นกไนติงเกล และ ดอกกุหลาบแดง
:+: ? ? ? :+:
นกไนติงเกล และ ดอกกุหลาบแดง
นกไนติงเกล และ ดอกกุหลาบแดง
บ่ายวันหนึ่ง ใต้ร่มเงาของต้นโอ๊คใหญ่...
เธอบอกว่าจะเต้นรำกับฉัน ถ้าฉันสามารถหาดอกกุหลาบสีแดงมาให้เธอได้
เด็กหนุ่มนักศึกษาคนหนึ่งนั่งบ่นกับตัวเอง แต่จะทำยังไง
ในเมื่อสวนดอกไม้ที่บ้านฉันไม่มีดอกกุหลาบสีแดงเลย
บนต้นโอ๊คต้นเดียวกันนั้น
มีนกไนติงเกลตัวหนึ่งทำรังอยู่...เธอได้ยินทุกสิ่งที่เขาพูดและกำลังแอบมองเขาอยู่ด้วยความสงสัย
ไม่มีกุหลาบแดงในสวนดอกไม้ของฉัน!
เขาคร่ำครวญ...ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความโศกเศร้า โอ...ความสุขของฉันขึ้นอยู่กับสิ่งเล็กๆ
สิ่งเดียวเท่านั้นหรือ...ฉันได้อ่านตำรามากมายที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายได้เขียนไว้
และล่วงรู้ถึงความลับต่างๆ
ในศาสตร์แห่งปรัชญา...แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตของฉันต้องยากลำบาก คือดอกกุหลาบแดงแค่ดอกเดียว
ฉันอยู่ที่นี่แล้วไง...คนรักที่แท้จริงของเธอ นกไนติงเกลรำพัน
คืนแล้วคืนเล่าที่ฉันเฝ้าร้องเพลงถึงเธอ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอไม่ได้ยิน
คืนแล้วคืนเล่าที่ฉันเล่าเรื่องเธอให้ดวงดาวได้ฟัง...และในตอนนี้ฉันก็ได้พบเธออีกครั้ง...ผมของเธอสีเข้มเหมือนดอกไฮอะซิน1
ริมฝีปากของเธอเป็นสีแดงราวกับดอกกุหลาบแดงที่เธอต้องการ...แต่น่าเสียดายที่ความรักของเธอทำให้เธอดูซีดเซียว
และความเศร้าโศกก็ฉายมาจากใบหน้าของเธอ
เจ้าชายจะจัดงานเลี้ยงเต้นรำในคืนพรุ่งนี้ เด็กหนุ่มพูดเบาๆ
และคนที่ฉันรักจะยอมเต้นรำกับฉันถ้าฉันหาดอกกุหลาบแดงให้เธอได้...ฉันจะโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
และเธอก็ซบไหล่ฉัน
ในขณะที่เรากุมมือกันไว้...แต่ความจริงแล้วฉันไม่มีกุหลาบแดงในสวน ฉันต้องนั่งอยู่คนเดียว เฝ้ามองเธอที่ห่างออกไป
เธอคงไม่สนใจใยดีฉัน และใจฉันคงแหลกสลาย
คนรักที่แท้จริงของเธออยู่ที่นี่ นกไนติงเกลพูด
ฉันจะร้องเพลงอะไรให้เธอฟังดี...สิ่งที่ทำให้ฉันมีชีวิตชีวา
กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวด...แต่มันเป็นเรื่องจริงนะ ที่ว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม
มันมีค่ามากกว่ามรกต เป็นที่ต้องการมากกว่าเพชรพลอย ไข่มุกและทับทิมก็แลกไม่ได้
มันไม่มีขายตามท้องตลาด แม้แต่ทองก็เทียบกันไม่ได้
นักดนตรีคงจะนั่งในที่สำหรับพวกเขา เด็กหนุ่มพูดต่อ
พวกเขาจะเริ่มบรรเลงเพลง และคนที่ฉันรักก็จะเต้นตามเสียงไวโอลิน เธอจะเต้นอย่างช้าๆ
และพลิ้วไหวราวกับเธอกำลังล่องลอยอยู่เหนือพื้นดิน
ในขณะที่ผู้คนซึ่งอยู่ในชุดที่สวยงามต่างก็ห้อมล้อมเธอ...แต่สำหรับฉันเธอคงไม่ยอมเต้นรำด้วย
เพราะฉันไม่มีดอกกุหลาบแดงให้เธอ เขาเอนตัวลงบนพื้นหญ้า ซบหน้าลงกับแขนและร้องไห้
กิ้งก่าสีเขียวตัวเล็กๆ วิ่งผ่านมาพร้อมกับชูหางขึ้นและถามว่า
เขาร้องไห้ทำไมน่ะ
จริงๆ ด้วย...ทำไมล่ะ ผีเสื้อถามต่อ ในขณะที่กำลังบินร่อนใต้แสงอาทิตย์
จริงๆด้วย...ทำไมล่ะ ดอกเดซี่ที่อยู่ใกล้ๆ ก็ถามย้ำด้วยเสียงกระซิบเบาๆ
เขาร้องไห้เพราะดอกกุหลาบสีแดงน่ะซิ! นกไนติงเกลพูด
เพราะดอกกุหลาบสีแดง! กิ้งก่า ผีเสื้อ และดอกเดซี่อุทานพร้อมกัน
ช่างน่าขันอะไรเช่นนี้ กิ้งก่าพูดเยาะเย้ย
อย่างไรก็ตาม
นกไนติงเกลก็ยังเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของเด็กหนุ่มคนนั้น
เจ้านกน้อยจึงได้แต่นั่งลงและเฝ้าครุ่นคิดเกี่ยวกับความเร้นลับของคำว่ารักต่อไป
ทันใดนั้นเอง เจ้านกไนติงเกลก็คิดได้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป
เธอกางปีกสีน้ำตาลออก และบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
บินร่อนผ่านทุ่งหญ้าอย่างรวดเร็วไปยังสวนดอกไม้ของเด็กหนุ่ม เมื่อพบแปลงดอกกุหลาบแสนสวย
เธอจึงร่อนลงไปที่ต้นกุหลาบกอหนึ่ง
ขอดอกกุหลาบแดงให้ฉันบ้างได้ไหม นกไนติงเกลถาม
แล้วฉันจะร้องเพลงเพราะๆ ให้เธอฟัง
ต้นกุหลาบส่ายหัว และตอบว่า
กุหลาบของฉันเป็นสีขาว...ขาวเหมือนฟองคลื่นในทะเล...ขาวยิ่งกว่าหิมะบนยอดเขา...แต่พี่ชายของฉันที่ยืนต้นอยู่ข้างนาฬิกาแดดโบราณนั่น
อาจจะให้ในสิ่งที่เธอขอได้นะ
นกไนติงเกลได้ยินดังนั้น
จึงบินไปยังต้นกุหลาบที่ขึ้นอยู่ข้างนาฬิกาแดดโบราณ
ขอดอกกุหลาบแดงให้ฉันบ้างได้ไหม นกไนติงเกลถาม
แล้วฉันจะร้องเพลงเพราะๆ ให้เธอฟัง
ต้นกุหลาบส่ายหัว และตอบว่า
กุหลาบของฉันเป็นสีเหลือง...เหมือนเส้นผมของนางเงือกที่นั่งอยู่บนบัลลังก์สีเหลืองอำพัน...เหลืองยิ่งกว่าดอกแดฟโฟดิล2
ที่เบ่งบานในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่...แต่พี่ชายของฉันที่ยืนต้นอยู่ริมหน้าต่างนั่น
อาจจะให้ในสิ่งที่เธอขอได้นะ
นกไนติงเกลได้ยินดังนั้น
จึงบินไปยังต้นกุหลาบที่ขึ้นอยู่ริมหน้าต่างของเด็กหนุ่ม
ขอดอกกุหลาบแดงให้ฉันบ้างได้ไหม นกไนติงเกลถาม
แล้วฉันจะร้องเพลงเพราะๆ ให้เธอฟัง
ต้นกุหลาบส่ายหัว และตอบว่า
กุหลาบของฉันเป็นสีแดง...มันแดงเหมือนเท้าของนกพิราบ...แดงยิ่งกว่ากอปะการังสีแดงสดที่พลิ้วไหวล้อคลื่นในทะเล
แต่ฤดูหนาวทำให้เส้นใยของฉันแข็งตัว มันปลิดดอกตูมของฉัน
และทำลายกิ่งก้านฉันด้วยพายุอันเหน็บหนาว...ฉันคงไม่สามารถออกดอกได้ในปีนี้แน่นอน
ฉันต้องการดอกกุหลาบแดง...แค่ดอกเดียวเท่านั้น
นกไนติงเกลร้องถามด้วยความสิ้นหวัง นี่ฉันไม่มีทางที่จะได้ดอกกุหลาบแดงจากเธอเลยหรือ
มันก็พอมีวิธีนะ ต้นกุหลาบพูด
แต่มันน่ากลัวเกินกว่าที่ฉันจะกล้าบอกเธอ
บอกมาเถอะ...ฉันไม่กลัวหรอก นกไนติงเกลตอบ
ถ้าเธอต้องการกุหลาบแดง... ต้นกุหลาบพูดต่อ
เธอต้องสร้างมันขึ้นมาจากเสียงเพลงภายใต้แสงจันทร์
และแต้มสีมันด้วยเลือดจากหัวใจของเธอ...เธอต้องร้องเพลงให้ฉันฟัง
ในขณะที่หนามของฉันที่แทงไปที่อกของเธอ...เธอต้องร้องเพลงทั้งคืน โดยปล่อยให้หนามของฉันปักเข้าไปที่หัวใจของเธอ
และเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตเธอก็จะไหลผ่านเส้นใย
และกลายมาเป็นของฉันในที่สุด...อย่าลืมว่าเธอต้องทำให้สำเร็จก่อนพระอาทิตย์ขึ้นด้วยนะ...
นี่ฉันต้องจ่ายค่าดอกกุหลาบด้วยชีวิตอย่างนั้นหรือ นกไนติงเกลรำพัน
ชีวิตเป็นสิ่งมีค่าสำหรับทุกคน...มันคือความสุขที่แท้จริงเมื่อเราได้นั่งอยู่บนต้นไม้
เฝ้ามองดวงอาทิตย์สีทอง และดวงจันทร์ที่ส่องแสงนวลราวไข่มุก
สดชื่นกับกลิ่นของดอกฮอธอร์น3 ริมรั้วและดอกบลูเบล4 ตามหุบเขา
รวมถึงการได้บินร่อนรับลมร้อนที่พัดผ่านมาด้วย...แต่ถึงอย่างไร ความรักก็สำคัญกว่าชีวิต
ยิ่งความรักจากหัวใจของมนุษย์ด้วยแล้ว
มันคงจะยิ่งมีค่ามากกว่าความรักจากหัวใจของนกตัวเล็กๆ อย่างฉันแน่นอน
เมื่อคิดได้ดังนั้น เจ้านกไนติงเกลก็ได้บินกลับไปที่ต้นโอ๊คใหญ่อีกครั้ง
แสงอาทิตย์ยามเย็นดูอ่อนล้า
เจ้านกไนติงเกลมองไปที่เด็กหนุ่มซึ่งเผลอหลับไปพร้อมคราบน้ำตาบนดวงตาที่งดงามคู่นั้น
ดีใจด้วยจ๊ะ! นกไนติงเกลร้องบอกเด็กหนุ่ม
ดีใจด้วย...เธอจะได้กุหลาบแดงที่เธอต้องการแล้ว ฉันจะสร้างมันขึ้นมาจากบทเพลงภายใต้แสงจันทร์
และแต้มสีมันด้วยเลือดจากหัวใจของฉัน เพราะเธอคือคนที่ฉันรัก
และฉันคือคนรักที่แท้จริงของเธอ...ความรักเป็นเรื่องที่ฉลาดมากกว่าวิชาปรัชญาที่เธอได้เรียนรู้มา
มันเปี่ยมไปด้วยอำนาจและพลัง...
เด็กหนุ่มมองตรงมาที่นกไนติงเกลและตั้งใจฟัง
แต่เขาไม่เข้าใจว่าเจ้านกน้อยพูดอะไร
และพูดกับใคร...เขารู้เพียงแต่ว่าจะต้องเขียนบันทึกอะไรลงในสมุดของเขาเท่านั้น ต้นโอ๊คต้นใหญ่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
เขาเข้าใจที่นกไนติงเกลพูด...เขารู้สึกซาบซึ้งในกับสิ่งที่เจ้านกน้อยพยายามทำ
ต้นโอ๊คพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า
ร้องเพลงให้ฉันฟังเป็นเพลงสุดท้ายได้ไหม...เพราะฉันคงจะเหงามากถ้าไม่มีเธอ...
นกไนติงเกลจึงร้องเพลงให้ต้นโอ๊คฟังเป็นเพลงสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะจับใจ...เมื่อร้องเพลงจบ
เด็กหนุ่มก็เตรียมตัวเก็บสมุดบันทึกและดินสอใส่กระเป๋า
เธออาจจะรู้จักวางตัว เด็กหนุ่มพูดปลอบใจตัวเอง
แต่นั่นก็ไม่ทำให้ฉันเลิกรักเธอหรอก...อันที่จริง เธออาจจะมีอารมณ์ศิลปินที่ยากจะเข้าใจ
เธอดูมีเอกลักษณ์ ซึ่งบางครั้งอาจดูเหมือนเย่อหยิ่งและเห็นแก่ตัว
แต่ฉันรู้ว่าจริงๆ
แล้วเธอไม่ใช่...ฉันสัมผัสได้จากน้ำเสียงของเธอ...ฉันถือว่ามันเป็นแบบทดสอบที่ดีสำหรับฉัน เมื่อกลับถึงห้อง เด็กหนุ่มก็ล้มตัวลงนอน
และเฝ้าคิดถึงคนที่เขารักจนเผลอหลับไป
เมื่อแสงจันทร์สาดส่องลงมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน
นกไนติงเกลจึงบินไปที่แปลงดอกไม้นั่นอีกครั้ง เธอหยุดที่ต้นกุหลาบแดงและจับหนามกุหลาบมาทาบไว้ที่อก
เธอเริ่มร้องเพลงแรก
ดวงจันทร์สาดแสงสีเงินอันหนาวเหน็บพร้อมกับตั้งใจฟังเสียงเพลง ในขณะที่หนามกุหลาบก็ทิ่มแทงลึกเข้าไปทุกทีๆ
เลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตเธอเริ่มเหือดหายไปทีละน้อย
เพลงแรกที่เธอร้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นและการก่อเกิดของความรักในใจชายหนุ่มและหญิงสาว ทันใดนั้นเอง สิ่งอัศจรรย์ได้เกิดขึ้น
ช่อสูงสุดของต้นกุหลาบเริ่มผลิดอก เธอร้องเพลงต่อไปเรื่อยๆ
ท่ามกลางกลุ่มหมอกที่หนาวเหน็บรอบกายเธอ
แม้จะได้ผลบ้าง แต่ก็ยังไม่น่าพอใจ เข้ามาอีกสิ...เจ้านกน้อย
ต้นกุหลาบร้องบอกให้เธอดันหนามให้ลึกเข้าไป หรือจะรอให้อาทิตย์ขึ้นก่อนจะทำสำเร็จ
ได้ยินดังนั้น
เจ้านกไนติงเกลก็ขยับเข้าใกล้ต้นกุหลาบเข้าไปอีกและร้องเพลงให้ดังยิ่งขึ้น ทันใดนั้น...ประกายสีชมพูระเรื่อได้ไหลผ่านกลีบดอก
ทำให้มองเห็นเป็นสีชมพู...ชมพูเหมือนแก้มเจ้าสาวที่เขินอายเมื่อเจ้าบ่าวประทับรอยจูบ
แต่จนบัดนี้ หนามของต้นกุหลาบก็ยังแทงเข้าไปไม่ถึงหัวใจของนกไนติงเกล
ทำให้หัวใจของดอกกุหลาบยังคงเป็นสีขาวอยู่
เพราะสิ่งที่จะทำให้ดอกกุหลาบเป็นสีแดงสดคือ เลือดจากหัวใจของเจ้านกน้อยนั่นเอง
เข้ามาอีกสิ...เจ้านกน้อย ต้นกุหลาบร้องเตือนเธออีกครั้ง
หรือจะรอให้อาทิตย์ขึ้นก่อนที่จะทำสำเร็จ
ได้ยินดังนั้น นกไนติงเกลจึงขยับเข้ามาและดันหนามเข้าไปยังหัวใจของเธอ
ความเจ็บปวดแล่นผ่านเข้าสู่หัวใจ
ยิ่งเจ็บเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องร้องเพลงให้ดังยิ่งขึ้น
เนื้อเพลงที่เธอร้องอยู่ตอนนี้มีความหมายเกี่ยวกับความรักอันสมบูรณ์แบบที่ได้จากการสละชีวิต
สิ่งมหัศจรรย์ได้เกิดขึ้นแล้ว
ดอกกุหลาบกลายเป็นสีแดงสด...แดงเหมือนดวงอาทิตย์ทางทิศตะวันออก...สีแดงเหมือนทับทิมที่แพร่กระจายไปทั่วกลีบดอกนั้นเป็นสีจากเลือดในหัวใจของเจ้านกไนติงเกลนั่นเอง
เสียงของนกในติงเกลดูอ่อนล้าและปีกก็ขยับได้ช้าลง
ตาของเธอพร่ามัวและรู้สึกคอแห้ง...เธอหายใจไม่ค่อยสะดวก
นกไนติงเกลพยายามเปล่งเสียงร้องถึงเพลงสุดท้าย
ดวงจันทร์สีนวลที่ตั้งใจฟังก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มจนเคลื่อนตัวช้าลง ทำให้เธอมีเวลาเพิ่มขึ้น
ดอกกุหลาบสีแดงได้ยินเสียงเพลงก็รู้สึกอบอุ่น ตื้นตันใจ
และแย้มกลีบดอกออกมารับอากาศยามเช้า เสียงเพลงของเจ้านกน้อยดังก้องไปทั่วหุบเขา
มันลอยผ่านต้นอ้อสีขาวที่พลิ้วไหวล้อลมอยู่ริมน้ำคล้ายจะฝากความรู้สึกเหล่านี้ออกสู่ทะเลกว้าง
ดูนั่นซิ...ดูซิ! เหล่าต้นไม้ตะโกนบอก
เธอทำสำเร็จแล้ว...มันเป็นกุหลาบแดงที่สวยที่สุดเลย!
...ไม่มีเสียงขานตอบ......มีเพียงร่างของเจ้านกไนติงเกลที่นอนตายอยู่บนพื้นหญ้าที่ทอดยาว โดยมีหนามปักอยู่ที่หัวใจของเธอ
เที่ยงของวันใหม่ เด็กหนุ่มเปิดหน้าต่างห้องออกมา
เขาตื่นเต้นมากเมื่อได้พบบางสิ่ง
โอ!...ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้
นี่เป็นดอกกุหลาบแดงแบบที่ฉันไม่เคยพบมาก่อนเลยในชีวิต มันช่างสวยเหลือเกิน อาจจะเป็นพันธุ์ละตินก็ได้
เขาพูดพลางเอื้อมมือไปเด็ดดอกกุหลาบ
เขารีบสวมหมวกและวิ่งไปบ้านศาสตราจารย์พร้อมดอกกุหลาบในมือ
ที่บ้านศาสตราจารย์...ลูกสาวของเขานั่งอยู่ที่ระเบียงบ้านพร้อมด้วยลูกสุนัขตัวเล็กๆที่นอนอยู่แทบเท้าของเธอ...เธอคือคนที่เด็กหนุ่มหลงรักนั่นเอง
เธอจำได้ไหม ที่บอกว่าจะยอมไปงานเต้นรำกับฉัน
ถ้าฉันหาดอกกุหลาบแดงมาให้เธอได้ เด็กหนุ่มถามพร้อมถือดอกกุหลาบอยู่ในมือ
นี่คือกุหลาบที่แดงที่สุดในโลก เธอสามารถนำมันไปประดับที่อกเสื้อ และเราก็จะได้เต้นรำด้วยกัน
เขาคิดจะบอกรักเธอต่อจากนั้นด้วย
เสียใจ...มันคงเป็นเครื่องประดับให้ฉันไม่ได้แล้วล่ะ เด็กสาวปฏิเสธ
หลานชายของท่านมหาดเล็กได้ส่งอัญมณีแท้มาให้ฉัน และทุกคนต่างก็รู้ดีว่า
มันมีค่ากว่าดอกไม้มาก
เอาล่ะ! ฟังฉันนะ...เธอมันคนไม่มีสัจจะ เด็กหนุ่มโกรธมาก
เขาเขวี้ยงดอกกุหลาบแดงไปที่พื้น มันตกลงไปริมฟุตบาธ และถูกรถทับซ้ำอีกที
ไม่มีสัจจะหรือ เด็กสาวพูด เธอหยาบคายมาก และอีกอย่าง
เธอมันก็แค่เด็กหนุ่มนักศึกษาคนนึง
ฉันเชื่อว่าเธอไม่สามารถให้ในสิ่งที่ฉันต้องการได้เหมือนกับหลานชายท่านมหาดเล็กหรอก เธอลุกขึ้นอย่างไม่พอใจและเดินเข้าบ้านไป
ความรักช่างเป็นสิ่งที่โง่เขลาสิ้นดี เด็กหนุ่มพูดพร้อมเดินจากไป
มันไม่มีประโยชน์ ไม่มีการพัฒนา
ไม่เหมือนวิชาตรรกศาสตร์ที่ทุกอย่างต้องมีเหตุผล
ฉันควรจะกลับไปอ่านหนังสือปรัชญาและศึกษาเรื่องอภิปรัชญาดีกว่าจะมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระพวกนี้
เด็กหนุ่มกลับไปที่ห้องของเขาและเริ่มอ่านหนังสือต่อไป....................
#####The End#####
1 ไฮอะซิน (Hyacinth) n.c. ไม้ดอกชนิดหนึ่ง ดอกสีน้ำเงิน ม่วง มีกลิ่นหอม
2 แดฟโฟดิล (Daffoodil) n.c. ไม้ดอกชนิดหนึ่ง มีดอกสีเหลือง
บานในฤดูใบไม้ผลิ
3 ฮอธอร์น (Hawthorn) n.c. ต้นไม้ชนิดหนึ่ง มีดอกสีขาวและชมพู
มักปลูกไว้เป็นรั้ว
4 บลูเบล (Bluebell) n.c. พืชที่มีดอกสีฟ้าคล้ายระฆัง
#####@#####