มันยอกย้อนหลอนใจไม่เคยลบ มันยังพบประสบอยู่ให้รู้เห็น มันยังเกาะกัดกินใจให้ลำเข็ญ มันไม่เว้นเวลานาทีใด ความเจ็บปวดรวดร้าวคราวท้อถอย เฝ้าใจลอยคล้อยคิดจิตหวั่นไหว ความหดหู่อดสูนักยากหักใจ ความหมองไหม้ร่ำไห้ร้องนองน้ำตา ในวันหนึ่งรำพึงคะนึงคิด เก็บความผิดลิขิตพลาดมาตรปรารถนา เหมือนโลกนี้มีแต่ช้ำย้ำอุรา ร่ำไห้หาพาเศร้าแสนเหงาทรวง ทิ้งตัวลงบนพื้นสะอื้นร้อง น้ำตานองสองแก้มแซมห่วงหวง วันเก่าเก่าเฝ้าร่างสร้างใจดวง มาลาล่วงทิ้งไปให้ช้ำตรม ความเจ็บนี้คงกรีดใจไม่หาย จวบวันตายมิวายคลายขื่นขม ทุกข์และท้อจะต่อสู้รู้อารมณ์ ทนระทมถมทุกข์ใจไม่โรยรา ไยโลกนี้มีแต่ช้ำย้ำกับฉัน ไยจาบัลย์ทุกวันคืนถวิลหา ไยต้องเจ็บเหน็บแท้ทุกเวลา ไยจึงมาเป็นฉันวันท้อทน โลกเหวยโลกวิโยคนักยากหักห้าม ฉันยอมตามความฟ้าชะตาสับสน วันนี้เจ็บเก็บไว้ในกมล ทุกข์และทนจนวันตายวายชีวา
29 ตุลาคม 2548 21:50 น. - comment id 530512
ไม่ตั้งใจลอกความรู้สึกใครข้างบนนะคะ แต่.. เ ศ ร้ า ใ จ ห า ย . . . จริง ๆ ค่ะ ไยโลกนี้มีแต่ช้ำย้ำกับฉัน ไยจาบัลย์ทุกวันคืนถวิลหา ไยต้องเจ็บเหน็บแท้ทุกเวลา ไยจึงมาเป็นฉันวันท้อทน เป็นอะไรที่พ้อกับตัวเองอยู่บ่อย ๆ รักอารมณ์งานนี้จัง...
28 ตุลาคม 2548 16:38 น. - comment id 532007
..ไยความเจ็บปวด..จึงเกาะกินกัดกร่อนใจไม่หายสักที..
28 ตุลาคม 2548 17:22 น. - comment id 532030
เศร้าใจหายครับ แวะเอางานเมื่อเวลานี้๑๘.๒๗ นาฬิกา นนทบุรีที่เศร้า มาแจมครับ ไฉน ดวงหทัยไยรานพาลพิโรธ ทั้งน้ำมิตรมิคิดพึงจะขึ้งโกรธ ได้โปรด อภัยกัน นั้นเถิดนะ ทับเทเวษ แค่ซากเศษส่วนเศร้าเร้าผัสสะ ที่เกินก่ายถ่ายทุกข์รุกอุระ แค่สุดจะละวางหว่างโศกนั้น เย้ยเยาะ ให้กับความเปลี้ยเปราะอกเดาะดั้น อั้นคะนึงอึ้งสมเพชเลศนัยนั้น อาธรรม์เหลือเกิน โชคชะตา มั่นมาด มาพลั้งพลาดนิ่งอนาถวาสนา ท่วมท้น ล้นความทรมาน์ ปวดปร่า กับค่ารัก ที่หักหาย ชนนานดร คงเคยคลอนรอนทรวง ฦ ลวงไว้ ให้ใช้ชาติ พินาศมิตรนิจจาใจ จำนนในชะตากรรมย้อนซ้ำกัลป์ เจ็บจำ ถึงงามล้ำก็ไม่กำชีวิตฉัน เธอคิดคำนี้ได้อย่างไรกัน เหมือนมาห้ำมาหั่นบั่นหัวใจ... ดวงหทัยไยรานพาลพิโรธ จะขึ้งโกรธน้ำมิตรไปถึงไหน เธอไม่รักเราแล้ว แล้วเป็นไง ? ก็นั่งเศร้าต่อไป แล้วกันนะ !!!
29 ตุลาคม 2548 14:07 น. - comment id 533503
สุขและทุกข์เป็นของคู่กันกับชีวิตคนครับ สุขบ้าง ทุกข์บ้างคละเคล้ากันไป อย่าคิดมากเลยนะครับ...พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว
28 ตุลาคม 2548 20:07 น. - comment id 535975
คงเป็นเช่นนี้ไปจนตายกระมังท่าน