เสนาะไพร ฯ ๏ เด่นระเดื่อคู่เคียงมาเรียงร้อย บรรจงกรอยลอยลู่มาสู่เสียง ประจบใจประจับจิตรเป็นจำเรียง ไพเราะเสียงประดู่ธรรมประจำใจ เย็นระรื่อเรื่อยเรื่อยมาเฉื่อยฉ่ำ เย็นเป็นธรรมสำเนียงเฉวียงไหว เสียงระฆังดังมาว่าจับใจ แสงเทียนชัยไสวประทีบจีบเจือง จิดระริดจี๋จ๋ามาแต่รุ่ง มาคละคลุ้งฝูงกามาเป็นเหมือน วิหคลิ่วเวหาศมาดชำเลือง จะแชเชือนเหมือนคนก็หาไม่ แดดฉ่ำ ฉ่ำร่ำลาพระจันทร์สวย แสงอำนวยรวยชวยชื่นระรื่นใส มาออกเดินเผชิญถนนพ้นล่มไทร มาชมไพรในสงวนให้ชวนชม แดดจะออกจะรุ่มจะร้อน กลีบผยอมจะตรอมจะสม จ้าจะร้อนจะเรื่อยจะทน จะเดินจะชมจะชวนจะชาย เอื้อยเอื้อยเจื้อยจ้ามาเรื่อยรี่ จั๊กกระจี่จั๊กกระจั่นดังหวั่นไหว แมลงภู่สู้แสงมาแกมใบ แมลงไรฉับไฉวมาดมดอม ดอกเข็มเห็นเห่ เป็นเอนไหว ดอกคุณนายตื่นสายฉายเกสร ดอกมะลิขาวขาวเย้าภมร ดอกผยอมโชยกลิ่นประทินโชย ระยิบระยับจับตามาสู้แสง ชะเง้อแหงนแจ่มจ้าจนหิวโหย มัวแต่ชมรมย์รื่นจนชื่นโชย มาโปรดโปรยโรยราจนหน้ามัว แสงเอื่อยเอื่อยเรื่อยมาว่ายามเย็น เห็นไหมเห็นอัสดงจะลงหัว แสงเรื่อยรื่อครืนคราดจนมัวมัว แล้วเข้าครัวคั่วข้าวเอามากิน เย็นย่ำค่ำร่ำลามาร่ำไร สำเนียงไพร ไพเราะเสนาะศิลป์ ว่ามืดแล้วแคล้วค่ำเป็นอาจิณ จนรุ่งรินแดดเกื้อจะเอื้อคอย ฯ ........................เขียนกวีนิพนธ์นี้ไว้นานแล้ว สองปีได้กระมัง ตั่งแต่คราวเป็น วีรพโล ภิกษุ ....ยามว่างอยู่วัดบ้านนอก บรรยากาศสงบจับใจ.......ไม่มีอะไรมารบกวนใจเลย มันคงตะสะท้อนมาถึงกวี บทนี้กระมัง .........ทำให้ตอนนี้ยังอดที่จะกลับไปเป็นอย่างนั้นอีกไม่ได้ ความสุขที่แท้จริงกลับไม่มี คงมีแต่ความพอใจกับความทุกข์ ที่ได้รับ กระมัง ... .............................ทำให้ทุกวันนี้.....เป็นผมอย่างทุกวัน........สักวันก็ได้แต่หวังว่า โลกของโลกียะ จะไม่นำพาเราไปจนสุดโต่ง เมื่อพอถึงที่สมควรแล้ว โลกุตระ จะกลับคืน.............
31 กรกฎาคม 2547 16:43 น. - comment id 303404
...........พฤษภาคม ๒๕๔๕......ณ วัดวันอุทิศ จังหวัดอ่างทอง.......ยามว่างของ วีรพโล ภิกษุ....
31 กรกฎาคม 2547 16:56 น. - comment id 303419
ลำนำแห่งไพรพฤกษ์ที่ผนึกเอาความงดงามแห่ง ธรรมชาติ กับความงดงามแห่งอักษรเข้าด้วยกัน เป็นเนื้อเดียว ย่อมไพเราะเสมอสำหรับผู้อ่าน๚ะ๛ size>
31 กรกฎาคม 2547 17:06 น. - comment id 303430
ธรรมชาติวาดไว้ให้ได้เห็น เปรียบดั่งเช่นแนวคิดปริศนา จะเลือกเป็นเช่นไรในโลกา ล้นคุณค่ามากพร้อมน้อมที่ตน.....ฯ งานงามด้วยลีลาแห่งธรรมชาติ...ชื่นชมค่ะ..แวะมาทักทายค่ะ...
31 กรกฎาคม 2547 18:36 น. - comment id 303474
เขียนกลอนได้ดีจริง ๆ เยยค่ะ แบบว่าเจ๋งอ่ะ บอกอีกทีว่า เจ๋ง แล้ว ก็ แจ๋ว เจ้าค่ะ แวะมาทักทายกันนะคะ
31 กรกฎาคม 2547 18:41 น. - comment id 303482
เขียนตอนที่เป็นหลวงพี่หรือ ดีนะไม่เผลอไปอารมณ์ ไปคิดถึงใครเข้า ล้อเล่นนะครับ เขียนได้รื่นไหลดีครับ
31 กรกฎาคม 2547 18:56 น. - comment id 303490
อารมณ์งาม ค่ะ ..
31 กรกฎาคม 2547 19:57 น. - comment id 303518
สนานเสนาะซึ้ง............เสียงไพร พรมพร่าเพียงจิตใจ.......จบแจ้ง สง่าสงบไหว................เวิ้งว้าง..เวียนนอ เนาพิสุทธิ์มิเหือดแห้ง...ชั่วฟ้าดินสลาย :) ชอบธรรมชาติมากครับ
31 กรกฎาคม 2547 23:01 น. - comment id 303643
เขียนได้น่ารักดีนะคะ หลวงพี่หลวงน้อง
1 สิงหาคม 2547 09:44 น. - comment id 303767
ไพเราะมากนะคะ ...........................
1 สิงหาคม 2547 10:45 น. - comment id 303822
มาอ่านเป็นกำลังใจนะครับ เขียนได้ดีนะ
2 สิงหาคม 2547 09:21 น. - comment id 304255
...ขอบคุณครับ.........
2 สิงหาคม 2547 19:18 น. - comment id 304526
เล่นตัวอักษรได้งดงามมากครับ อ่านแล้วสดชื่นเย็นใจ แวะมาทักทายประเภทชมธรรมชาติผมแต่งไม่เป็นเอาเสียเลย
18 กันยายน 2547 11:26 น. - comment id 333745
นานแล้ว ที่ไม่ได้เห็นสัมผัสใน และสัมผัสอักษรที่พริ้งเพริศ ขนาดนี้ แต่งที่บ้านนอก คงได้ซึมซับอารมณ์ธรรมชาติ เต็มที่เลยนะครับ อยู่เมืองกรุงคงยากที่จะแต่งได้ขนาดนี้ ไพเราะจับใจครับ