เหมือนโลกทั้งใบ..มืดหม่น เพราะการจากไปของคน..ที่เคยใกล้ คนที่เปรียบเป็นไฟส่องทาง..มาห่างไกล ภาพที่เห็นก็ไม่สดใส..เหมือนอย่างเคย ............................
31 กรกฎาคม 2546 10:38 น. - comment id 157622
ความจริงใจไม่มีก็ดีแล้ว คงต่างเดินตามแนวอย่าแผ้วผ่าน แม้ความหลังฝังมาทรมาน ก็ไม่ซานซมไปให้เธอแล
31 กรกฎาคม 2546 10:53 น. - comment id 157626
.....คงจะมืดไปอีกนาน ทรมานกับใจที่อ่อนล้า พูดเหมือนคนไม่มีซึ่งวิญญา ดังกับว่าชีพนี้จะดับไป .....ใช่ว่าแสงจะมีแต่ที่เขา ในตัวเจ้าก็มีอย่างนี้ได้ หากรู้จักขับแสงแรงจากใจ ก็เหมือนไฟส่องทางให้เจ้าเอง .....ที่พูดมาหมายใจให้แข็งแกร่ง ให้เป็นแสงแห่งตนพ้นข่มเหง ตนเป็นที่พึ่งของตนเอง ขอบรรเลงเป็นกลอนเพื่อสอนใจ
31 กรกฎาคม 2546 11:23 น. - comment id 157636
.....กำลังให้ตัวเองนะค่ะ แข้มแข็งไว้นะค่ะ
31 กรกฎาคม 2546 14:53 น. - comment id 157682
=^-^=
31 กรกฎาคม 2546 19:09 น. - comment id 157769
..เรนแวะมา... เป็นกำลังใจ...นะคะ.. บทกลอน..สั้นๆ... ความหมาย....มากมาย...
13 สิงหาคม 2546 15:12 น. - comment id 159768
ไฟสุม ฟ้าฉ่ำไร้ดาวเคียง จันทร์ข้าง แรมลี้ฉาบฉายร่าง บ่ขึ้น ดาวดับด่ำจืดจาง แลเห็น ลางลาง คอยจ่างปักษ์อย่ามึน ลองจ้องเบิ่งดู รี่จับปรางนวลน้อง มาหอม ซุกจมูกดมดอม เก็บไว้ ยาหยีปัดบ่ยอม หลบหลีก อายแดง โจมจู่อิงแอบไซร้ แก้มพี่แนบนาง พระเพลิงสุมพ่ายร้อน พิษสวาท กอดแน่นแนบชิดบาด ใจเหลือ ไฟผิงดั่งร้อนผาด บ่เท่า ใจผ่าวเผาคุเหนือ ไฟในกายสอง. แวะมานำไฟส่องทางในชีวิตให้อะ...อิอิ