เมื่อตะวัน ผันกาย เหนือขอบฟ้า โลกก็จ้า แจ่มหวัง เจิดรังสี สยบความ หนาวพร่า ของราตรี หลากชีวี เริ่มเคลื่อนไหว ไปตามกาล เราจึงเห็น ความพลิ้วไหว ของใบไม้ ที่พลิ้วรับ อุ่นไอ อันแผ่ซ่าน ดอกไม้ใน เมืองหลวง ก็ผลิบาน เด่นตระหง่าน ระหว่าง ตึกสูงชัน ชั่วใบไม้ สะบัดใบ ไหวไหววิ่ว ใจก็พลิ้ว ตามลม ที่เริ่มผัน หลากชีวิต ใช้ชีวิต ไปตามวัน ตามเส้นทาง แห่งฝัน แต่ละคน รุ่งอรุณ ต้อนรับ ทุกสรรพสิ่ง มอบอุ่นอิง คลายหนาว จากสายฝน มอบพลัง แห่งความสุข ทุกชั้นชน ให้เริ่มต้น ลุกตื่น ฟื้นกำลัง เพียงรอบข้าง เคลื่อนไหว อย่างอิสระ จึงปลดปล่อย ภาระ ความสิ้นหวัง เป็นของขวัญ จากฟ้า มาประทัง ให้ชีพยัง ยืนหยัด อย่างหยัดยืน เมื่อตะวัน ลาลับ ตรงขอบฟ้า โลกกลับมา หนาวเย็น เช่นวันอื่น ทุกสรรพสิ่ง แปรสภาพ เริ่มกลับคืน สู่ห้วงภวังค์ เพื่อรอตื่น ขึ้นอีกครั้ง...
12 มกราคม 2550 00:07 น. - comment id 645450
นั่นสิคะ อยู่เมืองกรุงก็ใช้ชีวิตไปวัน ๆ เลยแอบหนีความวุ่นวายไปพักผ่อน อย่างอิสระ
12 มกราคม 2550 06:59 น. - comment id 645463
ตื่นมารับอรุณแล้วค่ะ เบื่อวัฏจักรเดิมๆวงจรชีวิตเดิมๆจังเลยอ่ะค่ะ ได้แต่หวังในใจวันนี้คงดีกว่าเมื่อวาน
12 มกราคม 2550 08:58 น. - comment id 645490
ที่บ้านกุหลาบปลูกต้นไม้เยอะค่ะ..เพราะซื้อเนื้อที่เพิ่ม ตื่นมาตอนเช้าๆทั้งเสียงนกร้อง..ทั้งผีเสื้อ..ผึ้ง..บินตอม ดอกไม้ และได้กลิ่นหอมและชมความงามของดอกไม้สีต่างๆ มากมายค่ะ สดชื่นจริงๆ..
12 มกราคม 2550 12:51 น. - comment id 645577
ความสุขอยู่ใกล้แค่เอื้อมจริงๆเนาะ