ชื่นโชยฉ่ำพรำย้อยจากสร้อยฝน เมฆเบื้องบนครึ้มคลุ้มอุ้มขุนเขา น้ำฟ้าหลากรินหลั่งทั้งลำเนา เซาะลาดเขาคอหงส์ไหลลงบึง ดอกไม้ป่ากลีบพรมในลมอ่อน กลิ่นขจรทั่วลำธารที่ผ่านถึง ท่วมท้นความรู้สึกอันลึกซึ้ง เต็มอยู่ในก้นบึ้งความซึ้งใจ ใบไม้แห้งร่วงพลิ้วโปรยปลิวว่อน แล้วยอดอ่อนแตกตาขึ้นมาใหม่ เพื่อชูหน่อก่อพันธ์ขึ้นทันใจ ยามผลัดใบก็มียามผลิบาน สายรุ้งสวยพาดฟ้าคราใกล้ค่ำ นกไพรร่ำเรียกคู่กู่เสียงหวาน ร้องชวนชักพักกายาราตรีกาล แสงแห่งวารเลือนหายจากปลายฟ้า เพลงแห่งไพรใกล้ค่ำพร่ำหวีดแว่ว กระซิบแผ่วเอื้อนเสียงสำเนียงปร่า คล้ายเห่กล่อมย้อมใจคนไกลมา ยามจากลาคอหงส์....อย่าหลงลืม.
16 พฤษภาคม 2547 21:08 น. - comment id 268951
คุณพรระวีก็เคยเล่าให้ฟังเหมือนกัน ที่นั่นสวยมากนะ .. สักวันอาจจะได้ไปเยือนเช่นกัน ค่ะ :)
16 พฤษภาคม 2547 22:22 น. - comment id 268990
ภาษาสวย ไพเราะมากเลยครับ
16 พฤษภาคม 2547 23:04 น. - comment id 269020
เขียนได้ไพเราะมองภาพนึกถึงจินตนาการ ว่าห้วยละหานคงจะงามเหลือใจนะคะ
16 พฤษภาคม 2547 23:04 น. - comment id 269021
ฝนเพิ่งหยุดหยาดสาย พุดพัดชานั่งนิ่งเงียบลำพังดูสายฝนพราก ฟังบทเพลงฝัน..อันงามงด และกับบทกวีนี้ที่ช่างแสนเศร้า สำหรับคนไกลบ้าน ยามคิดถึงบ้าน อย่างเหลือเกิน..แล้วค่ะ รักและรอมานาน
17 พฤษภาคม 2547 06:32 น. - comment id 269138
หลงใหลวิถีแห่งกวีมาตั้งแต่อยู่ในรั้วมหาลัย ออกมาทำมาหากินก็ยังเสพย์และสร้างสรรสิ่งที่รักเรื่อยมา พบพานเวทีแห่งกวีไทยโพเอ็มฯด้วยการแนะนำของรุ่นพี่ท่านหนึ่ง พบว่าที่นี่ให้ความจริงใจต้อนรับขับสู้นักร้อนกรองนิรนาม เลยขอขึ้นเวทีสำแดงความขี้เท่อตามแต่โอกาศและอารมณ์จักพาไป ผู้คนที่นี่เมตตาต้อนรับ ยังความปิติยิ่งยวด -คุณอัลมิตรา นามนี้จดจารอยู่ในความทรงจำตลอดมา ค่าที่เป็นนักร้อยกรองสตรีลือนาม ผลงานหรูระยับคลาสสิคต่อความรู้สึก ขอบคุณครับที่กรุณาชำเลืองให้กำลังใจกัน -คุณเรไร คงเป็นนักร้อยกรองอีกท่านหนึ่งที่ขอขอบคุณ -คุณทิกิ พบพานผลงานของท่านเสมอมา ขอบคุณที่เติมฝันให้กับรุ่นน้อง -คุณพุด พัดชา ดอกไม้สยามหอมเย็น เจ้าของสำนวนหวิวหวานลุ่มลึก เข้าใจว่าสายเลือดแห่งกำเหนิดน่าจักเป็นคนลุ่มน้ำใกล้เคียงกัน ของคุณครับที่ให้กำลังใจ
17 พฤษภาคม 2547 07:07 น. - comment id 269149
เข้ามาอ่านข้างบนแล้วเกรงๆค่ะ อิๆ เหมือนมีรังสีกวีเฉิดฉายผ่านจอคอมออมายังไงไม่รู้ อืม..เมื่อไหร่เราจะแต่งกลอนงามๆ แบบนี้ได้บ้างนะ งามมากค่ะ :)
17 พฤษภาคม 2547 10:21 น. - comment id 269216
แว่วเสียงเพียงน้ำไหล เหลือบแลไปในสายธาร มัจฉาว่าย วนนาน งามตระการปานเทพดล **ช่างน่ายินดีกับผู้ที่ได้ชมธรรมชาติที่สวยงามเช่นนั้นจริง ๆ ครับ ยโส อรินครับ แวะมาอ่านและให้กำลังใจ พร้อมกับชมไพรในบทกวีของคุณวนัสนันท์
17 พฤษภาคม 2547 13:19 น. - comment id 269336
เขียนได้งาม อ่านแล้วตาม.ความรู้สึกได้ชัดเจน.. เข้ามาทักทาย คุณรพี.. สวัสดีครับ..
17 พฤษภาคม 2547 14:07 น. - comment id 269369
น่าไปมั้งจัง คิคิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยน่าจะให้รางวัลคุณบ้างนะ คิ_คิ เขียนซะเห็นภาพเช่นนี้ ไม่ทำให้คุณต้องเสียเวลาเปล่าแน่ครับ ภายในอาทิตย์นี้ ไปชื่นชมแน่ครับ แวะมาทักทายครับ
17 พฤษภาคม 2547 15:22 น. - comment id 269411
ไพเราะและสวยงามมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ แต่งเก่งจัง แวะมาชื่นชมผลงานนะค่ะ
17 พฤษภาคม 2547 21:23 น. - comment id 269654
น้อมคารวะ:- 1.วนัสนันท์ เจ้าของภาษาเร้ารึงใจในอารมณ์กวี 2.ยโส ลีลากวีเรียบลื่นดั่งสายน้ำ 3.ผู้เฒ่า...โง่งม นักกลอนสายฟ้าแลบ แกล้งทำโง่ 4.เมกกะ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ 5.ผู้หญิงไร้เงา นามนี้เป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่มานาน ขอพระคุณครับ.