...อัศดง ตรงขอบฟ้า คราเย็นคล้อย ตะวันย้อย ลอยลงต่ำ ล้ำเวหา ลมพัดแผ่ว แว่วสำเนียง เสียงนกกา ท้องทุ่งนา คราเย็นย่าง ช่างวิไล ทุ่งขจี สีเขียว เหลียวแลจ้อง แดดอ่อนต้อง ทั่วท้องนา หญ้าไสว ลมเย็นโชย โบยโบก โยกก้านใบ โอนอ่อนไหว ในทุ่งนา คราสายัญ มองเจ้าทุย ลุยกินหญ้า คราแดดร่ม ดูสุขสม ก้มกินหญ้า น่าสุขสัน นกเอี้ยงน้อย คอยเลี้ยงดู อยู่หลังมัน ร้องขบขัน ประชันเสียงสำเนียงไพร จูงเจ้าทุย ลุยคันนา มากระท่อม เดินครวญเพลงบรรเลงกล่อม พร้อมคันไถ เลาะชายทุ่ง มุ่งเถียงนา มาไม่ไกล ถึงบ้านไพร ใกล้กองฟาง กลางทุ่งนา ในราตี ที่ท้องนา คราพบค่ำ เป็นประจำ สำเนียง เสียงพฤกษา จักจั่นร้อง พร้องเรไร ไขวาจา แว่วบรรเลงเพลงบ้านนา พาสุขใจ ใกล้สว่าง กระจ่างฟ้า ครารุ่งเช้า ลมแผ่วเบา เคล้าน้ำค้าง ช่างสดใส เจ้าไก่โต้ง โก่งคอขัน ลั่นทุ่งไกล ปลุกชาวนาคราหลับใหล ให้ตื่นกาย เตรียมคาดไถ ใส่เจ้าทุย ลุยไถหว่าน พร้อมสู้งาน ผ่านแดดอุ่น อรุณฉาย จัดข้าวปลา อาหารห่อ พอเลี้ยงกาย ตะวันสาย หมายมุ่งสู่ทุ่งนา เป็นวิถีที่เรียบง่าย มาหลายยุค คือความสุข คลุกเค้าดิน ถิ่นหรรษา แดนสวรรค์ อันสุขี ที่บ้านนา มีคุณค่า น่าหลงใหล ในครรลอง
17 มีนาคม 2552 14:37 น. - comment id 964319
สวัสดีค่ะ เขียนได้เห็นภาพ เหมือนกับว่าได้ไปอยู่ใน สถานที่นั้นจริงๆ เลยค่ะ คงจะเย็นสบาย วิถีชีวิตเรียบง่าย ตามแบบฉบับของชนบทสินะคะ คิดถึงบ้านเหมื่อนกันค่ะ
17 มีนาคม 2552 16:11 น. - comment id 964332
แวะมาตักตวงบรรยากาศทุ่งนายามอัสดงครับ
17 มีนาคม 2552 17:18 น. - comment id 964351
...สวัสดีครับ..คุณเทพธัญญ์... เข้าร่วมแจมด้วยครับ...... แวะมาทัก มาถาม มายามเสี่ยว อยู่คนเดียว เปลี่ยวใจ ให้หงอยเหงา กะมาซวน หมู่เฮา เข้าเถียงนา กินก้อยกุ้ง ลาบปลา แกล้มยาดอง ไพเราะล้น มนต์แคน ฟังแสนม่วน เพลงพิณครวญ เสียงใส หัวใจผ่อง ระบำรวง ข้าวเหลือง งามเรืองรอง ทั่วทุ่งทอง คือสวรรค์ ของบ้านนา
17 มีนาคม 2552 17:48 น. - comment id 964369
ชอบบรรยากาศแบบนี้แหละค่ะ ทว่าตอนนี้หมอกควันคลุมหมดแล้ว แต่งกลอนได้ไพเราะจัง ไปเดินเล่นคงสบายใจมากเน๊าะ
17 มีนาคม 2552 18:20 น. - comment id 964387
อ่านแล้วคิดถึงบ้านมากเลยค่ะ อยากกลับไปหาความสงบเงียบ มั่นคงและอบอุ่นที่บ้าน ...เหงามากมาย
17 มีนาคม 2552 19:26 น. - comment id 964401
รอวันกลับไปอยู่บ้านเหมือนกันเจ้าค่ะ คิดถึงกองฟาง คิดถึงบ้านหลังคามุงหญ้าแฝกของคุณพ่อ คงอีกไม่นานค่ะ เขียนได้ดีมากค่ะ ชื่นชมจากใจจริงๆ
17 มีนาคม 2552 19:45 น. - comment id 964411
...สวัสดีครับ..คุณเทพธัญญ์... ขออภัยนะครับ...ขอยกเลิกความคิดเห็นที่ 3... ..เกิดข้อผิดพลาดในการพิมพ์..... ฝากบทกวีที่ได้แก้ไขแล้วนี้แทน...ครับ.... แวะมาทัก มาถาม มายามเสี่ยว อยู่คนเดียว เปลี่ยวใจ ให้หงอยเหงา คึดฮอดเสี่ยว เมื่อครั้ง ยังวัยเยาว์ เคยร่วมเนา ม่วนซื่น รื่นอุรา ยามเย็นย่ำ สายัณห์ ตะวันลับ ต้อนควายกลับ พร้อมกัน สุขหรรษา กะมาซวน หมู่เฮา เข้าเถียงนา กินก้อยกุ้ง ลาบปลา แกล้มยาดอง ไพเราะล้น มนต์แคน ฟังแสนม่วน เพลงพิณครวญ เสียงใส หัวใจผ่อง ระบำรวง ข้าวเหลือง งามเรืองรอง ทั่วทุ่งทอง คือสวรรค์ ของบ้านนา
18 มีนาคม 2552 07:03 น. - comment id 964522
หวัดดีคับ...เทพธัญญ์ แหมะ ..... ได้กลิ่น ไอดิน กลิ่นฟาง เลยคับ...เยี่ยมจิงๆ....
18 มีนาคม 2552 10:14 น. - comment id 964611
ดอกไม้ - Hi5 กราฟฟิคสำหรับคอมเมนต์ เพราะจังค่ะสวรรค์บ้านนา สาวบ้านดอยมาอ่าน..อิอิ
18 มีนาคม 2552 10:22 น. - comment id 964624
สวรรค์บ้านนา มีแต่ความสุข สงบ มีธรรมชาติ อยู่อย่างพอเพียง แค่นั้นก็เพียงพอแล้วต่อชีวิตนะคะ
18 มีนาคม 2552 15:34 น. - comment id 964826
สวรรค์จริงๆเน๊อะ ความสุขที่ไม่มีวันลืม
18 มีนาคม 2552 16:16 น. - comment id 964848
คงไม่มีคำใดเอื้อนเอ่ยได้ให้เท่าความรู้สึกของ เทพธัญญ์ ได้มากไปกว่าคำนี้ ขอบคุณครับ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวบ้ากลอน ที่สละเวลาเข้าทักทายชื่นชมผลงานของผม ขอบคุณครับ
18 มีนาคม 2552 18:02 น. - comment id 964940
บทนี้คุ้นๆๆนาอยู่น่ะค่ะ ทั้งรูปทั้งกลอน สุขสันต์ใช้คำนี้ค่ะ