ขึ้นเขาใหญ่ ไปส่องนก ตอนที่ 3
นกตะวัน
พอมาถึงซึ่งทางใหญ่มิใช่น้อย
วุธจึงค่อยเลี้ยวขวาไปไช่หวาดหวั่น
แต่เพราะกลัวรถสวนมาพาชนกัน
ด้วยทางนั้นรถมากมายคล้ายมีมนต์
เพราะผู้คนต่างขับไปในทางนั้น
แม้ทางตันแต่อยากไปได้สักหน
ด้วยเส้นทางสูงคดเคี้ยวเลี้ยววกวน
พาผู้คนสู่เขาเขียวที่เที่ยวงาม
บนเขานั้นป่าชุ่มฉ่ำธรรมชาติสวย
เอื้ออำนวยให้ผู้คนแน่นล้นหลาม
ขึ้นชมวิวทิวทัศน์สวยด้วยป่างาม
รอบเขตคามค่ายทหารคอยพล่านมอง
แต่เรานั้นมิได้ไปไกลอย่างนั้น
แค่ใฝ่ฝันอยากเห็นไก่ได้สนอง
คือไก่ฟ้าพญาลอที่อยากมอง
จึงต้องลองไปสักครั้งอย่างตั้งใจ
วุธจึงขับรถเข้าไปไม่ไกลมาก
เพียงแค่จากปากทางเข้าไม่เท่าไหร่
หนึ่งกิโลเมตรเท่านั้นถึงทันใจ
จอดรถไว้หลักกิโลนั้นพลันซุ่มมอง
เวลานี้แปดโมงเช้าเข้าไปแล้ว
อาจคลาดแคล้วไม่เห็นไก่ให้หม่นหมอง
หากคนสวยได้มาด้วยคงช่วยมอง
พี่ไม่ต้องยืนถ่างตามองมาไป
แต่เพราะมีนายวุธสุดยอดดี
ขมันขมีคอยเฝ้าอยู่ซุ่มดูไก่
ทั้งนายเบิร์ดนั้นแสนดีมีน้ำใจ
เอาใจใส่คอยเฝ้าไก่ไม่ห่างกัน
รอตั้งนานไก่ไม่พล่านออกมาวิ่ง
คงอ้อยอิ่งหยิ่งเดินไปกลางไพรสัณฑ์
จะวาบหวามงามเพียงไหนไม่สำคัญ
จะสวยสันสักเพียงใดจะไม่แล
ไม่มีไก่แต่มิใช่ไม่มีนก
เพราะวิหคส่งสำเนียงเสียงเซ็งแซ่
บนต้นไม้ใกล้ถนนจนได้แล
เสียงจอแจอยู่ใกล้ใกล้ให้ได้ยิน
นกเขาเปล้าบินมาเข้าพุ่มไม้ใหญ่
เดินไต่ไปในร่มไม้ไม่โผผิน
สีเขียวหญ้ารอบตาฟ้าหน้าโสภิณ
นึกถวิลเหมือนน้องรักพักตร์ผ่องงาม
นกขุนทองจ้องมองดูอยู่เมื่อไหร่
ขนสุกใสสีดำขลับวาววับหวาม
แสงแดดส่องต้องแต่งขนจนเงางาม
เหมือนผมทรามสวาทสวยด้วยแดดดี
เขียวก้านตองปีกสีฟ้าบินมาบ้าง
ลออรูปร่างเขียวแกมเหลืองเรืองแสงสี
ใต้คอดำดั่งงามขำใส่นิลดี
สวมแทนจี้พี่ให้ไว้ได้น่าชม
ส่วนจาบคาเคราน้ำเงินเคอะเขินอยู่
เหมือนนกรู้เกาะอยู่ไกลไม่สุขสม
ตัวฟ้าเขียวผอมซีดเซียวดูพิกล
เหมือนหน้ามนทนหิวข้าวคราวนั้นเชียว
เลยออกไปบนกิ่งไม้ไม่ไกลนัก
นกน่ารักงามสง่าฟ้าครามเขียว
แต่ท้องนั้นดำเป็นมันตัดกันเชียว
คือนกเขียวครามตัวผู้น่าดูจริง
มันร้องบอกออกสำเนียงเสียงแสนเพราะ
ดังเหมาะเจาะกังวานใสไพเราะยิ่ง
เหมือนเสียงน้องร้องขานพี่ช่างดีจริง
หรือผีสิงให้พี่เห็นให้เป็นไป