ท้องฟ้าจะลาจรสแสง ก็แสดงสลัวลาง ลมแปร กระแสละทิศทาง ผสะร่างสะท้านใจ ร่มลานสถานรมยรื่น ดุจะฝืนจะชื่นใน- ทรวง ซอนจะย้อนอตีตไล้ ก็ไถลภวังค์หวาน ฟื้นคืนก็ฝืนสติกระชับ กลกับรตีกาล เผลอติดเพราะพิษมนสมาน ฤ จะผลาญสลายพลัน โอ้ ใจนะใจ ดลกระหวัด ดุจะชัด ชะชื่นวัน เห็นนวล ก็นวลศศินะสรรค์ อุระสั่นและพลันหมอง ทวนจิตพินิจ อนิจจัง มิจิรังจะถือครอง ขันธ์ห้าพิจารณสนอง ก็จะต้องมลายตาม ทุกขังเพราะยัง ณ วัฏวน ก็เพราะกลทะเลกาม ตัณหาก็อายตนะล่าม ก็ละความก็ข้ามกลัว ยึดมั่น ก็นั่น อนัตตา อุระพาและตามัว หม่นหมองเพราะครองอัตตตัว มนกลั้วมิกลัวพราง ท้องฟ้าจะลาละระวิวาร ประลุกาลสลัวลาง แสงโสมประโลมภพขจ่าง และสว่าง ณ ห้วงใจ วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
3 มกราคม 2555 21:18 น. - comment id 1219861
อัตตาที่หนาหนัก มิพักพ่าย อายตนะนอกในขยายผล ต้นเหตุชัด อัตตะ มิละตน ยากหลุดพ้น ถ้าตนตัว ..ยังกลั้วกัน !
4 มกราคม 2555 00:09 น. - comment id 1219869
ท้องฟ้างามท่ามคืนเพ็ญเด่นดวงฉาย ฟุ้งกำจายละอองทองผ่องรัศมี เคียงดาวน้อยลอยล่องท่องราตรี เหนือนทีเจ้าพระยามายาวนาน ทั้งเคยผ่านพายุฝนบนโลกหล้า ผ่านเวลาเรียนรู้คู่ละหาน จวบปัจจุบันนี้แห่งสายกาล แทนดวงมานมิ่งมิตรจิตอารีย์ คือเมตตาปรารถนาดีมิสุดสิ้น คือคำยิน-ยลแล้ว ไม่หมองศรี คือส่งใจถึงใจด้วยไมตรี คือวารีฉ่ำเย็นเช่นกาลเดิม ..ดีใจที่ได้อ่านงานฉันท์ค่ะ เขียนมาให้อ่านอีกเรื่อย ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ กลอนอาจไม่เข้ากันเท่าไหร่ ปัดฝุ่นลองเขียนดูค่ะ ไม่มีใครให้เขียนกลอนด้วยมานานแล้ว อิอิ
4 มกราคม 2555 09:14 น. - comment id 1219882
ครับ อัตตา ผมสอนตัวเองครับ คุณศรีสมภพ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณ pingfa โอกาสหน้ามาทักทายกันใหม่นะครับ
4 มกราคม 2555 13:13 น. - comment id 1219954
ค่ะ จะเข้ามาอ่านงานเขียนของคุณรัถยาอย่างสม่ำเสมอนะคะ
5 มกราคม 2555 22:24 น. - comment id 1220050
งานงาม หายไปนานหลายปีต่อไปนี้คงได้อ่านบ่อย ๆ
7 มกราคม 2555 20:23 น. - comment id 1220211
สวัสดีครับ คุณฤกษ์ ไม่ได้มานานมากทีเดียว