............. ฟ้าเหลือบสีเลื่อมลายเหมือนสายรุ้ง เราเหมือนมุ่งหมายมาหาความฝัน สาดฟ้าสางรางรำไรในหมอกควัน เหมือนย้ำฝันวันที่มีนมนาน . ลมเช้าพรายระบายห่มบ่มสายหมอก เคลียล้อหยอกผกาบุปผาหวาน เสียงดุเหว่าแว่วร้องก้องกังวาน เหมือนเรียกขานโหยหาสัญญาใจ . หนาวลมหนาวคราวที่มีเราอยู่ ช่อบัวชูดอกบานก้านไสว กลีบไม้แย้มเบ่งบานบนลานใจ แซมเขียวใบสีละลานยามผ่านชม . สวนสวรรค์ไม้หลากสีที่ได้เห็น บานช่อเป็นภาพเมื่อมีสีผสม ยิ่งหลากสียิ่งเย้ายวนให้ชวนชม พอได้ข่มหม่นสีหมอง..วันต้องลา ...................
21 เมษายน 2552 04:09 น. - comment id 974887
สวัสดีงามๆยามราตรีเจ้า เข้ามาอ่านบทกลอนใช้สำนวนได้ไพเราะแต้ๆ เจ้า ขะเจ้า ต่อกลอนบ่ออกเลยเจ้า เพราะยังอ่อนเรื่องสำนวนเจ้า
21 เมษายน 2552 05:23 น. - comment id 974892
ธรรมชาติความงามที่ปรากฎ จะสวยสดเพียงไรถ้าได้เห็น สัมผัสด้วยลำนำคำฉ่ำเย็น สมที่เป็นบทกวีที่แสนงาม
21 เมษายน 2552 09:08 น. - comment id 974924
การจากลาพาใจให้ใจสุดเหงา มองทางใดว่างเปล่ามากหนักนา แม้สิ่งนั้นงดงามสะดุดตา ที่ผ่านมากลับเศร้าเพราะเหงาใจ .................
21 เมษายน 2552 10:42 น. - comment id 974961
รักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ แค่การได้เห็น *เส้นทางสายรุ้งแห่งความสุข* *เส้นทางสายเรียวรวงดอกไม้บาน* ก็งามเงียบ สงบใจเกินใดปานแล้วค่ะ จึงรักงานแนวดิบดินที่อิงทัศนียภาพ แห่งความเรียบง่ายไร้มายาปรุงแต่ง สวนสวรรค์ในวันลา งดงามด้วยภาษาที่สื่อสะท้อนให้เห็นภาพ แห่งธรรมชาติคู่ธรรมสัจจะ แห่งการพรากจาก ที่เป็นธรรมดาเช่นนั้นเองค่ะ ด้วยรักชื่นชมนะคะ
21 เมษายน 2552 12:35 น. - comment id 975002
ดุจน้ำค้าง จำลายามอุษาสาง ประดุจดั่ง สายหมอกจาง เมื่อฟ้าแจ้ง เหมือนสายฝน โปรยปราย แล้วลาแรม เหมือนสายรุ้งแจ่ม เมื่อฝนจาง งดงามคำมากมายค่ะ ดอกบัวดีใจที่ได้สัมผัส กวี มืออาชีพ เหมือนได้พบอักษร และคำล้ำค่า จากนามปากกา แปลกใหม่ แล้วอีกไม่นาน ก็จางหายไป นามใหม่ๆ ก็เข้าทดแทน คงเหมือน กับชีวิตมนุษย์ ปัจจุบัน ที่วนเวียน พบเจอหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างผ่านเข้ามา แล้วก็จากลาผ่านไป สวัสดีค่ะ คุณ คนกุลา ขอบคุณคำดีๆที่ให้ได้เรียนรู้ ขอให้ได้พบแต่สิ่งสวยงามในชีวิตค่ะ
21 เมษายน 2552 19:15 น. - comment id 975118
ลมเช้าพรายระบายห่มบ่มสายหมอก เคลียล้อหยอกผกาบุปผาหวาน เสียงดุเหว่าแว่วร้องก้องกังวาน เหมือนเรียกขานโหยหาสัญญาใจ *************************************** หนาวหทัย ร้าวทรวง ในดวงจิต พรหมลิชิต มั่นคง มิสงสัย ให้เราสอง ครองกัน ทุกวันไป แม้นห่างไกล รักเอย ไม่เคยลืม.....ฯ บทกลอนไพเราะมากค่ะ..ขออนุญาต..มาแจมกลอนนะคะ.... ...งานงามทั้งสำนวนและลีลากลอน...อ่านแล้ว...ขอคารวะค่ะ..ฝีมือชั้นครู..มาชื่นชมด้วยใจจริงนะคะ...
22 เมษายน 2552 00:10 น. - comment id 975324
ม่านดอยครับขอบคุณที่มาเยือน ตอนนี้ดาวเดือนคงหลับแล้ว ที่ดงดอยคงพราวพร่างน้ำค้างแพรว ขอบคุณแวว"ม่านดอย"คอยมาเยือน . ขอบคุณ ครับ
22 เมษายน 2552 00:11 น. - comment id 975325
ขอบคุณที่นำบทกลอนแสนงาม มาเยี่ยม ครับ คุณกันนา..
22 เมษายน 2552 00:19 น. - comment id 975327
บอกใจจะไม่เหงา เหมือนบอกเงาอย่าตามติด คิดถึงยังตรึงจิต แม้ไม่คิดก็เหงาครับ... . คุณ somebody
22 เมษายน 2552 00:30 น. - comment id 975328
ขอบคุณ พุด สาวบ้านนา รู้ว่าชอบเดินทางหว่างสายรุ้ง พบทุ่งดอกไม้บานบนลานฝัน พบที่นั่นบ้างไหมเล่า..สาวบ้านนา...
22 เมษายน 2552 00:44 น. - comment id 975333
เดือนดาวจำลา เพราะฟ้าสาง น้ำค้างจำร้าง พร่างแดดเผา หมอกเหมยยังเคยร้างกลางแดดเยา แสงและเงายังต้องร้าง....กลางแสงธรรม... . ดอกบัวผุดพร่างตม แต่ยามชมพิสุทธิ์งาม กิเลสตัณหาตาม ฝึกฝนห้าม..จนดิบดี . ขอบคุณที่มาเยี่ยม ครับ คุณดอกบัว .
22 เมษายน 2552 00:54 น. - comment id 975336
ความคิดเห็นที่ 6 : หมายเลข 987619 ลมเช้าพรายระบายห่มบ่มสายหมอก เคลียล้อหยอกผกาบุปผาหวาน เสียงดุเหว่าแว่วร้องก้องกังวาน เหมือนเรียกขานโหยหาสัญญาใจ *************************************** หนาวหทัย ร้าวทรวง ในดวงจิต พรหมลิชิต มั่นคง มิสงสัย ให้เราสอง ครองกัน ทุกวันไป แม้นห่างไกล รักเอย ไม่เคยลืม..... """"""""""""""""""""""""""""""""" ครั้งคราใหม่คงมั่นคง มิสงสัย แต่นานไปกลัวรักจักคลายปลื้ม ไม่ทันหลงหวังว่าคงจะไม่ลืม รักดูดดื่มนานไปอย่าได้จาง..... . ขอบคุณ คุณราชิกา ที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจ ครับ
9 สิงหาคม 2552 16:08 น. - comment id 1025121
มิอาจลืมสวนสวรรค์ครานั้นได้ วูบวูบไหวเลือนเลือนเหมือนหลอกหลอน มาลีไหวภุมรินทร์บินดมดอม ผีเสื้อฟ้อนลำนำร่ำอำลา ในลมหนาวคราวที่มีเราอยู่ ชี้ชวนดูหมู่แมลงแสงอุษา ยามฟ้าสางรำไรใจสัญญา ย้ำเตือนว่าดวงฤทัยได้แต่คอย