โคลงสองชมธรรมชาติ
chemicalbond
ทิพากรส่องฟ้า สาดแสงสว่างหล้า
ตื่นขึ้นทันที
ปักษีมีเคียงข้าง ร่อนผืนอากาศกว้าง
ต่างเข้าไพรี หากิน
ธรณีเองอ้า เริ่มตื่นแสงแรงกล้า
ปลุกเจ้าชีวี ดำรง
เขียวขจีทุ่งหญ้า ชุ่มชื่นรื่นรมณ์อ้า
ต่างหน้ารับตะ- วันฉาย
ภูผาตระหง่านหน้า สูงสุดยอดเสียดฟ้า
ดั่งเจ้าแห่งป- ฐพี
มวลพฤกษใหญ่น้อย ล้วนแต่โยกกิ่งย้อย
ไกว่พริ้วตามลม
ชมมัจฉาว่ายฝ่าน้ำ แข่งขันบ่ยั่นย้ำ
ชนะเจ้าธารา
นานาสัตว์ป่าล้วน อยู่อย่างปรองทั่วถ้วน
ทั่วหล้าสุขสันต์
เกลียวกลมอันคลื่นน้ำ ฟาดฝ่าตีฝั่งล้ำ
จึ่งให้จิตรู้ โกรธา
วายุดูกราดเกรี้ยว พิศผ่านดูลดเลี้ยว
ถิ่นบ้านพินาศ ทันใด
อสุนีบาตฟาดเปรี้ยง ทุกสิ่งมลายหายเกลี้ยง
แรงร้อนฤทธี
พระสุรีย์คราสแท้ เงาบุหลันบังแล้
งามไร้หากกลับ หม่นหมอง
นภางค์ลับดับแล้ว ระหรี่ยิบยับแก้ว
ดุจได้เรื่องรอง เพชรเฮย
แสงนวลทองส่องฟ้า จรัสแสงเจิดจ้า
อร่ามแคว้นแสงแข แลนา
หนาวลมแปรจิตร้าง ปลายกิ่งมีหยดค้าง
ตรงหน้าลาวัณย์
ธรรมชาติสรรค์โลกกว้าง ควรเร่งกตัญญูบ้าง
ท่านข้ารักษ์พลัน ยืนนาน