๏ รูปธรรมนำจิตให้...... ตรึงตรา ทุกผัสสะเสมือนพา.......สุขสร้าง นามธรรมเฉกอุปมา......ประดิษฐ์แต่ง ตัวอย่างโคลงเราอ้าง.....ฟากฟ้าทะเลฝัน ๏ เพราะใจมิเสื่อมสิ้น....ตามกาล จึงเริ่มวางแผนการ........เลือกเฟ้น ตั้งใจเพ่งผังกานท์.........ระเบียบแบบ แล้วคิดคำค้นเค้น.........เพื่อให้สมประสงค์ ๚ ๏ มวลหมอกลอยฟ่องฟ้า..ริ้วระบาย แววเก็จแก้วมณีพราย......องสะท้อน แว่วครืนคลื่นซัดทราย.....โครมสาด วิหคกางปีกฟ้อน............โอบอุ้มมัจฉา ๚ ๏ ตังเกจอดนิ่งคล้าย.......ต้องมนตร์ ปูถ่างขาเดินปน.............เปลือกคล้าย แมลงปอลิ่วลมบน..........กระพือแข่ง ทิ้งทากคืบรั้งท้าย..........คดเคี้ยวรอยถนน ๚ ๏ กลิ่นเกลือเจือจมูกแกล้ม..อักษร ยินเด็กหัวเราะตอน.........เล่นน้ำ เนื้อตัวต่างเปียกปอน.......ชุ่มโชก โดนแดดแผดจนคล้ำ.......คลับคล้ายลิงแสม ๚ ๏ จิตรกรคราคิดสร้าง.......ภาพใด เพียงพู่กันตวัดไป............แบบนี้ จินตกวีอยากสื่อนัย..........ตามจิต เพียงเลือกอักษรชี้...........เสกถ้อยร้อยคำ ๚ ๏ ตาบอดอิงภาพซึ้ง........นิมิต หูหนวกเปล่งถูกผิด.........ย่อมได้ งานศิลป์เกิดจากจริต......คนสื่อ ดีเลิศหรือบ้าใบ้..............ปราศเส้นขอบขวาง ๚ ๏ ตราบเท่ายังมากล้น......ศิลป์กานท์ ตราบเท่าในสันดาน.........ระลึกรู้ ตราบเท่าอุดมการณ์........ก่อเกิด หากจิตมิหลับคู้...............ย่อมซึ้งความหมาย๚ะ๛
9 ธันวาคม 2552 11:34 น. - comment id 1072095
จินตนาการก็ทำให้เรามีความสุข ยิ่งได้วาดภาพแล้ว ทำให้ลิงน้อยอย่างแก้วฯ มีสมาธิดีทีเดียวค่ะ
9 ธันวาคม 2552 11:45 น. - comment id 1072096
มาอ่านโคลงอันแสน ไพเราะ ด้วยจังหวะคำ และงดงามในเรียงคำ ครับ
9 ธันวาคม 2552 12:10 น. - comment id 1072100
ท้องฟ้าดูมืดครึ้ม หมองหมอง ชายหาดคลื่นฟัดฟอง สาดซ้า ปุยโปรยเกร็ดละออง ขาวเด่น เรือล่องลอยอวดฟ้า แสนงาม มีเพียงหาดรอบข้าง สองเรา ยินแต่ลมพัดเบา แผ่วพลิ้ว ท้องฟ้าทะเลเหงา มืดมิด อยากหยุดเวลาริ้ว เพราะเธอ ฝากทะเลฝากฟ้าช่วย คนดี ฝากคลื่นละอองมี เพื่อน้อง ฝากชายฝั่งฝันที่ เหงาเงียบ ฝากฤทัยเปลี่ยวเศร้า ดูแล
9 ธันวาคม 2552 12:30 น. - comment id 1072102
ฝันเถิดฝัน.... ความฝันของคนเรา ไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ คนที่ยังมีฝัน แสดงว่ายังมีไฟที่จะสู้ต่อ
9 ธันวาคม 2552 12:34 น. - comment id 1072103
น้อยใจน้อย ดวงนี้ มีสี่ห้อง โศกยังครอง หรือจะซึ้ง ถึงงานศิลป์ ลมหายใจ อ่อนระทวย ล้ารวยริน ได้เสพกิน เพียงพรมจูบ รูปมายา ......... มาติดตามกลอน งามคำและคิดครับ...
9 ธันวาคม 2552 12:40 น. - comment id 1072104
:) สร้างฝันจากตัวหนังสือ..
9 ธันวาคม 2552 12:42 น. - comment id 1072105
เขียนได้งดงามแฝงธรรมลึกซึ้งยิ่งนักยอดหญิง ยายแก่ที่รักหากวันใดมีกลอนลงหากไม่อ่านก็เหมือน ขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่งจริงๆนะ เธอเป็นทั้ง ยอดหญิง ยายแก่ เพื่อนที่สามารถล้อเล่นได้ เป็นสิ่งที่ฝันใฝ่เสมอมา รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
9 ธันวาคม 2552 14:00 น. - comment id 1072117
ขอยิ้มอย่างเดียวพอ....
9 ธันวาคม 2552 15:17 น. - comment id 1072132
จินตนาการไม่สิ้นสุด ตราบที่ไม่สิ้นสุดที่จะจินตนาการ ผลงานที่มีคุณค่า คือผลงานที่ผู้เขียน ได้สร้างคุณค่าออกมาจากใจ ^ ^
9 ธันวาคม 2552 15:52 น. - comment id 1072152
~ ครืนครืนคราคลื่นครื้น ..... เครงครา คลาคล่ำคลอเคลียคลา ..... เคลื่อนคล้อย ครวญครางเคลิบเคลิ้มคา ..... คื่นค่ำ คำคลื่นครวญค่อยค้อย ..... ครุ่นคล้ายใครคราง
9 ธันวาคม 2552 18:57 น. - comment id 1072204
งดงามมากครับ จับใจจริง ๆ เลย ปล.ถึงพี่พจน์ สุดยอดอ่ะครับ แต่งโคลงใช้พยัญชนะต้นตัวเดียวทั้งหมด...นับถือ ๆ ๆ
9 ธันวาคม 2552 19:48 น. - comment id 1072224
เยี่ยมคับ
9 ธันวาคม 2552 20:25 น. - comment id 1072238
คุณครูกระดาษทราย .. โคลงงามค่ะ รูปก็งามด้วย คุณแก้วประภัสสร .. การที่นั่งมองใครสักคนวาดภาพ ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ คุณคนกุลา .. อย่าเชียว อย่าเชียว เดี๋ยวไม่มีเงินจ่ายค่าต๋ง คุณสุรศรี .. หากภาพทำให้ปรากฏอักษรที่งดงามเช่นนี้ ย่อมหมายถึงอารมณ์ของผู้เขียนที่สุนทรีด้วยค่ะ :) คุณปรางทิพย์ .. ทุกครั้งที่ฝัน ก็เหมือนกับได้โลดแล่นต่างโลก มันช่างพิศดารนักกับความฝันในแต่ละครั้งค่ะ จนบางทีนึกเสียดาย ที่เป็นแค่ฝัน คุณวาสุกรี .. ยลเพียงรูปจูบได้อย่างไรหรือ ? ใกล้เพียงมือแต่ทว่ามายาสิ้น ลมหายใจไฉนระทวยล้ารวยริน เสพงานศิลป์ท่ามโลกแล้วโศกไย ? คุณกุ้งหนามแดง .. ช่ายแล้ว ทุกสิ่งเกิดได้ในความสมมุติ คุณแก้วประเสริฐ .. แหม๊ ตอบไม่ถูกเลยเรา คุณเทียนหยด .. เก็บตังค์ค่าอ่านด้วยจ้า ศิษย์น้อง .. เดี๋ยวเขาหาว่าเป็นหน้าม้า น๊า คุณพจน์รำพัน คนโคลงคงใคร่ข้อ.................ขำขัน ขบคิดคำครบครัน....................ครึกครื้น ขอคอยคู่เคียงขวัญ...................ข้างแคร่ โคลงครอบคลุมครั่นครื้น.......ค่อนข้างขัดเขิน คุณสุริยันต์ .. นั่นล่ะ คือเขา คุณวิทย์ .. มีโอเลี้ยง กับ ข้าวผัดมาฝากหรือเปล่า จ๊ะ
9 ธันวาคม 2552 22:02 น. - comment id 1072277
สองคนยลช่องชี้ ตามเพรง คนหนึ่งเหงาวังเวง ว่างเว้น อีกคนครั่นครืนเครง แตกตื่น เกิดแต่ดาลจริตเต้น ไต่เต้าตรูตาม จริตใครจริตมันอยู่แล้ว
9 ธันวาคม 2552 22:23 น. - comment id 1072284
นั่นสิ จริตใคร จริตมันอยู่แล้ว ... เขียนถึงอีกคน ออดอ้อนอีกคน ...
10 ธันวาคม 2552 08:19 น. - comment id 1072352
เพราะจังค่ะ...
10 ธันวาคม 2552 18:28 น. - comment id 1072637
ประทับใจกลอนบทนี้มากๆเลยค่ะ อ่านจนเข้าใจไม่ผิดแล้ว ขอบคุณนะคะ
10 ธันวาคม 2552 18:44 น. - comment id 1072653
งานงาม ภาพงาม
10 ธันวาคม 2552 18:59 น. - comment id 1072671
....ไพเราะทั้งอักษร..และสำนวนโคลง..งานงาม...ภาพสวย..ให้ความรู้สึกที่ดีมากค่ะ... มาเยี่ยมชมนะคะ...
10 ธันวาคม 2552 19:25 น. - comment id 1072682
จินตนาการไร้ขีดจำกัดจริงๆค่ะ
10 ธันวาคม 2552 20:38 น. - comment id 1072738
มหาสมุทรกว้างเหลือจินตนา เส้นขอบฟ้าไกลกว่าจะนึกได้ ดั่งความคิดคมคนบ้านกลอนไทย ก็กว้างไกลสุดหยั่งดั่งทะเล หน้านี้หน้าหนาวรึเปล่าไม่รู้นะขอรับ จะไปทะเลก็ระวังหวัดจะกินเอา รักษาสุขภาพนะขอรับ
11 ธันวาคม 2552 07:11 น. - comment id 1072800
คุณกิตติกานต์ .. ขอบคุณค่ะ คุณแตงเม .. หืมม เคยเข้าใจอะไรผิดมาเหรอ คุณลานเทวา .. แฮ่ แฮ่ .. ยืดอกยิ้มรับเจ้าค่ะ คุณราชิกา .. ภาพนี้ไม่ได้วาดเองนา เอามาจากเน็ตค่ะ ส่วนโคลงเขียนเองค่ะ คุณเฌอมาลย์ .. อื้อ ลองบทอัศจรรย์กันมั๊ย คุณวนกวี .. หน้าหนาวนี้ ยังไม่มีคิวไปพักผ่อนยาวที่ไหนเลยค่ะ ยิ่งช่วงปลายปี หมดสิทธิ์ แต่ก็คิดเอาไว้นะ ช่วงหน้าร้อนปีหน้า ว่าจะไปดำน้ำแถว ๆ ทะเลตรัง มีบ้านพี่ที่นับถืออยู่ที่นั่นค่ะ
11 ธันวาคม 2552 21:44 น. - comment id 1073072
บ้านผมก็อยู่ตรังนะขอรับ จะให้นำเที่ยวยังได้เลยนะ
11 ธันวาคม 2552 22:34 น. - comment id 1073115
จริงเหรอ คุณวนกวี . .:) ดีจังแฮะ บ้านพี่สาวที่เรานับถืออยู่ สิเกา พี่สาวเป็นครูอยู่ที่นั่น พี่ชาย(ตอนนี้ต้องเรียกพี่เขยแล้ว) ก็เป็นครูเหมือนกัน