...อันราตรีแม้มีดาวประดับฟ้า เปล่งประกายเจิดจ้าหาอื่นไหน ระยิบตาคลายความทุกข์พาสุขใจ จะหาไหนใดเล่าเท่าเทียบเคียง ...ศศิธรวอนจันทร์เจ้าเฝ้าคิดถึง เฝ้าคำนึงถึงใครเมื่อไร้เสียง เงียบสงัดลมพัดเย็นเช่นไผ่เอียง เฝ้าแต่เพียงคิดถึงซึ่งห่างไกล ...ใครกันเล่าให้เฝ้ารำพึงหา ในเวลาไร้เงาเพียงคืนไหน ไร้ตะวันมีจันทราพาเศร้าใจ ดาวดวงใดคือเจ้าเฝ้านิทรา ...เจ้าเมฆน้อยลอยเคว้งคว้างนภาพัด แรงลมจัดพัดพริ้วปลิวพฤกษา ทั้งกิ่งไม้ใบหญ้าโน้มนำพา ลมพัดมาพาฤทัยเอนไหวตาม ...นกตัวน้อยเจ้าบินคล้อยตามลมฝน เจ้าอยู่บนท้องฟ้าข้าใคร่ถาม เสรีภาพหนึ่งชีวิตเฝ้าติดตาม หนึ่งคำถามถามจิตสะกิดใจ ...ในนภาฟ้ากว้างไกลสุดหล้า มวลวิหคบินมาจากแห่งไหน ถ้าได้บินสู่ฟ้ากว้างทางแสนไกล นำพาใจสู่เวหาพาเบิกบาน...
5 มิถุนายน 2547 11:58 น. - comment id 280359
นกน้อยบนฟากฟ้าร่าเริงนัก ชีวิตรักเสรีที่โลดแล่น สองปีกพาไปไหนได้ทั่วแดน จึงหวงแหนท้องฟ้ากว่าสิ่งใด
5 มิถุนายน 2547 16:48 น. - comment id 280483
อิสระคือฟ้ากว้างที่โอบเกื้อ โบยบินเหนือโค้งรุ้งที่ปรุงฝัน ผันผ่านระลอกลมชมตาวัน ไม่มีกรอบกรงกักขังให้ตรอมใจ
5 มิถุนายน 2547 20:55 น. - comment id 280634
อิสระกับชีวิตที่คิดสร้าง อิสระยามก้าวย่างทางข้างหน้า อิสระกับเสรีที่มีมา คือสิ่งที่เราฝันหาและต้องการ *-*กลอนแต่งได้ดีมากเลยค่ะ*-*
6 มิถุนายน 2547 00:31 น. - comment id 280809
ผมพอจะแนะนำคุณได้บ้าง..ถ้าคุณสนใจในเรื่องของการสร้างฝันให้สวยงาม ... กลอนที่คุณเขียนนี้เป็นกลอนแปด..สิ่งที่ขาดคือสัมผัสใน และการใช้คำซ้ำกันที่สัมผัสนอก.. เอาแค่ตรงนี้ก่อน ถ้าคุณสนใจ ผมจะเขียนผังกลอนแปดให้..และจะตามดูจนกว่าคุณจะเขียนกลอนได้ตามใจปรารถนา อย่าคิดว่าเป็นการสอนกัน..ผมแค่แนะนำในฐานะเพื่อนที่ชอบเขียนเท่านั้น..ขออภัยสวัสดีครับ..