๑) ณ ริมน้ำ... ฉันลึกซึ้งดื่มด่ำกับความฝัน ขณะน้ำไหลผ่านมานานวัน สงบงันนิ่งสนิทในทรงจำ ฉันเหม่อมอง... มองสายน้ำที่ลอยล่องและไหลฉ่ำ เห็นภาพและรับรู้อยู่ซ้ำซ้ำ ลึกล้ำในความฝันเกินพรรณนา ฉันปล่อยใจ... ให้ลอยไหลไปกับน้ำ ณ เบื้องหน้า ลอยไป ลอยไป ไกลลับตา จิตใจปรารถนาเป็นอย่างนั้น ๒) มันย่อมดีกว่า...ใช่ไหม หากว่าปล่อยจิตใจไปกับฝัน ไปค้นหาประสบการณ์สารพัน แทนที่ปล่อยวันวัน – ไร้หนทาง มันย่อมคุ้มกว่า – ใช่ไหม หากว่าปล่อยใจไปพบแสงสว่าง ถึงแม้มันจะริบหรี่ – เลือนราง แต่ดีกว่ามืดคว้างอยู่ตรงนี้ มันย่อมเฮฮากว่าใช่ไหม หากพบเจอเพื่อนใหม่ในแปลกที่ มิตรภาพ – สายใย – ไมตรี ดีกว่าอยู่ที่นี่ ลำพัง ๓) แต่มันจะดีไหม... หากว่าเราไปไม่ถึงฝั่ง คิดไปคิดมา พะว้าพะวัง ข้างหน้าอาจไม่เมลืองมลังอย่างหวังไว้ แล้วมันจะคุ้มค่าหรือ... หากว่าทางยืดยื้อเกินมือไขว่ ไม่เห็นเลยซึ่งแสงสว่างใด ไม่มีเลยเส้นชัยเป็นหลักคว้า แล้วมันจะสนุกไหม... หากคนไกลไม่เห็นเพื่อนเหมือนคุ้นหน้า ไม่รับรู้ไมตรีต่างที่มา ยิ่งกว่าอยู่โดดเดี่ยว...เดียวดาย ๔) แต่ฉันย่อมปล่อยใจ ให้ล่องลอยออกไปหาจุดหมาย เถิดเชื่อ...ฟ้าสีฟ้ารุ้งระบาย ย่อมเฉิดฉายให้เห็น – สักวัน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง หัวใจจะลอยถึงฝั่งความฝัน โปรดเถอะธารน้ำที่เงียบงัน พาหัวใจของฉัน ลอยไป ลอยไปเสียที !!!
1 พฤษภาคม 2550 20:31 น. - comment id 690098
**.. เถิดสหาย..... เธอจักทน วุ่นวาย ไยที่นี่ ปล่อยใจ ล่องฟ้า ท่องธาตรี สิ่งดีดี เบื้องหน้า อย่ารั้งรอ.. **.. ไม่ก้าวเดิน หรือจะรู้ ว่าก้าวผิด เพียงมั่นจิต อดทน มิย่นย่อ สิ่งสำคัญ อย่าให้ ใจนึกท้อ ทาบแสงทอ ความหวัง ข้างหน้าเอง.. ก้าวไปเถอะครับ ................. อย่างน้อยดีกว่าไม่ก้าวเสียเลย ว่ามั้ย
2 พฤษภาคม 2550 08:13 น. - comment id 690201
เมื่ออยู่ริมฝั่งชล ฉันยลทุกยามเย็น พักในร่มเงาไม้เอน
2 พฤษภาคม 2550 13:29 น. - comment id 690347
มาชมะรรมชาติด้วยจ๊ะ...แต่ช่วงนี้อย่าเพิ่งไปนั่งใจลอยอยู่แถวน้ำตกนา น่ากลัวออก...
2 พฤษภาคม 2550 14:18 น. - comment id 690409
แวะมานั่งริมน้ำค่ะ...ว้าาาา..ฝนตกแระ..กลับก่อนดีกว่า.. แวะมาชื่นชมผลงานจ้า..น้องแดนไกล..
9 พฤษภาคม 2550 02:37 น. - comment id 692798
แต่ดี แต่สงสัยคำว่าเมลืองมลัง คิดว่า ถ้าจะเขียนกลอนแนวสบายๆไม่ควรใช้คำ ยาก เพราะการใช้คำยากอาจจะทำให้ อารมณ์สะดุด แต่โคยรวมเขียนดีแล้วล่ะ