หอมหอมตริตรองใจ ดอกไม้ไพรแก้วกาหลง โดนเด่นอยู่กลางดง งามสะพร่างหว่างหัวใจ อาทรภมรเมือง บ่ชำเรืองแลผู้ใด ใจรักภักดิ์ดีไว้ ประพาสป่า ณ แดนดิน ฤดูก็คล้อยเคลื่อน บ่ได้เยือนแก้วกระถิน บ่มช้ำกล้ำกลืนกิน หนาวจำทนจนรุ่งราง ระยิบระยับพราว กลีบพรายขาวดั่งดาวพร่าง จะรักหรือผ่อนวาง ดลหัวใจให้ป่วนแท้ แมลงภู่ผึ้งป่าดอน อยากคลึงคลอนดอกดวงแด เพราะรักยากหักแท้ จึ่งชอกช้ำกับบุพเพฯ บานงามนามมงคล คลอหยาดฝนพรมเสน่ห์ สูงส่งใช่รักเล่ห์ ทั่วทั้งผองครองบูชา ควรคู่ด้วยผึ้งหลวง ดุจดาวดวงสถิตย์ฟ้า ผึ้งป่าเหล่านกกา อย่าแม้นเปรียบเทียบความงาม อัญเชิญเข้าครองเมือง รักเรื่อเรืองระบัดนาม ดอกแก้วก็ไหวหวาม บริสุทธิ์เกินกล่าวพรรณ จำจรก็ตัดใจ อันผึ้งไพรไหนสำคัญ อกร้าวใคร่อาสัญ อยู่อ้างว้างกลางดงแดน .......................... คนไทยโบราณเชื่อว่า เรือนใดปลูกต้นแก้วไว้ประดับบ้าน ทำให้คนในบ้านมีความสุขและมีคุณค่าสูง เพราะคำว่าแก้วนั้นหมายถึงสิ่งที่ดีมีค่าสูง เป็นที่นับถือบูชาของคนทั่วไป ซึ่งโบราณได้เปรียบว่า เหมือนดวงแก้ว ดอกแก้วมีกลีบดอกขาวพร่างบริสุทธิ์ หอมนวล แมลงภู่ผึ้งชอบตอมตรมยิ่งนัก และถือเป็นไม้มงคล คู่ควรกับสิ่งทีดีๆ สูงส่ง..เสมอ ... แต่ในวันนี้นั้นลำน้ำน่านเป็นเพียงผึ้งไพร... (ไม้ประดับดอทคอมเอื้อเฟื้อข้อมูล)
7 มิถุนายน 2546 00:26 น. - comment id 143642
ข้อความ มีเมฆฝนเทาทึมครึ้มพยับ ฉายทาบทับกับน้ำตาฟ้าซึมเศร้า น้ำตาขวัญพรูพร่างแข่งกับดาว ร่วงจากหาวเรณูสิ้นกลิ่นแก้วกับกาลเวลา.. ใจหม่นหมองครองหม่นรอผันผ่าน เมฆครึ้มฝนบันดาลใจเกิดฝ้า ห้องหัวใจบรรเลงเพลงเหว่ว้า จูบพสุธา..กระซิบว่าโหยหาใคร.. มองแมกไม้มีเงาตะคุ่มซ่อน ราวรักซ้อนซ่อนรักให้อ่อนไหว เส้นโค้งฟ้าทำไมหนอช่างแสนไกล นานเพียงใดเส้นหัวใจเราสองจะต่อกัน... ชุ่มน้ำค้างพร่างพราวสะอาดหนาว ใจดวงร้าวหนาวใจจนถึงสั่น โอ้ละหนอเพลงรักไยเงียบงัน อ้างว้างคว้างขวัญสุดรันทด.. รักซ่อนซึ้งซุกใจในดวงจิต ฟ้าลิขิตชะตาชี้กำหนด ให้เส้นทางรักสองเราแค่ผ่านพบ ใจวูบเศร้าสลดหมดสิ้นแล้วแก้วกลางใจ! เวอร์ชั่นนี้อกหักคล้ายแก้วร่วงกลีบกระจายกลางใจ..ค่ะ ที่บ้านมีแก้วเชยชายคา เชยชิดเรือนจำปี ที่วันนี้มีอายุนานถึง15ปีแล้วค่ะ และทุกเรื่องราวที่พุดพัดชารจนามักเด็ดดอกแก้วมาฝากฝันฝากใจหอมกรุ่นกำจายให้อวลนวลละมุนใจมอบแด่ทุกดวงใจชาวไทยโพเอมมานานเนื่อง..
7 มิถุนายน 2546 15:27 น. - comment id 143741
พบพานงานของผู้ใช้นามลำน้ำน่าน ดูเหมือนจักเป็นนามใหม่! แต่...ทว่า ฝีไม้ลายมือ ถ้อยคำ ความคิดอ่าน มิใช่คนใหม่แน่นอน คงเป็นกวีเดียวดายจากสำนักอันลึกลับสักแห่ง อารมณ์ท่านลำน้ำน่านลุ่มลึก จินตนาการสุดขอบฟ้า ยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ ขอชมเชยฝากไว้ในแผ่นดิน.
7 มิถุนายน 2546 15:54 น. - comment id 143760
ูููู^__^ เคยปลูกที่บ้านนะดอกแก้วเนี้ยแต่ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว
7 มิถุนายน 2546 16:14 น. - comment id 143772
แ ค่ ม อ ง รู ป ก็ ไ ด้ ก ลิ่ น . . ห๊ อ ม - ห อ ม อิ อิ . . . เ ว่ อ ร์ ไ ป นิ๊ ด ด นึ ง =^__________^=
7 มิถุนายน 2546 17:37 น. - comment id 143816
ดอกแก้ว ณ.กลางดง กลิ่นหอมคงขจรไกล ดอกแก้วอยู่ที่ใด โดดเด่นในดวงกมล แก้วเกิดในกลางไพร ย่อมสดใสให้ปวงชน ประทับในใจทุกคน ดอกแก้วล้น..คุณค่างาม.. ชอบดอกแก้ว...ทั้งความงามและกลิ่นหอมค่ะ..
7 มิถุนายน 2546 19:42 น. - comment id 143831
^J^ .................... มาอ่าน ด้วยความรู้สึกที่ดี.......ขอบคุณครับ
7 มิถุนายน 2546 21:38 น. - comment id 143849
เสียงผึ้งไพร....ไขขานสะท้านเสียง ถ้อยลำเลียงความในใจอยู่ในถ้อย คอยเจียมตนเจียมใจในวันคอย แลเหลียวแก้วช่อน้อยคอยเหลียวแล หักใจลาคราแก้วลับไม่กลับไพร ตัดดวงใจให้ยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะต่ำศักดิ์แม้รักล้นพ้นดวงแด ต้องมาแพ้พ่ายบุพเพหักเหใจ โอ้ผึ้งไพร......ไยเผยเอ่ยคำท้อ หมดเยื่อใยตัดพ้อหรือไฉน แก้วกลางดงยังคงมิตรสนิทใจ อยู่หนใดยังมิเลือน....เพื่อนพนา ทุกคืนค่ำยังหมายทำความสดชื่น กำจายกลิ่นให้ระรื่นชื่นนาสา มิเลือกชั้นชนไหนไพรพารา หวังเพียงสร้างคุณค่าที่ตนมี เป็นดอกไม้ก็เพียงหมายให้กลิ่นหอม ช่วยชุบย้อมชนทุกข์ให้สุขศรี ดื่มด่ำใจในบุปผาคราราตรี แม้นแก้วนี้จะวางวายในรุ่งวัน ขอบคุณค่ะคุณลำน้ำน่าน ที่รังสรรค์กวีบทนี้มามอบให้ดอกแก้ว และทุกท่านในที่นี้ ในความเป็นไประหว่างมิตรไม่มีใดมีค่าเกินกว่า ..ความเอื้ออาทรต่อกันนะคะ .. กวีบทนี้ให้ทั้งจินตนาการและความอบอุ่นใจค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
7 มิถุนายน 2546 22:16 น. - comment id 143861
ที่บ้านก็มีดอกแก้วเเหมือนกันค่ะ ออกดอกบานไสว สีขาวน่ารักน่าเอ็นดู
7 มิถุนายน 2546 23:59 น. - comment id 143897
**พุดพัชา **พรระวี **พี่ไอซ์ **แม่มดน้อย **ราชิกา **กฤษณะ **นักเดินทาง **คุณดอกแก้ว ขอบคุณนะครับที่แวะเข้ามาชมความงามของดอกก้ว จริงๆ แล้ว ผมชอบดอกไม้ไทยๆ มาก สมัยเด็กๆ ก็ปลูกบ่อย แต่พอโต ก็ไม่มีโอกาสทำแบบนั้นอีก แต่ก็ยังรักและคิดถึงดอกแก้วเสมอครับ สำหรับคุณพรระวี พุดพัดชา และดอกแก้ว ขอบคุณที่นำบทกวีมาต่อเติมไว้ให้ชวนฝัน สวนคุณพรวีก็ชมเสียมากมาย จนผมไม่กล้ารับคำชมนี้เลยครับ
8 มิถุนายน 2546 00:37 น. - comment id 143903
เป็นคนที่แพ้กลิ่นดอกไม้ที่มีกลิ่นแรง แต่ก็ชอบบทกวีดอกแก้วมาก สละสลวยและไพเราะจับใจค่ะ
8 มิถุนายน 2546 00:43 น. - comment id 143905
ขอบคุณดอกสเลเต ครับ ดอกสเลเต เป็นดอกไม้ในดวงใจลำน้ำน่าน ว่าง ๆจะนำดอกสเลตมาบันดาลใจ ประโลมใจนะครับ
8 มิถุนายน 2546 02:47 น. - comment id 143921
ลำน้ำน่าน พุดพัดชา ดอกแก้ว เหมือนหนังเรื่องสามทหารเลือ ได้อ่านกลอนเต็มอิ่มกลอนของท่านทรงคุณค่าจริง ๆ
8 มิถุนายน 2546 20:06 น. - comment id 144029
ชอบดอกปีบ แต่งดอกปีบบ้างจิคะ หุหุ ขาวๆเมหือนกัน หอมอ่อนๆด้วย
9 มิถุนายน 2546 12:37 น. - comment id 144128
ดอกแก้ว อีกชื่อหนึ่งคือ ดอกพิกุลใช่ มั้ย ครูนิว..
9 มิถุนายน 2546 15:35 น. - comment id 144163
น้องแต่งกลอนเก่งจัง เยี่ยม! ไปเลยจ๊ะ ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะ
9 มิถุนายน 2546 21:25 น. - comment id 144268
หมูอ้วน ณ บ้านนอก -ครับ พี่ดอกแก้วคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับดอกพิกุลครับ พี่ดอกแก้ว..มีชื่อว่า อจ.บุษกร เมธางกูร พี่เขาสอนธรรมะอยู่ ตามไปอ่านดูได้ในนามดอกแก้ว หรือ อาจารย์บุษกร เมธางกูร ได้ครับที่ http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=dokgaew13 และ หน้าสอนธรรมที่: http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=dokgaew
10 มิถุนายน 2546 22:55 น. - comment id 144558
เพิ่งทราบวันนี้เองว่าคนที่รอคอยให้กลับมานั้นวันนี้มาบานสะพรั่งพร้อมสายฝนให้หอมงาม.ทุกนวลเนื้อใจไทยโพเอมแล้ว.. คิดถึงรักและยังจดจำเสมอมาค่ะ
16 มิถุนายน 2546 20:18 น. - comment id 144698
ค่ะได้รู้จักดอกแก้วมากขึ้นกว่าเดิมเลย
27 มิถุนายน 2546 13:41 น. - comment id 144788
แปะๆๆๆ ชื่นชมกับทุกๆคนครับ..
27 มิถุนายน 2546 13:43 น. - comment id 144789
แปะๆๆๆ ชื่นชมกับทุกๆคนครับ..