ลมพัดยอด ยางขรม ระงมเสียง แว่วสำเนียง น้ำหลาก จากฝากฝั่ง ระคนกลิ่น อวลไอ ในภวังค์ พลิ้วใบบัง แสงตะวัน หลั่นร่มเงา ใบตองพริ้ว ก้านใบ ไหวกับคลื่น ไทรย้อยยื่น รากวน ปนความเหงา ระยับพราย สายน้ำ งามเป็นเงา ลมบางเบา เคล้าระริน กลิ่นสาปโคลน มองสายน้ำ เชี่ยวกราก ที่หลากหลั่ง รอยความหลัง สลักลาย คล้ายหัวโชน ยามสวมใส่ บทบาท ผงาดทะโมน ร้องตะโกน ก้องฟ้า ว่าดีใจ ยามถอดหัว คืนเขา เอาไปเก็บ แม้เพียงเล็บ เคยศรัทธา หามีไม่ แม้ยามผ่าน ไม่รู้เงา เขาหรือใคร สำแดงใด ไม่ปรากฎ หมดสัมพันธ์ ในยามนี้ เธอแกล้ง แสดงหรือ ให้คนลือ ว่าห่วงใย อาลัยฉัน นี่ความจริง หรือหลอก ช่วยบอกกัน หรือเพียงปัน ห่วงใย มาให้ยืม ทิพย์โนราห์ พันดาว
28 ตุลาคม 2553 10:39 น. - comment id 1164604
ส่งกำลังใจให้ก่อนนะคะ เป็นห่วงน้องโป้ง เหมือนกัน คุณจะไม่เด็ด ก็ไม่ทราบว่าท่วมหรือยังค่ะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
28 ตุลาคม 2553 10:18 น. - comment id 1164615
ไพเราะมากๆ ค่ะคุณทิพย์.... แซมค่ะ
28 ตุลาคม 2553 11:54 น. - comment id 1164654
ช่างตอกย้ำเหลือเกิน...บทกลอนกินใจมากเลยครับ..นี่กินไปกว่าครึ่งแล้ว...อย่าแต่งต่อเลยนะครับ..ขอร้อง ....แบบว่า
28 ตุลาคม 2553 13:39 น. - comment id 1164684
คล้อยตามอารมณ์คุณทิพย์ไปกว่าครึ่ง.. เป็นความงามของภาษาในลีลาวรรณศิลป์ ....ไพเราะครับ.
28 ตุลาคม 2553 14:40 น. - comment id 1164704
แวะมาเพราะคิดถึง..เปล่าเสแสร้งค่ะ...
28 ตุลาคม 2553 15:17 น. - comment id 1164729
เขาจะบอกว่า "ล้อเล่น" หรือเปล่านะคะ
28 ตุลาคม 2553 17:25 น. - comment id 1164776
โดนครับโดน
29 ตุลาคม 2553 01:58 น. - comment id 1164885
ไพเราะมากค่ะ
29 ตุลาคม 2553 10:03 น. - comment id 1164968
ดีจร้า...คุณทิพย์... ผมป่าวนา... อย่า...มองหม่น...เด้วใจกระวนกระวายอีกนา...อิอิ...ยิ่งทุกข์ๆอยู่ด้วย เน๊าะ... ปล.ๆ...กลอนเขียนได้ลุ่มลึกจิงๆ...จร้า...
10 พฤศจิกายน 2553 09:48 น. - comment id 1167704
ยืนฝันหวานกลางธารน้ำในยามหนาว ยะเยือกยาวยืนย่างกลางน้ำใส ถึงลมหนาวพราวพรูสู่กายใจ แต่น้ำไหลกลับอุ่นกรุ่นถึงจินต์ ฝันว่าใจลอยไปกับสายน้ำ ผ่านไปตามธารโตรกชะโงกหิน กระทบทรายทลายแนวแล้วหลั่งริน แต่มิอาจพังดินถิ่นไม้งาม