เจ้าเมฆน้อยลอยล่องท้องฟ้ากว้าง คือเมฆขาวพราวพร่างระหว่างฟ้า เพียงไม่นานกลายเป็นฝนเทลงมา กลายเป็นน้ำธาราใสใหลเย็น ๆ แล้วกลับกลายคลายร่างใสสู่ขาว เป็นไอน้ำพร่างพราวทุกเช้าเห็น แล้วก็กลายเป็นเมฆขาวอย่างที่เป็น แล้วก็หล่นเป็นฝนเย็นฉ่ำชื่นใจ วนเวียนในนิยามความชุ่มชื้น ใครรับรู้แต่ละคืนใต้ดาวใส ในเยียบเย็นใครเห็นบ้างที่ข้างใน เมฆผ่านวันคืนเช่นใดอย่างใดกัน บ้างถูกรองไว้ในโอ่งใบใหญ่ บ้างก็ใส่กาต้ม บ้างใส่ขัน บ้างตักรดตักล้างราดทุกสิ่งอัน กว่าจะผันแผลงร่างอย่างเคย "เป็น" กว่าจะถึงเวลาระเหยหาย เจ้าต้องฝ่ากี่เกิดตายใครเคยเห็น กว่าจะได้ลอยล่องฟ้าอย่างที่เป็น เจ้าไม่รู้ผ่านทุกเข็ญหรือสุขใด ชาวจีนแต่โบราณเล่าขานว่า ที่บนฟ้าเพียงเมฆา "ยั่งยืน" ได้ อาทิตย์จันทร์ดาราผลัด "มา" "ไป" เมฆเกรียงไกรอยู่ยั้งทั้งวันคืน เจ้าสมควรมีรอยยิ้มอิ่มเอมเถิด ยิ้มประเสริฐออกจากใจใช่เพียงฝืน ทุกสิ่งแปรเปลี่ยนไปไม่ยั่งยืน ต้องหล่อเลี้ยงด้วยฉ่ำชื้นจึงชื่นบาน ที่ใดมีเมฆาลอยมาใกล้ อาจได้เห็นน้ำเย็นใสทุกถิ่นฐาน อาจพันธุ์พืชเหี่ยวเฉา=งามตระการ ดินระแหงเพราะแล้งนาน=ผสานดิน
15 กุมภาพันธ์ 2552 12:02 น. - comment id 951173
ขยันคิด
15 กุมภาพันธ์ 2552 12:46 น. - comment id 951181
พี่กี้ ก็คิดเองไม่เก่งหรอกพี่ แต่ถ้าได้ต่อกลอน หรือต่อยอดความคิดใครแล้ว มือแตะแป้นพิมพ์ก็ไปเองอัตโนมัติครับ หายปวดหัวยัง
15 กุมภาพันธ์ 2552 13:10 น. - comment id 951185
งามคิดนัก ชื่นชมครับ
15 กุมภาพันธ์ 2552 13:49 น. - comment id 951187
วาสุกรี ขอบคุณครับ ชื่อคุณเพราะดีนะครับ จำได้ว่าเป็นชื่อพระตำหนักหรือไม่ก็ท่าเรือ หรือหาดชายทะเลที่ไหนซักแห่งนี่แหล่ะ ยินดีที่ได้เขียนกลอนให้อ่านครับ
15 กุมภาพันธ์ 2552 14:05 น. - comment id 951189
มาอ่านกลอนแล้วขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ แก้วประเสริฐ.
15 กุมภาพันธ์ 2552 14:42 น. - comment id 951202
พ่อแก้วประเสริฐ เห็นเขียนกลอนออกแนวเศร้า ๆ ก็เลยแวะให้กำลังใจอ่ะครับ ให้กุหลาบดอกเดียวเพราะแต่งกลอนต่อไม่ทัน พ่อแก้วอย่าว่านะครับ (ถ้าให้เป็นช่อเดี๋ยวชาวบ้านคิดไปกันใหญ่ อิอิ)
15 กุมภาพันธ์ 2552 15:21 น. - comment id 951217
ข้าน้อยขอคารวะ 1 จอก
16 กุมภาพันธ์ 2552 00:20 น. - comment id 951389
เตียบอกี้ เลื่อมใส เลื่อมใส
16 กุมภาพันธ์ 2552 13:46 น. - comment id 951531
16 กุมภาพันธ์ 2552 17:22 น. - comment id 951647
กานต์ เพิ่งเลิกงานมาครับ