...ถ่าฟังลำ ทั้งผู้แฟนประจำ ค่ำมาอย่านอนกลุ้ม ซุมผู้สาว...น้อส่ำน้อย คอยฟังอ้ายแหน่บ่ ฝากเสียงลำส่งต่อ ส่งสำเนียงโอ่ร้อง ให้ซุมเจ้า...แหม่นซูคน....เด้น้อ...แฟนลำเอ้ย ใครเคยฟังหมอลำทำนองขอนแก่นลองลำดูนะ ชมพูภูคาแห่งเมืองน่าน ผญาคล้ายกับค่าวทางเหนือ(เท่าที่ภูมิความรู้ที่ผมมีอยู่) มีพื้นฐานมาจากทางเดียวกัน นัยว่าเป็นต้นกำเนิดของโคลงกับร่าย ลองแต่งมาแลกกันอ่านดูนะครับ อัลมิตรา ครูใหญ่ละเมอมาเขียนนะ กว่าจะมาถึงบ้านก็จอดนอนไปสามชั่วโมง คอเคล็ดเลย แต่วันนี้เกินร้อยแล้ว (แรงกาย) กี้. โอ....ว้าว happy valentine นะ รวมทั้งจ๊ะโอ๋ด้วย ทาโมโกะซัง มาลองแต่งจิคับ จะแนะให้ ที่จริงครูใหญ่ก็แต่งไปตามประสา...คับ น้องยังเยาว์ รออ่านอยู่..นะ...เว็บที่ว่าอัพ ชื่อเว็บไรจะแวะไปชม รักษาสุขภาพนะ โรคภูมิแพ้ หมอเขาว่าไม่หาย แต่ลองทำงานหนัก ๆ ดู หายเป็นปลิดทิ้ง พี่ก็เป็น เมื่อก่อนก็แย่ ตอนนี้สบาย... น้องเอม ผญาคือกลอน คือคำคม คือโคลงคือร่าย คือร้อยกรอง จ้า คนอีสานที่ไม่ชอบหมอลำอาจไม่รู้ แต่คอหมอลำเขาไม่พลาดหรอก ติดใจในอรรถรสก็หัดเขียนได้นะ อืม..กว่าจากลับถึงบ้านก็อาการสาหัสเหมือนกัน ดาวเคียงเดือน บ้านอยู่ไสล่ะนาง ลำให้ฟังแหน่ จักกลอน เมา เฒ่าอันนี้ เจ้าเอาเปรียบข้อยนะงานนี้ที่บ่ไป อยากเห็นหน้าเจ้า พอเอาเสี่ยวได้บ่ ร้อยแปดพันเก้า ใช่ครับ งานพื้นบ้านต้องมาพร้อมคำแปล เดี๋ยวงงกันไปใหญ่ ว่าแต่ว่าผญาคล้ายค่าวทางเหนือไหม? ร้อยฝัน อย่าชวนผมเลยครับ ผมคนใจง่าย ไม่เล่นตัวด้วยสิ ฟา ขอบคุณมากครับกาแฟรสกุหลาบเนี่ย ชื่นใจจัง กล้า ๆ อ่าน กล้า ๆ วิจารณ์กันหน่อยนะ มิตรรักนักกลอน
15 กุมภาพันธ์ 2549 19:11 น. - comment id 561174
..ชอบอ่าน..ผญา..เหมือนกันค่ะ..ด้วยว่า..เป็นสาวเมืองหมอแคน...แต่แต่งได้ไม่เพราะ.. ..อ่ะนะ...ขอลองแจมบ้าง...คงไม่เสียชื่อน่ะ..ลองดูนะคะ... หล่านางเอ้ย.... ....สัจจะที่อ้ายให่.......คือใจอ้ายอยู่คู่อย่าง .....สัจจะอ้ายเว้าแล้ว....สิมายม้างบ่เป็น .....ว่าแต่คึดฮอดอ้าย ทิ่มใจมาให้แหน่ .....คือกับเป็นเฮือนแพ...เฮาฮ่วมนำกัน.... ...บ่ได้น้องซาตินี้....ตายไปซิบ่เกิด ....สิสะเดิดขึ้นฟ้า....เมือถ่าอยู่สวรรค์...เด้อนางเอ้ย.....ฯ . ...คุณครู..ช่วยแปลเป็นภาษากลางด้วยนะคะ...
16 กุมภาพันธ์ 2549 07:40 น. - comment id 561218
ยามราตรีมีจันทร์นั้นเคียงคู่ ยามเช้าตรู่สุริยามาทาบแสง แดดยามบ่ายส่องกระจายให้มีแรง ยามมื้อแล้งมีเจ้าบ่เหงาเลย... อิอิอิอิอิ.. แวะมาแก้ไขนิดหน่อย เขียนบ่ถูก.. 5555555...สมัยเรียนโดดบ่อย แถมตกภาษาไทยด้วย
16 กุมภาพันธ์ 2549 03:19 น. - comment id 561228
มาแล้วค่ะมาแล้ว แต่นึกไม่ออก พักนี้ไม่รู้เป็นไง เฉื่อยๆยังไงไม่รู้ ไว้โอกาสหน้าเน้อพี่ หวัดดีค่ะ อิ อิ
16 กุมภาพันธ์ 2549 05:31 น. - comment id 561242
ยามราตรีมีจันทร์นั้นเคียงคู่ ยามเช้าตรู่สุริยามาทาบแสง แดดยามบ่ายส่องกระจายให้มีแรง ยามเมื่อแล้งมีเจ้าบ่เหงาเลย อิอิอิอิ...
20 กุมภาพันธ์ 2549 11:44 น. - comment id 562135
สวัสดีครับ ราชิกา สาวเมืองหมอแคน ไม่แปลก็ได้มั้ง ความหมายไม่ซับซ้อน สรุปว่ารักษาสัจจะเนาะ ยังเยาว์ รอได้จ้า แสงไร้เงา อ้าว..ตกภาษาไทยได้ไง ลงทะเบียนใหม่ละยัง
20 กุมภาพันธ์ 2549 20:23 น. - comment id 562243
มาช้าไปหรือเปล่าคะ ผญา...ท่าจะไม่รอจันทร์เสียแล้ว ถ้าไม่มีคำแปลให้ ก็คงดำน้ำอยู่แถวเขื่อนแน่ๆ ค่ะ แต่ก็ยังรับรู้ถึงอารมณ์สุนทรีของคุณครูใหญ่ได้ค่ะ