หลับตาลงตรงนี้เถิดที่รัก ณ ตรงตักว่างว่างกลางสวนฝัน ตรับกวีคีตศิลป์พิณพระจันทร์ ปลอบปลุกขวัญฝ่าคืนหนาวอันยาวนาน ลมทะเลเห่กล่อมหอมลมหนาว น้ำค้างพราวพร่างพรมห่มกิ่งก้าน เพียงเพื่อรอฤดูใหม่ได้ผลิบาน ลมซ่าซ่านกรีดใบไม้ร่ายดนตรี ละอองพลิ้วเมฆฝนปนหมอกใส ระบัดใบสลับลายระบายสี หม่นความหมองของแสงดาวคราวเคยมี วันวันที่ลมหวนไม่ทวนคืน ในคืนนี้แม้แสงดาวไม่พราวฟ้า เชิญขวัญมาพักใจให้เริงรื่น จะเอาหวังอุ่นหวังต่างไฟฟืน ลบรอยขื่นจางจางบางเวลา หลับตาลงตรงนี้นะที่รัก หลับและพักใจกายหายเหว่ว้า ลืมวันเก่าเคยหมองนองน้ำตา มุ่งฟันฝ่าสร้างรุ้งสวยไปด้วยกัน . ...................
7 พฤษภาคม 2552 00:24 น. - comment id 981360
หวานมากครับ ...
7 พฤษภาคม 2552 01:52 น. - comment id 981369
หากหัวใจปลิดได้คล้ายดอกฝน คงปลิดหล่นปลิดหล่นคล้ายชีพนี้ เพราะหัวใจไม่ใช่ดอกฝนนะคนดี จึงวันนี้แหลกยับดับภายใน หากหัวใจปลิดกลีบได้คล้ายดอกไม้ คงปลิดร่ายพรายพรมลมพัดไหว เพราะหัวใจมิใช่ดอกไม้นะดวงใจ จึงหวั่นไหวเสียใจเพียงลำพัง.. หากหัวใจปล่อยได้คล้ายสายฝน คงปล่อยหล่นปล่อยหล่นหมดสิ้นหวัง แตกกระจายคล้ายแก้วแล้วกระมัง ไร้ฝั่งฝันฝั่งใจใครเฝ้ารอ... เพราะหัวใจปลิดไม่ได้ในวันนี้ จึงต้องมีหัวใจไหวเพ้อพ้อ จึงต้องทนคนไม่รักใจดำพอ จึงต้องขอกล่าวคำลาว่าเสียใจและเสียใจ...ไปจนตาย! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem63525.html ณ ปลายฟ้ามีเกลียวฝันอันงดงาม !
7 พฤษภาคม 2552 09:03 น. - comment id 981400
คุณ พุด ครับไปเยี่ยมมาแล้ว นะครับที่ ณ ปลายฟ้ามีเกลียวฝันอันงดงาม..! งดงามและลึกซึ้ง มากครับ ณ ที่นั่น ณ กาลหนึ่ง ผมพบเห็น . หนึ่งหนุ่มหนึ่งนางฟ้ามาประสบ เพื่อเพียงพบในห้วงฝันอันแสนหวาน กลางรุ้งราวพราวพรายพรรณของวันวาน เกิด ณ กาลลานแห่งนั้นดงลั่นทม กลางทะเลสีใสในแดดสวย ลมระรวยสมเสพย์เทพอุ้มสม ดั่งร่างทิพย์หมุนคว้างกลางสายลม ดุจได้ชมนิมิตขวัญนิรันดร์กาล เมื่อได้มาพบฝันอันแสนสวย ตบแต่งด้วยความจริงนิ่งบรรสาน กริ่งเพียงแต่ฝันแปลกจะแหลกราญ เมื่อเมื่อยามกาลผ่านพ้นทิพย์ดนตรี อาศัยเพียงจิตพักพิงนิ่งพิสุทธิ์ และเร่งรุดสร้างหวังกลางแสงสี ความจริงกับฝันหนอต้องพอดี เหมือนวาดสีสันต์งามในความจริง นักเดินทางเทียวมาต้องกล้าฝัน หนามไหน่นั่นแม้นเหมือนมีดกรีดทุกสิ่ง เจ็บถึงใจไม่ไหวห่วงจะท้วงติง เพราะเหมือนยิ่งเจ็บย้ำปวดซ้ำใจ แต่หากใจไม่กล้าฝันอีกวันนี้ หรือจะมีได้พบฝันในวันใหม่ ที่ขอบฟ้าปลายฝันนั้นรอใคร หากหัวใจเราไม่กล้าจะก้าวเดิน ที่ปลายฟ้ายังรอเธอทอฝัน รอนับวันผ่านกาลอันนานเนิ่น หวังเพียงวันเธอคงหยุดหลงเพลิน เปลี่ยนทางเดินล่วงปลายฟ้า...เฝ้าท่ารอ . อรุณสวัสดิ์ นะครับ รักษาสุขภาพและจินตนาการใจ ให้ดี นะครับ เพื่อหลายคนและบางใคร ที่ห่วงอาทร ครับ
7 พฤษภาคม 2552 09:11 น. - comment id 981401
ขอบคุณ คุณวฤก ครับที่มาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ วันก่อนผมพบชื่อนี้ที่ เว็ปเสรีไทย ไม่ทราบคนเดียวกันหรือเปล่า ครับ ขอโทษ นะครับ ที่ถาม...
7 พฤษภาคม 2552 09:31 น. - comment id 981407
มาขอพักใจให้กล่อมขวัญด้วยคนนะคะ
7 พฤษภาคม 2552 12:44 น. - comment id 981459
หลับตาหลับตรับสำเนียงนะเพียงพลิ้ว ดูลมปลิวเมฆหม่นบนฟ้าใส หลับลงตรงม่านฝันกั้นกางใจ เพื่อจะได้หลับฝันกลางจันทร์นวล คืนจันทร์ผ่องส่องดาวหลบพราวแสง ด้วยจันทร์แรงสาดไสวใจไห้หวล นิ่งสนิทในนิทราถ้าทบทวน สู่กระบวนนิมิตฝันอันเพริศพราย . ขอบคุณคุณเพียงพลิ้ว ที่มาเยี่ยมเยือน เป็นเพื่อนพัก กายใจ ครับ
7 พฤษภาคม 2552 12:47 น. - comment id 981460
ขอบคุณ คุณมณีจันทร์ ครับ ที่มาเยี่ยมเยือนกัน ครับ
7 พฤษภาคม 2552 14:59 น. - comment id 981482
กล่อมซะหลับเลยเจ้าค่ะ น้ำลายยืดไปถึงหมอนแล้วนะคะ อิอิ
7 พฤษภาคม 2552 15:11 น. - comment id 981488
ขอบคุที่มาเยี่ยม ครับ คูณยาแก้ปวด สงสัยต้องต่ออีกกลอน ชื่อ ซํบน้ำลายป้ายปลอกหมอน มั๊ง ครับ ๕๕๕๕๕
7 พฤษภาคม 2552 15:18 น. - comment id 981491
สะดุ้งตื่นมาเพราะน้ำลายยาแก้ปวดนี่แหละ
7 พฤษภาคม 2552 15:30 น. - comment id 981499
อบอุ่นดีจังค่ะ ไพเราะความหมายดีด้วยค่ะ
7 พฤษภาคม 2552 22:08 น. - comment id 981593
หวานจังเลย อยากหลับแล้วซิคะ อิอิ มาทักทายก่อนนอนค่ะ เผื่อฝันดี
9 พฤษภาคม 2552 10:23 น. - comment id 981812
ยามล้าพาใจร่ำไห้หา พึ่งพาที่ใดพแด้หนอ พักพิงอิงใจได้เพียงพอ ช่วยต่อลมหายใจ..ให้คนท้อ.. กลอนเพราะมากค่ะ
9 พฤษภาคม 2552 10:51 น. - comment id 981829
Re: หลับตาหลับตรับสำเนียงนะเพียงพลิ้ว ดูลมปลิวเมฆหม่นบนฟ้าใส หลับลงตรงม่านฝันกั้นกางใจ เพื่อจะได้หลับฝันกลางจันทร์นวล คืนจันทร์ผ่องส่องดาวหลบพราวแสง ด้วยจันทร์แรงสาดไสวใจไห้หวล นิ่งสนิทในนิทราถ้าทบทวน สู่กระบวนนิมิตฝันอันเพริศพราย ------------------------------- ๐ ฟังเพลงกลอนพี่กล่อมถนอมขวัญ น้องคนนั้นคงหลับไปไม่ขวัญหาย คงฝันหวานลืมวันปวดรวดร้าวใจ ฝันให้หายความเหงาเศร้าวิญญา ๐ เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงม ซร้องประสมขรมก้องไปในไพรป่า แทนเสียงกลอนกล่อมขับหลับนิทรา น้ำค้างราโรยแรงเหมือนแกล้งกัน ๐ ดอกเอ๋ยเจ้าดอกเอื้องบนกิ่งอโศก สายลมโบกกิ่งไกวไหวสะท้าน ใจสองดวงห่วงเหนี่ยวเกี่ยวนานวัน พี่พร่ำฝัน...อ้อยอิ่ง...น้องนิ่งฟัง ๐ สมมติกันในนิยามของความรัก แสนหวานนักยามรักสู่อยู่ทรวงฝัง จากไกลนิดจิตหายพะว้าพะวัง ช่างเปราะบางทุกย่างก้าวเจ้าความรัก ๐ คืนวันเหงาน้องเศร้าใจให้คิดถึง คอยวันซึ่งฝันของเราเฝ้าประจักษ์ ทั้งดวงจันทร์ดวงดาวกล่าวทายทัก ถึงความรักที่พี่สลักลงกลางใจ .... ... มาร่วมต่อกลอนตามจินตกวีนะคะ แค่แต่งตามวรรณศิลป์นะคะ มิคิดไกลอื่นค่ะ
9 พฤษภาคม 2552 20:30 น. - comment id 981962
** ขอเป็นลม...หายใจ เมื่อใกล้ชิด ขอเป็นมิตร...เคียงอยู่ เป็นคู่สอน ขอเป็นผ้า...ห่มกาย มิคลายคลอน ขอเป็นหมอน...รองรับ กับชีวัน ** หลับเถิดนะ คนดี สุดที่รัก นอนหนุนตัก นวลน้อง ประคองขวัญ ได้พักพิง อิงแอบ แนบชิดกัน รักผูกพัน ห่วงหา แสนอาลัย ** หลับเถิดนะ คนดี สุดที่รัก ด้วยใจภักดิ์ คงมั่น มิหวั่นไหว อิงอกแอบ แนบทรวง จากห้วงใจ มอบหทัย .ให้เธอนั้น หลับฝันดี.......ฯ ..งานงามและไพเราะมากค่ะ..จนอดที่จะแจมกลอนไม่ได้...ราชิกา..ขออนุญาตมาร่วมแจมกลอนนะคะ...คงไม่ว่ากันนะคะ...สบายดีมั้ยคะ...ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ..เป็นห่วงค่ะ...
10 พฤษภาคม 2552 00:02 น. - comment id 982049
ขอบคุณที่มาเยี่ยม เสียใจด้วยนะที่น้ำลายยืดของเพื่อนทำให้ต้องตื่น คนกล่อมไม่ต้อง รับผิดชอบ ใช่ไหม ครับ คุณเฌอมาลย์
10 พฤษภาคม 2552 00:04 น. - comment id 982051
ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจ ครับ คุณ somebody ครับ
10 พฤษภาคม 2552 02:47 น. - comment id 982061
ก็เอาหลวงพี่มานั่งธรรมาศน์ คุมอยู่อย่าง นั้นก็บิ้วอารมณ์ หวานยากหน่อย ละมั๊ง คุณแบม ครับ
10 พฤษภาคม 2552 02:48 น. - comment id 982062
ราตรีสวัสดิ์ ครับ คุณช่ออักษราลี
10 พฤษภาคม 2552 02:52 น. - comment id 982063
ขอบคุณ ครับ ครูพิม เศร้าใดเกินใจจะไถ่ถาม รอติดรอตามถามคนท้อ แท้จริงใครใจท้อเพราะอะไร เผื่อจะได้เอาใจช่วยด้วยสักคน
10 พฤษภาคม 2552 02:56 น. - comment id 982064
เข้าใจดี ตามที่อธิบาย ครับ คุณภาสุรีย์ ขอบคุณที่เอากลอนมาแจมมาฝากครับ พักนี้ต้องระมัดระวังโรคภัยไข้เจ็บ ให้มากนะครับ
10 พฤษภาคม 2552 03:00 น. - comment id 982065
เชิญเลยครับ คุณ ราชิกา กลอนที่นำมาแจม เพราะมาก เลย ครับ ต้องขอบคุณที่มาแจม ที่ทำให้บรรยากาศ มีชีวิตชีวาขึ้นด้วยนะครับ