ลมบรรเลง ลำนำ กล่อมลำน้ำ พลิ้วแผ่วตาม เพลงพ้อ ซอใบไผ่ โอดสะอื้น ขื่นขม ระทมใจ ตามวิสัย คนจร ก่อนนิทรา ดอกเอ๋ย เจ้าดอกขจร เห็นนกขมิ้นเหลืองอ่อน ร่อนถลา หากเหนื่อยนัก ก็พักก่อน ผ่อนกายา เจ้านอนได้ ทุกเถื่อนท่า ไม่อาทร เสียงหริ่งหรีด กรีดร้อง ก้องแนวป่า หยาดน้ำตา ก็หยดรอง ต้องปลอกหมอน ยิ่งฝืนจำ ยิ่งช้ำใจ วิสัยจร ถึงบังอร ยังย้อนยอก หลอกกมล ใจเหว่ว้า อ้างว้าง วังเวงนัก สิ้นแหล่งพัก หลักพิง ยิ่งสับสน ไร้เสียงพร่ำ คำหวาน บันดานดล ข้ามันคน จัดจร จะอ้อนใคร โอ้อกเอ๋ย เคยฝัน ถึงวันหวาน จากวันวาน ยังอาวรณ์ คนอ่อนไหว พิษผิดหวัง ยังจำ ย้ำหทัย ในหัวใจ จึงจากจร เร่รอนมา เคยผ่านร้อน ผ่านฝน ทนลมหนาว เคยเก็บเดือน เก็บดาว พราวหมอกฝ้า รู้บทร้อย ถ้อยคำ จำนรรจา เคยสัมผัส น้ำตา รสอาลัย ดอกเอ๋ย เจ้าดอกขจร นกขมิ้นเหลืองอ่อนจะนอนไหน จะออดอ้อน ไออุ่น หนุนอกใคร ตอบไม่ได้ ดอกหนา ข้าคนจร
22 มีนาคม 2546 13:17 น. - comment id 117485
ณ..เวิ้งฟ้าหว่างฝันอันพรรณราย แลแสงสายรังสิมันตุ์ตระการสี เลื่อมระยับวับวามล้ำพรรณี หลงฤดีมีจิตพินิจชม ทิชากรบินล้อเคียงคลอคู่ ผละจากหมู่ลัดฟ้างามตาสม ปีกโบยบางยังโบกชมโลกกลม บินเล่นลมเริงร่านภาเพลิน ครั้นเหนื่อยนักจักร่อนมานอนคู่ บนเนินภูลำเนาว์ถิ่นเขาเขิน ไม่ใหลหลงกรงทองอันผ่องเกิน ขอดำเนินเหิรฟ้าพเนจร อยู่ใต้ฟ้าคราหนาวจักเข้าแอบ กายนิ่งแนบกางกอดพร่ำพลอดสมร ครั้นลมโบกโกรกกล้ำย้ำบั่นทอน มิสั่นคลอนมั่นรัก...ประจักษ์เคียงฯ
22 มีนาคม 2546 13:59 น. - comment id 117497
นกกระปูด ตูดแดง แฝงหมากม่วง (มะม่วง) ย่อมเฝ้าห่วง แหนผล อัมพนต์ หนอ นกขะมิ้นบินทำใมไกลไกล นอ พักเถอะพ่อ สกุณิ วิสัยจร หมายเหตุ อัมพะ = ม่วง เช่น อัมพะ+วน(ป่า)---->อัมพวัน=ป่ามะม่วง อัมพะ+อันต์(เขต แดน) =อัมพนต์ / อัมพันต์
22 มีนาคม 2546 15:34 น. - comment id 117509
+++++++++++++0 นกขมิ้น..ไร้สิ้นคนแลเหลียว บินมาเดี่ยวเดียวดายกลางสายฝน หนาวเหน็บเจ็บร้าวไป..ทั้งใจตน ยิ้มให้คน..เห็นค่า..สกุณาจร 0++++++++++++++0 ยิ้มให้อีกที..ขอบใจนะ..ที่มองเห็นค่า สกุณา..ไร้รัง และมีงานเพราะ ๆ ให้อ่าน
22 มีนาคม 2546 15:43 น. - comment id 117514
เอ เจ้าตัวนั้น ไม่ใช่นกขมิ้นนา หรือว่าตั้งชื่อมันว่าเจ้าขมิ้นหว่า อิอิ
22 มีนาคม 2546 19:32 น. - comment id 117586
อดใจรออีกหน่อยสิเจ้าลม ถึงไม่ใช่นกขมิ้น แต่ถอนขนแล้วทาขมิ้นซะ จะปิ้งจะทอดก็อร่อยทั้งน้านนนน
23 มีนาคม 2546 10:28 น. - comment id 117791
555 ลุงเวทย์เนี่ย ตลกจัง
24 มีนาคม 2546 23:37 น. - comment id 118409
นกขมิ้น เขาคลอขลุ่ยครวญเสียงเพียงแผ่วผิว ชะลอนิ้วพลิ้วผ่านจากมานหมอง โอดสะอื้นอ้อยอิ่งทิ้งทำนอง เป็นคำพร้องพริ้งพรายระบายใจ โอ้ดอกเอ๋ยเจ้าดอกขจร นกขมิ้นเหลืองอ่อน จะนอนไหน ค่ำลงแล้วแนวพนาและฟ้าไกล เจ้านอนได้ทุกเถื่อนท่าไม่อาทร แล้วหวนเสียงเรียงนิ้วขึ้นหวิวหวีด เร่งอดีตดาลฝันบรรโลมหลอน ถี่กระชั้นสั่นกระชากใจจากจร ระเรื่อยร่อนเร่มาเป็นอาจิณ โอ้ใจเอ๋ยอ้างว้างวังเวงนัก ไร้แหล่งพักหลักพันจะผันผิน เพิ่มแต่พิษผิดหวังยังย้ำยิน ระด่าวดิ้นโดยอนาถแทบขาดใจ ข้าเคยฝันถึงฟ้ากว้างกว่ากว้าง ฝันถึงปางทับเปลี่ยวเรี่ยวน้ำไหล ถึงช่อเอื้องเหลืองระย้าคาคบไม้ ในแนวไพรนึกเหมือนเป็นเพื่อนเนา รู้รสแรงแห่งทุกข์และสุขสิ้น บนแผ่นดินแผ่นเดียวเปลี่ยวและเหงา จิบน้ำใจจนทั่วเจียนมัวเมา ไร้ร่มเงารังเรือนและเพื่อนตาย เขาเคลียนิ้วเนิบนุ่มเสียงทุ้มพร่า เหมือนหวนหาโหยไห้น่าใจหาย เจ้าขมิ้นเหลืองอ่อนนอนเดียวดาย จะเหนื่อยหน่ายหนาวน้ำค้างที่กลางดง เสียงฉับฉิ่งหริ่งรับขยับเร่ง จะพรากเพลงเพื่อนยินสิ้นเสียงส่ง เขาเบือนนิ้วผิวแผ่วแล้วราลง เสียงนั้นคงเน้นครางอย่างห่วงใย เจ้าดอกเอยดอกขจรอาวรณ์ถวิล นกขมิ้นเหลืองอ่อนจะนอนไหน เขาวางขลุ่ยข่มน้ำตาว้าเหว่ใจ ตอบไม่ได้ดอกหนาข้าคนจร
25 มีนาคม 2546 04:16 น. - comment id 118476
จริงแล้ว ๆ ผมชื่นชมบทกวีของคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์มาก ๆ โดยเฉพาะ กลอนนกขมิ้น จาก คำหยาด ผมคลั่งไคล้ ท่องจำได้ขึ้นใจ จนเกิดแรงบันดานใจอยากจะเป็นนกขมิ้นบ้าง แต่ก้ไม่มีปัญญาเป็น ทำได้แต่เพียง ไปเอาขมิ้น จากคำหยาด มาทา ไว้ที่ส่วนหัว กับส่วนหางของนกผมเท่านั้น ชาตินี้คงเป็นได้แค่นกทาขมิ้น อิๆๆ อย่างไรก็ตาม นกทาขมิ้นตัวนี้ ไม่ได้ เอาขมิ้นมาจากคำหยาดของคุณเนาวรัตน์เท่านั้น มันยังอุตส่าห์บิน สะสมขมิ้น ของ นักกลอนคนอื่น ๆ ที่มันเห็นแล้วก็ชอบ มาทาตัวของมันอีกด้วย แต่ก็เป็นได้แค่นกทาขมิ้นอยู่วันยังค่ำแหละ :)
25 มีนาคม 2546 18:16 น. - comment id 118677
เคยได้ยินคำว่า ผิวพม่า นัยตาแขก ไหมล่ะ ไม่เป็นเพราะทาขมิ้นหรอกหรือ ผิวถึงสวยน่ะ การเลียนครู ต่างจากการลอก ต้องมองให้ออกว่า ลอก หรือ เลียน