(๑) ริมแม่น้ำยามรุ่งอรุณเรื่อ นั่งมองเรือลอยผ่านพลันสุขสันต์ ยื้อโยงลำนำลอยคล้อยเคียงกัน เรือยาวนั้นพลันแล่นเสียงแปร๋นมา (๒) สายน้ำเย็นเป็นสายกระจายฟ่อง กระเซ็นต้องรัศมีสุรีย์กล้า บังเกิดแสงแห่งรุ้งตระการตา รื่นอุราคราได้ชม้ายมอง (๓) พันธุ์พฤกษ์น้ำงามลอยทยอยเคลื่อน คล้อยเยี่ยมเยือนแรมลาธาราล่อง ใบมันวาวสกาวใสคล้ายใบตอง ก้านเป็นฟองอากาศปราศราคี (๔) สีเขียวงามล้ำเลอเผลอเชยชม ไม่มีจมลมล่องคล้ายจ้องหนี รากเป็นกลุ่มชุ่มน้ำนำจรรี ดุจชีวีที่ต้องประคองไป (๕) ครั้นดอกบานสคราญแท้เชียวแม่เอ๋ย กลีบดอกเผยเกยก้านพรรณสวยใส เป็นสีม่วงพวงแย้มแซมซ้อนใบ เป็นกลุ่มใหญ่ชม้ายเห็นเป็นหกพวง (๖) ยามชูช่อล้อแสงสุรีย์ฉาย ภมรหมายกล้ำกลายคล้ายแหนหวง เฝ้าสมสู่ชูชื่นระรื่นควง อิงแอบช่วงชิงชมโฉมเคล้าคลอ (๗) ครั้นเมื่อแห้งแปลงได้เครื่องใช้สอย ตะกร้าน้อยกระเป๋านวลชวนสานก่อ เป็นกระดาษอาจทำนำถักทอ อาจเพียงพอแก่ใครในหัตถกรรม (๘) ใช่ไร้ค่าราคาแม้นว่าด้อย ไม่ต่ำต้อยพันธุ์น้ำอย่าทำขำ หากพินิจคิดตรองหมั่นลองทำ อาจหนุนนำทำประโยชน์โปรดใคร่ครวญ ฯ
16 กันยายน 2554 13:06 น. - comment id 103305
ขอบคุณสำหรับกลอนอันแสนไพเราะบทนี้ค่ะ
9 มกราคม 2546 18:39 น. - comment id 104075
ประวัติผักตบชวา ผักตบชวา เป็นพืชน้ำมีชื่อทางพฤกษาศาสตร์ ว่าEichhornia crassipes จัดเป็นวัชพืชประเภทลอย น้ำมีความคงทนต่อดินฟ้าอากาศได้อย่างดีเยี่ยมมีดอก สีม่วงอ่อนงดงามคล้ายช่อดอกกล้วยไม้และแพร่พันธุ์เจริญ เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ตามประวัติกล่าวว่า ผักตบชวาเริ่มเข้ามาในเมือง ไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คือในปีพ.ศ.2444โดยครั้งนั้นเจ้า นายฝ่ายในตามเสด็จประพาสที่ประเทศลาว (อินโดนีเซีย) ได้ เห็นพืชชนิดนี้ออกดอกสวยงามทั่วไปจึงได้แยกต้นกลับมาปลูก ในประเทศไทยและใส่อ่างดินเลี้ยงไว้หน้าสนามวังสระปทุม และเพิ่มจำนวนมากขึ้น จนกระทั่งน้ำท่วมวังสระปทุมทำให้ น้ำตบชวาล่องลอยกระจายไปตามแม่น้ำลำคลองทั่วไปและ แพร่พันธุ์จำนวนมากอันเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการคมนาคม ทางน้ำ และการระบายน้ำทางชลประทาน ตั้งแต่นั้นมา คนไทยจึงมีความคุ้นเคยกับผักตบชวา จนทุกวันนี้ และนำผักตบชวาไปใช้ประโยชน์เป็นอาหารสัตว์ ทำปุ๋ย เพราะเห็ด ทำก๊าซหุงต้ม เยื่อกระดาษ ตลอดจนเป็น เส้นใยที่ใช้ทำหัตถกรรมเครื่องจักสานแต่มีข้อเสียคือเชื้อรา ติดขึ้นได้ง่าย ซึ่งป้องกันโดยวิธีใช้สารเคมีกำจัดเชื้อรา และ ระวังความชื้น
9 มกราคม 2546 20:53 น. - comment id 104082
๕๕๕ ..แหม น่ารักจริง ไอซ์ .. สาระ สาระ จังเลย ... ขอบคุณจ้า
10 มกราคม 2546 07:09 น. - comment id 104118
พี่ไอซ์นี่น่าไปทำหนังสือสรรสาระนะ ผักตบนี่งามได้ด้วยหรอ เพิ่งจารุ อิอิ
10 มกราคม 2546 08:03 น. - comment id 104131
กินได้ด้วยเจ้าลมจาบอกให้ รู้ปะไว้จิ้มน้ำพริก
10 มกราคม 2546 08:25 น. - comment id 104133
ระเรืองเรื่อชมพู...ดูสดใส ม่วงเติมใส่แซกซ้อน...เกสรน้อย ชูช่อดอกแรกบาน...งามชดช้อย กิ่งก้านลอยล่องน้ำ...ตามวารี
10 มกราคม 2546 20:34 น. - comment id 104205
พี่อัลมิค่ะ.. บทกลอน..ของพี่อัลมิ.. ทำให้เรน..เห็นภาพ..เคยนั่งเรือ.ไปกับ.พ่อ.. ตอนเรน..เปนเด็ก..(ที่บ้านคุณย่า..).. เห็นดอกไม้..สีม่วง.. สวยมาก.. เคยถามพ่อ.. พ่อของเรน.. บายยาวววว..มาก.. แร้ววเรน.. ก้อหลับ.. อิอิอิ... แบบว่า..อากาศดี..ลมเย็น.. ..สดชื่น. เหมือนตอนนี้เรยยค่ะ.. จริงๆ... นะค่ะ..
10 มกราคม 2546 21:58 น. - comment id 104212
ใช่...ใช่...เลย ผักตบชวานี่ดอกสวยไม่แพ้ความสวยของดอกไม้อย่างอื่น สีไม่เหมือนใคร จนเขาพากันเรียกสีดอกผักตบ(ชวา) ส่วนผักตบอย่างอื่นที่มีเสียงประกอบดังเพื๊ยะ รู้สึกไม่น่าประทับใจเท่าไหร่
10 มกราคม 2546 23:09 น. - comment id 104219
....ผักอะไรหนอตบชวาได้...ชวาทำอะไรผิดหรือ..ถึงได้ตบตีใส่....โอ๊ยๆ...โอ๊ยๆ.... ....สวัสดีครับ....
11 มกราคม 2546 00:20 น. - comment id 104226
เจ้าลม...ผักตบชวาสวยนะ ที่ม่วงคราม จริงๆน๊า ไอดาโฮ่ ...อื้อ อัลมิตราไม่เคยทานนะคะ แต่รู้ว่าก้านเอามาสับให้หมูกินได้ คุณเดียวดาย ...ช่าย อัลมิตราน่ะ ก็เห็นด้วยนะ น้องเรน...พี่ยังจำภาพได้นะ ดอกผักตบชวา เด็ดมาแป๊บเดียวก็เหี่ยวเฉา แต่ตอนที่ยังไม่เหี่ยวน่ะ สวยเหลือเกิน คุณพรระวี ... เอ๋ แก้มไปโดนอะไรมาคะ แดงเชียว ..กิ..กิ.. คุณใบบอนแก้ว ...อ้าว โดนลูกหลง รายเดียวกับคุณพรระวีซะแล้ว ..คิก คิก ขอบคุณมากค่ะ ทุกๆท่าน
11 มกราคม 2546 07:58 น. - comment id 104240
^J^ ............ ***ขอขอบคุณ อัลมิตรา มหาศาล ที่ช่วยจาร ดอกผักตบ อันสดใส เหมือนลมโชย ดอกม่วงพริ้ว ให้ชื่นใจ เอาอะไร มาแลก ก็ไม่ยอม......กิกิ...ฯ ...........ยกเว้น...บลูเบอรี่ชีสเค็ก........555
11 มกราคม 2546 15:31 น. - comment id 104278
บ้านผมไม่มีอีกแล้ว...... เลยไม่มีความหลังกับผักตบอินโดนีเซีย พูดแล้วก็เพีย....พักหลับหน่อยดีกว่า เผื่อว่าตื่นมา...ผักตบชวาจะบานเต็มหน้าบ้าน
11 มกราคม 2546 18:33 น. - comment id 104306
แว๊บ...........โผล่มาให้เห็นครับ ปายละ อิอิอิ
11 มกราคม 2546 22:35 น. - comment id 104362
โห ..เอาบลูเบอรรี่เค๊กมาเป็นของกำนัล..ของโปรดซะด้วย .. คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มน๊า คุณตุ๊กตาไล่เหงา ..ตอนเล็กๆ คลองหลังบ้านมีแยะเลยค่ะ เคยเก็บด้วยนะคะ แป๊บเดียวก็เหี่ยวแล้วค่ะ แต่ความงามของดอกผักตบชวา อัลมิตราจำได้ติดตาค่ะ สวยจังค่ะ คุณพนาไพร ... จับมัดซะเลยเนี่ย สอบเสร็จแล้วแน่ๆเลย เจอกันอีกที สงสัยหลังสอบไล่ นะ ..
12 มกราคม 2546 17:38 น. - comment id 104461
คิดแล้วอิจฉา...อ้าวๆๆไฟไหม้ตาแล้วเรา... ขอบคุณคร้าบบ..
12 มกราคม 2546 21:14 น. - comment id 104502
สอบเสร็จแล้วครับ มาผลุบๆโผล่ๆหน่อยแล้ว อิอิอิ
12 มกราคม 2546 21:37 น. - comment id 104505
หือ ..อิจฉาใครคะ คุณตุ๊กตาไล่เหงา ... พนาไพร ...มี f ด้วยเหรอ เห็นชื่อ น่ะ หรือว่าแก้เคล็ดไว้ก่อน ..
13 มกราคม 2546 15:55 น. - comment id 104619
ชื่อในMSNนะหรือครับ ก็แต่งให้มันคล้องเท่านั้นแหละครับ ให้ชื่อดูตลกๆดี อิอิอิ
13 มกราคม 2546 20:09 น. - comment id 104650
ได้ A หรือ B นะ F...ฝากอาจารย์ไว้นั้นแหล่ะ พนาไพรอย่าเอามานะคะ
14 มกราคม 2546 15:16 น. - comment id 104810
ชอบกลอนของอัลมิตรามากเลยเพราะจัง....
17 กรกฎาคม 2549 13:48 น. - comment id 146018
ผักตบชวามีประโยชย์มากคะ