กับแดดลอดร่มไผ่ในวันหนึ่ง เราเดินถึงลำธารซ่าซ่านไหล พลิ้วระยับกระเซ็นเย็นยวนใจ ดุจภาพในความฝันอันเพราตา เพลงนกร้องก้องเคล้าลำเนาไม้ หวามหทัยสู่ถิ่นถวิลหา วารีรื่นระรวยด้วยมนตรา กล่อมวิญญาณ์สุขเปี่ยมคราวเยี่ยมยล เราจึงวักน้ำใสขึ้นไล้หน้า พอหรรษาฉ่ำชุ่มทุกขุมขน ทัศนาปลาว่ายกลางสายชล หอมลมปนกลิ่นบุหงาสุมาลิน ณ ลำแก่งแห่งนี้มีมนตร์ขลัง ร่มไม้บังปกแผ่กระแสสินธุ์ เราหนีห่างความล้าเคยชาชิน มาเพื่อผินพบเห็นสิ่งเย็นทรวง แล้วลงเกลือกกลิ้งตัวหัวร่อร่า กอดหญ้าเกลื่อนเถื่อนท่าภูผาหลวง ม่านอุษาเลื่อมปรุทะลุทะลวง ทาบบนปวงผีเสื้อเมื่อเราชม ครั้นเปลวแดดแผดคุระอุอ้าว เราย่างก้าวราวไพรเรไรขรม ใบไม้ทิ้งต้นกรูลงปูพรม เพื่อภิรมย์จมจิตนิจกาล เราสัมผัสมนตร์ธารละหานห้วย และความสวยสงบซึ้งซึ่งสุขศานต์ เพื่อลบภาพแล้งโรยโหยกันดาร ที่ไม่พานพบได้จากในเมือง
28 มิถุนายน 2555 11:28 น. - comment id 1236601
.......... เป็นมนตร์ธารขานขับสดับก้อง ลอยละล่องท่องไปในธารใส กลิ่นบุบผาหอมละมุนกรุ่นละไม ดุจภาพในความฝันเมื่อวันเยาว์ .....................
28 มิถุนายน 2555 12:22 น. - comment id 1236617
มนตร์นี้ช่างแสนสุขนัก
26 มิถุนายน 2555 12:39 น. - comment id 1236839
น่าสนุกกว่าในเมืองเยอะครับคุณเปลวเพลิง