น้ำ (ตา) ท่วมทุ่ง
เคมิกวี
ธรรมชาติ ขาดสมดุล หรือคลุ้มคลั่ง
น้ำสาดฝั่ง พังทลาย หลายแห่งหน
น้ำเหนือหลาก มากปริมาณ จะต้านทน
น้ำเวียนวน ล่องใต้ ใกล้พระนคร
กระแสเชี่ยว เรี่ยวแรงมาก มหาศาล
ไหลแรงผ่าน เกินกว่ามี หลายปีก่อน
แรงกระทบ ทำนบแยก แตกเป็นตอน
ไหลท่วมย้อน แผ่นดิน ถิ่นทุ่งนา
ผันน้ำออก นอกเขตขอบ รอบท่วมทุ่ง
เพื่อเมืองกรุง พ้นภัย ไร้ปัญหา
น้ำล้นคลอง ท่วมเข้า เคล้าน้ำตา
อาจมากกว่า น้ำเจิ่งนอง ทั่วท้องไทย
ทั้งนาข้าว ไร่สวน มิควรล้ม
ต้องมาจม หมดราคา น่าใจหาย
เหลือแต่ซาก ไร้สิ้น ทรัพย์สินมลาย
ไม่เว้นวาย หนี้สินล้น พ้นเกินตัว
ทางเดินเท้า เข้าออก ตรอกซอยปิด
น้ำท่วมมิด ปิดถม จมมิดหัว
ขาดน้ำใช้ ไฟฟ้า ยิ่งน่ากลัว
พายเรือรั่ว ออกเข้า ทุกเช้าเย็น
เคยอุดม สมบูรณ์ เคยพูนสุข
ต้องทนทุกข์ วิถีทาง ไม่ว่างเว้น
อู่ข้าวน้ำ ล้ำค่า มาลำเค็ญ
คราวจำเป็น ชื้อน้ำ-ข้าว ร้าวหัวใจ
บ้านเคยอยู่ ดูแล ย่ำแย่นัก
ห่างเรือนหลัก พักพิง อิงอาศัย
ต้องหลบหลีก ปลีกหนี ที่พ้นภัย
ทิ้งเรือนไทย อาศัยข้าง ริมทางเดิน
น้ำท่วมทุ่ง น้ำท่วมนา น้ำตาตก
อย่าเวียนวก วนซ้ำ ให้ห่างเหิน
ทุกข์ลำบาก ยากแค้น แสนเหลือเกิน
ต้องเผชิญ ยถากรรม หน้าทำนา
สันหลังใหญ่ ใช้รับแบก ค่อยแหลกหัก
ไร้แหล่งหลัก ชักทยอย ลดน้อยหน้า
สันหลังแบก แอกคันไถ ในก่อนมา
วันนี้หนา ท้องพยุง ทุ่งน้ำเต็ม
พฤศจิกายน 2549