นาร้อนรอนใจไร้ชีวา เขียวพงดงหญ้ามาเลือนไร้ กบเขียดในนามาหายไป น้ำเหนือหลากไหลก็ไม่นอง เดือนห้าหนุ่มสาวเข้าเมืองกรุง ท้องทุ่งจึงไร้ใครเที่ยวท่อง เคยเรืองรองรุ่งดั่งทุ่งทอง กลับต้องตากตกรกเป็นดง สงกรานต์ปีนี้จะมีไหม หนุ่มสาวคนใดจะไหลหลง กลับกรุงเยือนนามาปลดปลง มาคงวันคืนในผืนนา แต่นี้ใครไหนจะไถหว่าน มันไปทำงานโรงทอผ้า มันลืมไอดินกลิ่นปลาร้า มันลืมดอกหญ้าประดับดิน มันเคยฝากคำกับท้องนา สัญญาให้ไว้ลืมไปสิ้น คำรักหวานเร้นเหมือนเล่นลิ้น โบกบินจากไปไม่แม้ลา แต่นี้มีแค่เฒ่ามาเฝ้าหว่าน ไถดานเทือกถกตกกล้า งกเงิ่นเขินขดรันทดล้า จึงขายนาส่งเงินให้ไปซื้อรถ มันขอเงินซื้อโทรทัศน์ เงินเดือนติดขัดตัดเงินหมด พ่อแม่ชาวนาหามาชด เงินก็หมดข้าวในนาหาไม่แล้ว
29 มีนาคม 2545 07:13 น. - comment id 43157
อีกหน่อยคงต้องซื้อข้าวจากเวียตนาม มากินแล้วใช่เปล่า
29 มีนาคม 2545 08:20 น. - comment id 43170
นั่นดิครับ .... ตามหมู่บ้านเดี๋ยวนี้ แทบจะมีแต่คนแก่ ๆ กับเด็ก ๆ หนุ่ม ๆ สาว ๆ ไปอยู่โรงงานกันหมดแล้ว
29 มีนาคม 2545 09:23 น. - comment id 43182
ทำไมทำนาแล้วจนจม ตรอมตรมหมองหม่นระคนแค้น ตรองตรึกนึกแน่ให้แนบแน่น ถึงแก่นเนื้อแท้แล้วแก้ไข...
30 มีนาคม 2545 10:01 น. - comment id 43329
อ่านแล้วมันหดหู่อ่ะ
30 มีนาคม 2545 23:48 น. - comment id 43457
จะกลับหลังคืนถิ่นทะเลกว้าง และแผ้วถางทางใจที่ใฝ่ฝัน รักท้องนารักทะเลเท่าเทียมกัน ฝันและฝัน..รักผืนดินถิ่นนี้ที่ได้เดิน..เงยแหงนสู่ฝันไกล!