๏ ฤๅกรอบคือขอบข้อง......................ขัดขวาง เลือนรสเกลื่อนพจน์วาง....................วัจน์ได้ ขัดใดอัดใจหมาง..............................หมายหัก........หาญนอ รื้อกรอบฤๅชอบไร้............................รสด้อยถ้อยกถา ฯ ๏ การณ์ใดสั่นสะท้าน.........................สะเทือนจิต อยากจดพจน์ลิขิต..............................ข่าวนั้น จารสือสื่อความคิด.............................ขานกล่าว กานท์ใช่ไปกางกั้น.............................กว่าเอื้อมเอาถึง ฯ ๏ ฉันทลักษณ์คือหลักรั้ง......................รจนา กวีร่วมรวมฉันทา...............................ที่พ้อง เห็นงามบ่ทรามซา..............................ศิลป์เสื่อม เป็นเช่นปลักดักคล้อง.........................ขัดข้องความไฉน ฯ ๏ ควรเพียรเรียนเพื่อสร้าง...................สรรค์กวี เป็นสง่าค่าธานี....................................เนื่องร้อย ปล่อยปละละเลือนศรี............................สูญเสื่อม ฤๅหยุดสุดสิ้นถ้อย.................................ถักสร้อยวรรณศิลป์ ๚
9 มกราคม 2545 19:38 น. - comment id 29496
อยู่ที่การฝึกฝน สนใจ แต่ผมเอาชอบไว้ก่อนครับ อ.
9 มกราคม 2545 21:06 น. - comment id 29526
เห็นด้วยกับคุณวฤกค่ะ
9 มกราคม 2545 21:06 น. - comment id 29527
เป็นคำแนะนำที่ดีมากเลยค่ะ...กลอนเพราะเยี่ยมมากค่ะ
9 มกราคม 2545 21:16 น. - comment id 29533
ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ ตอนนี้จาวตาลก็พยายามอยู่นะคะ พยายามเขียนให้ถูกต้องตามข้อกำหนด จากการที่ได้อ่านผลงานของคุณหมอ..ก็รู้ว่า บทประพันธ์ที่ถูกต้องนั้นไพเราะ สวยงาม ให้ความรู้สึกจริงๆ...แล้วก็มีกำลังใจที่จะเขียนกลอน....ขอบคุณค่ะ
9 มกราคม 2545 21:50 น. - comment id 29541
เขียนโคลงได้ไม่เคยเกิน 2 บทเลยค่ะ
10 มกราคม 2545 03:40 น. - comment id 29592
กำลังศึกษาอยู่จ้า.... แหะๆ
10 มกราคม 2545 12:40 น. - comment id 29631
ปกติชอบแต่งกลอนที่อยู่ในฉันทลักษณ์ค่ะ เพราะถ้าไม่มีฉันทลักษณ์จะแต่งไม่ค่อยได้เลย ....นานแล้วไม่ได้อ่านกลอนของอาจารย์วันนี้มีโอกาสได้อ่านชื่นใจค่ะ.ไว้ว่างจากงานที่ยุ่งมากๆๆแล้วจะแต่งบ้างค่ะ
11 มกราคม 2545 22:04 น. - comment id 29932
คิดถึงกลอนของอาจารย์มากครับ ไม่ได้เข้ามานาน