สาดสาดสะท้านแดน พสุแสนกระหน่ำชล โครมครืนครึกคำรณ สิวับแวบแปลบแปลบเปลว หวลหวลไห้โอดโอย พยุโบยระริกเร็ว ชีพชาติก็ขลาดเลว แรงจะสิ้นใจจะสูญ หยาดหยาดระบาดโบก สำเนียงโศกวิโยคพูล ทุ่งข้าวก็สมบูรณ์ ดารดาษด้วยแรงชล เย็นเย็นเห็นพยับ เมฆเข่นกลับจะขับฝน แต่น้ำตาพร่ากมล ทหัยหวนจะครวญคราง สาดสาดแกล้งเกลื่อนสูรย์ นภางค์ขุ่นขับระคาง ใสใสไสววาง ดุจประการจะไพบูลย์ ช่อช่อก็ชูชื่น พฤกษยืนด้วยแรงบุญ อุทก ร่ำจะพร่ำจุน หลังภัยร้าย มลายไป..............
8 กรกฎาคม 2548 16:22 น. - comment id 489587
บางเม็ดฝนหล่นมาพาใจเศร้า กระตุ้นห้วงความเหงาจนฟูฟ่อง บางเม็ดฝนหล่นมาน้ำตานอง ดั่งมีเพื่อนช่วยร้องล้างดวงตา บางเม็ดฝนหล่นรินพร้อมยินดี เสียงหัวเราะระรี้กันถ้วนหน้า บางเม็ดฝนหล่นซับกับพนา ชุบชีวาชาวดินสิ้นกันดาร บางเม็ดฝนหล่นไปให้สมหวัง เพราะรินหลั่งเติมเต็มห้วยละหาร บางเม็ดฝนหล่นซ้ำนำภัยพาล ท่วมท้นบ้านเรือนตกอุทกภัย ในหยาดฝนหลายคนได้ความสุข แต่บางคนรับทุกข์ต้องแก้ไข หนึ่งเหตุการณ์ต่างกันที่จิตใจ อยู่ที่ใครรู้คิดจิตสวยงาม มาเยี่ยมเยียนและขอบคุณน้องโอ๋ฯไว้ตรงนี้อีกครั้งค่ะ ... และบอกอีกหนว่า ..ไพเราะมากค่ะ บรรยากาศก็ปรวนแปรจนสัมผัสได้เลย ..
9 กรกฎาคม 2548 00:22 น. - comment id 489721
นอกจากเขียนโคลงได้เก่งแล้ว ยังเขียนกาพย์ได้เพราะมากด้วยค่ะ เยี่ยมจริงๆ สำหรับบทนี้ ............................................................ ลี่...ผู้มาเยือน .
10 กรกฎาคม 2548 21:17 น. - comment id 490203
เขียนพอได้นะคร้าบ ยังไม่ถึงกะเก่ง ขอบคุณมากครับ คุณลี่