บินมานาน ผ่านปากแม่นำ โผเข้าไปโฉบใกล้ เรือประมง ฉวัดเฉวียนอยู่หลายรอบ หลายตลบ พลันมองเห็นกลุ่มนกหลากหลายชนิด ค่อยๆลอยละล่อง บินฉิว บ้างบินสูง บ้างบินตำ แต่ก็เคารพในกติกาของลำดับนก อดไม่ได้ต้องถามเสียหน่อย เพื่อนจ๋าไปไหนกันเหรอ เธอตามเรามาสิ มี บ้านของนกหลังใหญ่ที่เรามักแวะไปเยี่ยมกันเสมอ บ้านนกตะวัน อือม์ ชื่อแปลกดีนะ นกแห่งดวงตะวัน ก็เห็นจะมีก็คือครุฑ ผู้ที่เหาะเหินเดินอากาศ อยู่ในโลกจริง และโลก ฝัน ยังไม่ค่อยเข้าใจ ในโลกจริงคืออย่างไร อ้าว เงินธนบัตรของไทย ไม่ใส่ครุฑไว้ก็ไม่ใช่ของแท้ วันเดือนปีผ่านนานเท่าไร ครุฑก็กางปีกกว้างอยู่อย่างนั้น ไม่เคยได้ยินว่า ครุฑ ปีกหัก ได้ยินแต่นกปีกหัก เธอไปเถอะ เดี๋ยวบางทีฉันก็อาจตามไปเยี่ยม นกนางนวลมองตามเหล่าฝูงนกไปจนลับตา แสงตะวันที่โรยตัวอ่อนยามเย็น อากาศกำลังสบาย เจ้าหล่อนก็เริ่มโผผิน ไปแวะบ้านเราที่หน้าช่องสามหนองแขมบ้างดีกว่า มันถูกทิ้งร้างว่างเปล่าไว้นาน จะมีนกตัวใดกล้าแอบไปร่อนลงในป่ารกบ้างไหมนะ ไหนจะต้นสนใหญ่ ไมยราพยักษ์ พงหญ้ารกๆ จนครอบคลุมไม่เห็นตัวบ้านเลย บินผ่านดีกว่า แอบไปดูบ้านครุฑ ที่มาอ้อนเราเสียหน่อย ********************* + + + + + + + + + + +************************* นกนางนวล น้องนก วิหคยักษ์ ผินลงพัก โผผิน แดนดินสวย เห็นสวนสน ส่องเห็น เจิดจรวย เหมือนเสียงอวย พรเหมือน เตือนตามลม ถ้อยคำบอก ออกถ้อย ข้อยสู้ร้อน หวังมาอ้อน อิงหวัง หรือ ขอดขม สัยสงนัก ผลักไส กลัวคารม คำบาดคม คงคำ คล้ายมั่นคง ยอมมลาย ฤายอม ละพยศ ให้เกียรติลด ลุให้ ราวลุ่มหลง อยู่สวรรค์ นั้นอยู่ เหนือเอกองค์ เอื้ออนงค์ หน่อเอื้อ เจือไมตรี เอ่ยคำเชย ชมเอ่ย เผยจากจิต ขอผูกมิตร หมายขอ ล้อกาศี (กาศี=ผู้ส่องแสง =ตะวัน) ด้วยนามน้อง คล้องด้วย ดวงรวี ปักษิบดี ดังปัก หมุดไทยโพม (ปักษิบดี= เจ้าแห่งนก) กวีแกร่ง ก่องกวี ศรีสยาม สมญานาม งามสม คารมโหม นกตะวัน นั้นนก เด่นดาวโดม ล่องพาโคม คึกล่อง ก้องนภา โอ้อกเอ๋ย เอมโอ้ โล้ปีกร่อน โผฉว่อน วนโผ ทั่วภูผา น้องนั้นเป็น แค่น้อง ไร้หน้าตา ใยจึงมา มุ่งไย เย้าหยอกกัน โลกท่านกว้าง สร้างโลก ด้วยมือท่าน สวรรค์นั่น นกสวรรค์ อยู่สุขสันต์ กวีเอก หนึ่งกวี เพชรแพรวพรรณ นกตะวัน วริศนก เกริกเกียรติ์ไทย
13 เมษายน 2547 23:34 น. - comment id 246836
ใช้ภาษาสวย .. และก็ไพเพราะมากเลยค่ะ แก้ม .. แวะมาทักทายค่ะ
14 เมษายน 2547 00:37 น. - comment id 246860
ภาษา อ่านรื่นดีนะครับ พี่ ภัส
14 เมษายน 2547 06:36 น. - comment id 246919
...ขอบคุณแก้มเรื่อเจือกลิ่หอม ..หากใครดอมด่าวดิ้นถวิลหวัง ..แก้มงามนวลอวลใจก่อพลัง ..คนรักจังเยอะหนาคนน่ารัก
14 เมษายน 2547 06:40 น. - comment id 246922
ตอบ แม่จิตร กำลังใจได้จากเธอทุกคำเช้า ..ซึ้งใจเรายิ้มสู้อย่างสุขสันต์ ..ขอเธอสบายใจนับอนันต์ เก่งเกินกั้นทะลุยอดพระสุเมรุ..
14 เมษายน 2547 08:34 น. - comment id 246938
เข้ามาอ่านบานใจให้แจ่มจิต แสงอาทิตย์สาดทอห่อคำหวาน หากทนทู้อยู่ไปไม่ได้การ กลัวรำคาญคำฉันวันนี้ลา
14 เมษายน 2547 12:44 น. - comment id 246994
ใช้ภาษได้ดีและสวยมากเลยค่ะ แบบว่าเป็นอะไรที่ช็อกโกแต่งไม่ได้เรื่องเลยล่ะถ้าให้แต่งนะคะ มาทักทายค่าพี่ตะวันหวาน....จ๋อย
14 เมษายน 2547 15:06 น. - comment id 247034
อืมม ลีลาและคารมยังลื่นไหลยิ่งสายลมห่มฟ้าตลอดเวลา..........*_*
14 เมษายน 2547 16:01 น. - comment id 247048
บทกลอนเพราะ..น่ารักมากค่ะ..แวะมาทักทายค่ะ
14 เมษายน 2547 16:59 น. - comment id 247083
ภาษางามมากครับ เขียนได้เก่ง อ่านแล้วชวนให้คิคครุ่นคำนึงหา เก่งจังเลยครับ มาด้วยใจ
14 เมษายน 2547 17:39 น. - comment id 247107
กลอนไพเราะและสวยงามมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ มาชื่นชมผลงานนะค่ะ
14 เมษายน 2547 18:01 น. - comment id 247125
ไพเราะ..มากเลยคะ... ให้..ความรู้สึก.. ดีจัง.. เรน..แวะมา...ชื่นชม..นะคะ..
14 เมษายน 2547 21:55 น. - comment id 247251
ตอบรวมทุกท่านนะคะ อบอุ่นแลซึ้งนำใจจริงๆค่ะ คุณ นก คุณช้อค คุณหลิว คุณรา คุณเรน คุณผู้หญิง ขอบคุณค่ะ