- กลอนสุภาพ - ฟ้าใสแลสว่างพ่างกระจก ขาวหิมะคลุมปกทั่วแผ่นหน สลับแสงแต่งเงาแต้มแซมระคน เขียวขจีแห่งสนสล้างตา ลมเหมันต์แผ่วผ่าวให้หนาวเยือก สนผลัดเปลือกปลงเปลือกลงปรกหล้า หากเขียวใบยังไม่ไร้เขียวสมญา ยังครึ้มเขียวแกร่งกล้าท้าคมลม ล่องทางเลาะเลี้ยวลัดตัดขึ้นเขา เป็นเวิ้งเว้าแลจำเพาะอย่างเหมาะสม ศิลาเรียงทั้งย่อมใหญ่และเหลี่ยมกลม แต่งรายทางให้สวยสมภิรมย์นัยน์ มหาปฐพีแดงสีแรงโรจน์ ทอดช่วงยาวระยะโยชน์ช่างยิ่งใหญ่ ชะวากเวิ้งมองเคว้งวังเวงใจ กว้างกว่ากว้าง...ไกลกว่าไกล...เกริกไกรจริง เลาะเลี้ยวแลลิบลับอยู่ก้นหุบ ดังนาคีมาหมอบฟุบอยู่แน่นิ่ง คือธารเขียวอันน้ำใสไม่ไหวติง ประดับตลิ่งด้วยหิมะยะเยียบเย็น หมู่เขาล้วนเอกลักษณ์ตระสักสร้าง ดุจเทพแสร้งแต่งวางให้เราเห็น บ้างหัวโล้นราบเลี่ยนเหี้ยนลำเค็ญ บ้างหัวตัดบ้างดูเป็นเช่นอาราม แดงอมส้มเจือคล้ำน้ำตาลเข้ม กิ่วด้วยลมไล้เล็มน่าเกรงขาม เส้นศิลาวางระยะจังหวะงาม แลเป็นริ้วลู่ตามความสมดุล โอ้มหาปฐพีที่ใฝ่ฝัน มหาสุสานนิรันดร์แห่งฝอยฝุ่น โชติตระการเริงแรงแดงวิบุลย์ เอกสกุลเลิศลบทุกภพไป ทินกรจรฟ้าเพลาพลบ สนธยามาสมทบและเสริมให้ พื้นนภางค์สวยดังวาดพิลาสพิไล สร้อยทับทิมพิมพ์ใจให้เพลินชม แดงกุดั่นก่ำแสงสำแดงสี เฉกเพลิงรักผลาญฤดีให้ร้าวล่ม ม่วงชมพูแตะระบายพร้อยพรายพรม คืออารมณ์พิศวาสย้อมหยาดทรวง ส้มแซมแทรกเสกเสริมเพิ่มสีสัน มอบเฉิดฉันสีทองแห่งแดนสรวง สรรพสีหลอมแสงออกแข่งดวง เย็นเงินยวงแสงบุหลันดูพรั่นพรึง ออกดั้นด้าวแรมไกลใจเคว้งคว้าง นักเดินทางเหงาใจใครคิดถึง นิราศร้างห่างเร้นเรียมคะนึง สวาทซึ้งรึงรัดมัดดวงมาน อีกหนึ่งก้าวที่ก้าวไปในพิภพ ประสบการณ์พานพบไม่เลยผ่าน อีกหนึ่งใจจำหลักจดปรากฏการณ์ สะสมมวดอกไม้บานให้ชีวิน นักเดินทางแรมทางอย่างมุ่งมั่น ตราบอาทิตย์เฉิดฉันไม่แสงสิ้น ครั้นเหนื่อยพักรวมแรงฟื้นกลับชื่นจินต์ โน่นแผ่นดินสีทองเรืองรองรอฯ สดใส...ใต้อาทิตย์ดวงเดิม. ศุภวุฒิ วาทบัณฑิตกุล San Francisco, U.S.A. - ประพันธ์: ๑๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๑ - เกลาครั้งที่หนึ่ง: ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๒ ลงพิม์ในดวงใจตน - เกลาครั้งที่สอง: ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓ ก่อนลงพิมพ์ใน ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น (Ars Longa Vita Brevis) เนื่องในวาระ ๑๐๘ ปีชาตกาลของศ.ศิลป์ พีระศรี - เกลาครั้งที่สาม: ๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕...เมื่อสักครู่...ก่อนลงพิมพ์ในโลกไร้พรมแดนของ ThaiPoem.com :-)
6 กันยายน 2545 10:13 น. - comment id 73688
ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ นับถือคนมีความสามารถ แต่งได้ไพเราะมากเลยค่ะ
6 กันยายน 2545 21:48 น. - comment id 73929
ประทับใจมากค่ะ อย่างนี้สิค่ะ ที่เขาเรียกว่า กวี มีแรงบันดาลใจจากสิ่งที่พบเห็น อารมณ์ศิลปินบรรเจิด บทประพันธ์ไพเราะและมีคุณค่าค่ะ บุษ มาให้ กำลังใจ นะคะ
7 กันยายน 2545 08:39 น. - comment id 74069
ใช้คำสวยมากๆเลยค่ะ บรรเจิดแจ่มจรัสจ้า ณ จิตใจ อิอิ
8 กันยายน 2545 17:09 น. - comment id 74491
^*^ ^*^ ^*^..ขอแสดงความชื่นชม..จากใจจ้า. ..........เพราะมากมาก...........^*^ ............................................
9 กันยายน 2545 05:38 น. - comment id 74611
ขอบคุณ J&J, บุษราคัม, นักเดินทาง(Skeczys), แนทตี้..และมิตรกลอนผู้แสนดีทุกคนครับ สำหรับคำวิจารณ์และคำชม. ขอน้อมรับเก็บไว้เพื่อเป็นทุนใจยามประพันธ์บทอื่น ๆ ในอนาคต:-) จะพยายามไม่แต่งอะไรที่มันอกหักหนักจิต (มีคนทักท้วงมา). แต่ถ้าเผลอไปก็ขออภัย...ก็ของมันถนัดนี่ครับ;-)
23 กันยายน 2545 15:33 น. - comment id 79499
เพราะมาก..ก ขอคาระวะเยี่ยมมากเลยค่ะ
23 กันยายน 2545 16:06 น. - comment id 79527
นับถือๆค่ะ (o^___^o)