จักจั่นประชันเสียงเจียงเจื้อยเจื้อย ร้องร่ำเรื่อยเหนื่อยร้อนอ้อนวอนฟ้า ให้พรมโรยโปรยสายน้ำฉ่ำชีวา ดับอุราที่เร้าร้อนอ่อนเหลือทน แว่วเสียงลมพรมโชยโปรยกระแส ค่อยเริ่มแผ่คลุมนภาเมฆฟ้าฝน บังแสงทองผ่องใสให้มืดมน แล้วเตรียมพ่นน้ำฟ้าอย่างอารี เมขลาลอยย่อมาล่อแก้ว แสงวับแววแวววับขยับหนี รามสูรขว้างขวานไม่รอรี ก่อให้มีฟ้าร้องกึกก้องไกล แสงฟ้าแลบแปบปับรับลมฝน ฟ้าเบื้องบนแปรปรวนชวนหวั่นไหว เมฆมืดมนหม่นหมองครองฟ้าใจ ก่อนรินไหลสายน้ำพร่ำโปรยปราย ฟ้าคำรามกระหน่ำร้องก้องเวหา ลมพัดพาใบไม้ปลิวลิ่วล่องหาย เมฆดำคล้ำยิ่งย่ำเยือนเลื่อนเรียงราย เฝ้าสยายกระจายฟ้าพามืดมน แล้วฟ้าผ่าดังสะท้านกังวานฟ้า ฝนก็ซ่าฟ้าก็ร้องก้องไพรหน หยดน้ำย้อยปอยปรายสายปะปน กระแสฝนพ่นพร่ำกระหน่ำเรียง เสียงสายน้ำฉ่ำฉ่าลงจากฟ้า กระทบกับหลังคาซ่าซ่าเสียง เลยหนาวเหน็บเจ็บใจไร้คนเคียง นอนฟังเสียงสายฝนทนเดียวดาย
4 เมษายน 2550 10:59 น. - comment id 679980
สายฝนพร่ำฉ่ำชุ่มชื่นทั่วผืนดิน น้ำหลั่งรินดับร้อนผ่อนจางหาย ทุกชีวิตพลิกฟื้นตื่นใจกาย สุขสบายคืนฝนพร่ำฉ่ำชุ่มเย็น.
4 เมษายน 2550 12:13 น. - comment id 679996
เสียงสะท้อนตอนฝนหล่นกระทบ ร้อนสยบคลายไอทำกายฉ่ำ อยู่คนเดียวฟังเสียงฝนหม่นระกำ ฝนตกพรำ..เดียวดายไร้คนเคียง อากาศแถวนี้เย็นสบายดี .. แต่ว่า ..หนาวใจอาจจะดีกว่าร้อนใจนะคะ...
4 เมษายน 2550 18:18 น. - comment id 680146
เมื่อสายฝนพรำ......บรรยากาศเนาะครับ
4 เมษายน 2550 20:31 น. - comment id 680185
เสียงสายฝนหล่นพรำทำใจแป้ว ดังรู้แกวใจเราหม่นระทมหมอง น้ำฝนซ่าสาดซัดสะบัดนอง ดั่งฟ้าร้องร่ำไห้ไปกับเรา สวัสดีค่ะนายธนา แวะมาอ่านกลอนเพราะๆ ค่ะ
4 เมษายน 2550 22:05 น. - comment id 680205
หยาดพิรุณจากฟากฟ้านภาลัย ใสบริสุทธิ์ชโลมใจดั่งแก้ว วายุหพัดดังสำเนียงแว่ว ใจประจักษ์แล้วพิรุณสล้างธารา กลอนเพราะมากครับ