ต้นวสันต์กับค่ำคืนนี้ที่สายฝนกำลังหว่านไหวอาบทาความมืดหม่น..... ท้องฟ้าในยามต้นฝนนั้นมัวซัว ม่านหมอกของเมฆฝน...พาให้ใจตรม.. หนุ่มนาเพิ่งจะเสร็จจากงานหว่านไถ ที่เพียรพยายามสืบสาน... ด้วยหัวใจรักและพลีใจให้กับท้องทุ่ง ดอกผักบุ้งและรวงข้าว..มานานนับ อายดินกลิ่นฝนที่โรยอวลมาแตะต้องจมูกในยามนี้..กำซาบ..ซ่านหัวใจ ในวันนี้ที่ฝนเดือนเจ็ดกำลังบ่งสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้น...ของชาวนา หนุ่มนาไม่รอช้าที่จะบ่มเพาะเมล์ดพันธุ์แห่งชีวิต...กับต้นกล้าแห่งความฝัน หอมหยาดฝนที่ราดรดลงบนดวงหน้าที่เมื่อเช้านี้ พาให้หัวใจยังตื่น ชื่นมื่นรับฝัน กับวันนี้ที่ได้เรียนรู้ว่า..ฝนฟ้าและฤดูกาลคือรางวัลที่ธรรมชาติกำนัล ให้กับผู้ที่มีดวงใจละมุนละไม..ไม่อ่อนแอ และแพ้พ่ายต่อชะตาชีวิต แต่กลับรู้ซึ้งถึงคุณค่าแห่งสายฝน...ที่ยังหมุนเวียนมาประสบพบเจอทุกๆ ฤดูกาล ในยามที่เราท้อแท้ ในวันใดวันหนึ่งของชีวิต..เพียงได้ยินเสียงฟ้าฝนคะนอง และสายลมที่พริ้วพราว..ทำให้ความทุกข์ที่มีอยู่อันตรธานอย่างน่าอัศจรรย์ ยอดผักบุ้งที่แข่งกันชูช่อชัน อวดโฉม คอยรอสาวนามาเด็ดเดี่ยว..เกี่ยวเก็บ บางคนอาจจะขาดประโยชน์ในยามที่สายกระหน่ำ.. แต่สำหรับชาวนาอย่างฉัน สายฝนทำให้ยอดผักบุ้งและตำลึงอวบอิ่มและเขียวสด...เด็ดมาผัดมาแกง... แกล้มแกงส้มปลาหมอและผักลิ้น....เป็นกับข้าวงามง่ายที่ไม่ต้องแลกด้วยเงิน ดอกไม้ดินที่เบ่งบาน..รอให้มือเรียวงามแห่งสาวชาวนามาประคองเด็ด... อย่างรู้รักรู้ค่าในงามดอกดินและกลิ่นฝน....หาใช่ดอกเบี้ยงามในกรุงกรง ผืนแผ่นดินที่เหี่ยวแห้งกลับอุ้มน้ำ..พร้อมให้ต้นไม้ได้หยั่งรากและฝังหัว... ผักกระเฉดในคลองก็เริ่มยืดยอด...กับสายน้ำที่ขุ่นข้นด้วยโคลนดินและตม เป็นวิถีที่เกื้อกูลและเอื้ออาทรให้ผักกระเฉดได้ดูดซับอาหารจากโคลนดิน และให้สมค่าที่ธรรมชาตินั้น เป็นวงจรที่เอื้ออาทรในทุกๆ ชีวิต..... คนเพาะปลูกเห็นประโยชน์ในสายฝนและผืนแผ่นดิน. ผักกาดขาวและผักกวางตุ้งในร่องสวนระบัดใบอรชร...หน่อไม้แตกกอรอรัก อีกเม็ดฝนที่ตกกระทบหลังคามุงจาก เป็นเสียงดนตรีที่หาฟังได้ยาก แต่ชาวนากลับชอบใจและพิสมัยในเพลงสายฝนพรำ..... เป็นดนตรีบรรเลงเพลงรักและเพลงช้ำระกำทรวงได้ในเพลงเดียว... ฉันชอบถอดรองเท้าเดินย้ำโคลนดินที่เหลวนุ่มและอุ่นเท้า... ราวกับว่าหัวใจไม่ได้รู้สึกถึงความหนาวเหน็บแห่งสายฝนนี้ หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน...เพลงครวญดั่งแววเหนือยอดกระถินอวบน้ำ เป็นเพลงรักเพลงหวานที่บันดาลหัวใจให้หนุ่มสาวชาวนาหัวใจบรรเจิด.. เสียงขูดมะพร้าวจากบ้านไหนดังแว่วมา...ราวกับจะแข่งกับเสียงฟ้าฝน ที่คะนองคึก...ผสมผสานเป็นเสียงดนตรีบรรเลงกล่อมท้องทุ่งในยามเย็น ในยามนี้ฉันคิดถึงบทเพลงแสนรักบทเพลงหนึ่ง....ที่ขึ้นต้นว่า พี่ลืมยอดเถาตำลึงรายเรียง... น้องเก็บเอามาแกงเลียงเพื่อเลี้ยงพี่เจ้า แกงคั่วถั่วฝักยาว... อีกน้ำพริกปลาเจ๋า เราสองคนทนกินทนกลืน....... สายฝน หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝนยังทำให้ดอกรักในหัวใจผลิบาน... ให้คิดถึงยอดดวงใจสำหรับบางคนที่รักร้าว...กับหัวใจแห้งเหี่ยว รอให้หยาดฝนมาประทานพรให้เห็นงามในคุณค่าใกล้ตัว..... ไม่ต้องไขว่คว้าหาดวงใจที่แห้งแล้งมาครอบครอง..ให้เปลืองใจ ดอกกระเฉดสีเหลืองที่เก็บมากองอยู่ตัดกับใบตองสีเขียวสด เป็นศิลปกรรมที่บรรจง...แต่งแต้มให้หรูเริดได้ไม่ยาก...... ต่างจากดอกผักบุ้งและอัญชันที่ริ้มรั้วข้างบ้าน...ม่วงครามและง่ายงาม เป็นพลังใจให้เรียนรู้ว่า..ทุกเฉดสีของธรรมชาติ มีความงามงด... ที่สมดุลในหน้าที่และเผ่าพันธุ์ของตนเอง...หาได้ไร้ค่าแม้แต่สิ่งเดียว ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ทำนาหว่านกล้า เดี่ยวก็เปียก เดี่ยวก็แห้ง........ แต่ชาวนาอย่างฉันก็สุขใจที่ได้ยืนอยู่กลางสายฝน... ชื่นชมกับดอกดินและดอกฝน ปนดอกไม้ใบหญ้าที่เริงระบำ ฝนจ๋า.....ดินจ๋า ในวันนี้ที่อยากจะบอกว่า สายฝนพรำ และหอมดินกลิ่นไอฝนนั้นเป็นโอสถสมานใจที่รานร้าว.. ให้ฟื้นคืน รวมเรี่ยวแรงหยาดสุดท้ายที่มี....ขุดเสาะหาทรัยพ์สมบัติ ที่บรรพบุรุษได้ฝังไว้ในผืนดิน ...พลิกท้องนาท้องไรให้มีค่าอีกครั้ง ฉันจะได้ยินเสียงเพลงมนต์รักลูกทุ่งบรรเลิงแกล้มเสียงขลุ่ย..... ที่ต้องแหงนหน้ามองยอดต้นตาล ...หาเสียงขลุ่ยครวญแผ่วมา พลิ้วผ่านทิวแถวต้นตาล.....เป็นมนต์เพลงที่ตรึงหัวใจได้ชะงัก ฝนเริ่มหนาเม็ดอีกครั้งแล้ว บทเพลงแห่งฤดูกาลกำลังทำหน้าที่ ฉันทานข้าวอิ่มเต็มท้อง แกงส้มผักลิ้นกับน้ำพริกแมงดา...... ที่วันนี้ได้แสดงฝีมือ ต้มยำตำแกงเอง...ด้วยขาดยอดดวงใจที่ลาลับ ท้องนากำลังระงมงำด้วยเสียงกบผสานเขียดตัวจ้อย....ราวกับจะสอนใจ ให้ดวงใจได้รับรู้โลกสองด้าน...ทั้งงามและรานร้าวในคราวเดียว... ฝากบทเพลงแห่งสายฝนในค่ำคืนนี้.....ถึงยอดดวงใจคนไกล ว่าสายฝน หอมดิน และกลิ่นอายของทุ่งรวงทองยังรอรับฝัน....... ในทุกๆ ฤดูกาลแห่งใจ......ฉันเปิดเพลง ฝากดิน เพื่อกล่อมเกลาหัวใจ ให้หลับใหลไปกับสายวสันต์...ดอกดินและกลิ่นทุ่งทอง...นิรันดร์ ดินเจ้าเอ๋ยข้าเคยอยู่ใกล้มาก่อน.. ดินอุ่นร้อนหรือเย็นก็เป็นเพื่อนฉัน ยามเมื่อเขาร้างไป ไกล ใจก็ยังนึกหวั่นหวั่น นี่อีกสักกี่วันถึงมา ดินอ้างว้างระทมขื่นขมตรมเศร้า.. ดินก็เหมือนเช่นเรารักเขาหนักหนา เขาเป็นเหมือนเจ้าดวงใจ..ดินเรียกเขาคืนมามา.. บอกเขาเถิดดินจ๋าข้าคอย อภัย เถิด ดิน.. ได้แนบซบไอกลิ่น ดินนั้นอุ่นไม่น้อย... อุ่นอกเขา อุ่นอกเขา เราก็พลอย.. อุ่นจากรัก ที่ฝังรอย อุ่นไม่น้อย ประทับใจ ดินช่วยซับน้ำตาข้าขอลาจาก.. ช่วยฝากซากรักเศร้าของเราได้ไหม ถ้าหากเขาไม่มาเยือน คงได้พบรักใหม่ ใหม่ ดินถมร่างฉันไว้ ให้จม
2 กรกฎาคม 2546 13:23 น. - comment id 150927
ชอบค่ะ
2 กรกฎาคม 2546 13:53 น. - comment id 150933
ฝนหยดไม่หมดหยาด ละอองดาษลงกราดดิน ซ่าเสียงคือเรียงสิน ไล่ร้อนผินให้สิ้นผล จากสรวงหล่นล่วงสืบ ทุกซอกหลืบไหลคืบลน ลิ่วฝอยเป็นย้อยฝน ซึมซาบถลพลอยล้นโถม กบเคียงจำเรียงค่ำ อึ่งอ่างร่ำอยู่ราวโรม พ้องหรรษ์กระชั้นโหม ช่างครื้นโครมมาโน้มขาน เมื่อโสมไม่โลมสรวง มาเร้นดวงลับยวงดาล พลบกล้ำก็คร่ำกาฬ เป็นมืดม่านบันดาลหมอง ทอแขเคยแผ่ไข มาล่วงไร้เลือนใสรอง เมฆข้นมาล้นครอง เป็นครรลองที่ต้องรอ
2 กรกฎาคม 2546 14:23 น. - comment id 150940
สวัสดีค่ะพี่นิว พี่นิว มาคราวนี้เศร้าจัง คิดถึงพี่นิวนะค่ะ
2 กรกฎาคม 2546 16:59 น. - comment id 150978
ใครทำให้อกหักหรือนี่ ถึงได้เศร้าขนาดนี้ได้ไงหนอ หรือสาวเหนือไม่ยอมมาเคล้าคลอ งั้นสาวใต้ขอดูแลต่อคงไม่ว่าอะไร ***อย่าโศกเศร้าไปเลยค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว แวะมาเป็นกำลังใจให้นะค่ะ***
2 กรกฎาคม 2546 18:02 น. - comment id 150998
And when you reach for love youll only need to reach for someone
2 กรกฎาคม 2546 18:08 น. - comment id 151002
สายวสันต์ตะวันลาพาใจโศก ราวหยุดโลกสิ้นหวานรานร้าวไหว ไม่มีฝันไม่มีวันไม่มีใจ มอดแล้วไฟเสน่หาลาแรมรอน..
2 กรกฎาคม 2546 19:29 น. - comment id 151022
มาปลอบใจคนเศร้าค่ะ...เป็นไงบ้างคะ...หายไปไหนตั้งนาน..ไม่สบายหรือเปล่าคะ...เป็นห่วงนะคะ...มาให้กำลังใจค่ะ..
2 กรกฎาคม 2546 20:02 น. - comment id 151036
^*^ ^*^ ^*^.......สดชื่นระคนเศร้า........^*^ พาใจเหงาหนาวเยือกเย็น แวะมาให้กําลังใจนะคะ ชื่นชมในอารมณ์ละมุนละไมจัง ^*^...................^____^...............^*^
2 กรกฎาคม 2546 20:49 น. - comment id 151068
:) ........................................... :)
2 กรกฎาคม 2546 22:58 น. - comment id 151150
บทกลอน..ของเรน.. ..ให้..พี่นิว..นะคะ.. ..มอบดอกไม้สีขาว.. ลมบางเบา ..ของสายฝน.. เก็บความเศร้า..หมองหม่น.. ให้พ้น ..จากใจ..พี่ชาย. อย่าร้องได้มั้ย.. แค่ใคร .. ที่เค้าห่างหาย ช่างเค้า ก็เค้าใจร้าย.. ไม่เห็นความหมาย.. ของพี่ชาย มีน้องน่ารัก.. คอยพิทักษ์ ไม่ให้..ใครทำร้าย. น้องจะคุ้มครอง..พี่ชาย. ไม่ให้..สาวใด..ทำร้าย..ได้แน่นอน... ...
3 กรกฎาคม 2546 00:03 น. - comment id 151186
ลำนำหวานผสานเสียงเรียงสู่โลก ยามลมโบกใบไม้พัดสะบัดไหว ท่วงทำนองของลมพรมใบไม้ บอกดวงใจให้สดับรับเปลี่ยนแปร เมฆเคยงามยามตะวันที่ฉันฉาย กลับเคลื่อนคลายเป็นหม่นบนความแพ้ รักมาจรจำพรากจากดวงแด ชะม้ายแลเมฆดำที่คล้ำตา จะรั้งหมายสิ่งใดได้จริงแท้ ความเปลี่ยนแปรมักปรากฏบทมีค่า เมฆที่ขาวกลับหมองคล้ำยามเคลื่อนคลา สายวรรษาก็ขาดสายได้สักวัน @บุรุษแห่งสายน้ำ ...มาเยี่ยมเยียนค่ะ
3 กรกฎาคม 2546 00:05 น. - comment id 151189
ดีจัง ฝนลงแล้วปลาน้ำใหม่มีให้กินเหลือเฟือ ไม่ต้องพึ่งหัวปลาช่อนแห้งร้อยเป็นพวงแขวนเหนือเตาไฟอีกแล้ว พักไว้ก่อน หัวปลาช่อนต้มโคล้งจับปลาจับกบที่จำศิลอยู่ใต้ดินได้น้ำฝนแรกก็พากันทะลึ่งดินขึ้นมาให้กินดีกว่า มาเถอะข้าวปลาก็เสร็จแล้วควันฉุยจากหม้อดิน น่ากินจัง เอ๊า ลองนี่สักกรึ๊บ แก้หนาวแก้เหนื่อย เฮ้อ
4 กรกฎาคม 2546 17:05 น. - comment id 151614
กลอนก่อนหน้านี้ดูมีความสุขมากนะแต่ทำไมวันนี้กลับมาเศร้า เพราะอะไร ? เป็นไรหรือเปล่า เป็นห่วง !