ใจดวงหนึ่งเดินทางอย่างเดียวดาย ค้นความหมายไล่ตามความใฝ่ฝัน ไร้ชำนาญหลงทิศติดทางตัน จนเสียขวัญเสียใจได้น้ำตา ย้อนออกทางสายเก่าเศร้าระทม ฟังเสียงข่มเยาะเย้ยเอ่ยครหา เขาถากถางให้ยินคำนินทา แบกความอายกลับมายังต้นทาง อ้างว้างใจไร้กำลังจึงรั้งก้าว หยุดสืบเท้าแต่ก้าวใจไปในหมาง ครุ่นคิดคำที่ปวดใจไม่ละวาง ตกหลุมพรางอับอายกลายโกรธา โทษผู้อื่นว่าหยันให้หวั่นใจ คำพูดนั้นคือภัยที่หนักหนา เป็นศัตรูตัวฉกาจฟาดบีฑา ทำลายทางตรงหน้าไม่ให้เดิน แท้ศัตรูตัวร้ายใช่ใครอื่น ความกลัวคือผู้ยื่นความขัดเขิน ความกลัวคือผู้ล้าไม่กล้าเผชิญ ความกลัวคือผู้เมินความตั้งใจ ในโลกนี้ไหนเลยมีนักเดินทาง ไม่เคยคว้างหลงทิศจิตหมองไหม้ ไม่เคยผ่านตรอกช้ำวาจาภัย ไม่เคยตัดสินใจผิดสักครา ความล้มเหลวใช่เลวร้ายไปทั้งหมด ที่เลวร้ายทุกหยดคือไม่กล้า และที่ควรแซ่ซ้องปองปรีดา คือความกล้าก้าวข่มความล้มเหลว
11 กันยายน 2547 07:58 น. - comment id 328869
พี่คนดี.. พุดรจนาเรื่องธรรมะ http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_60936.php http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_60845.php แล้วก็ผ่านตาไปแล้วค่ะ เลยมาคั่นเอางานรักมาลงค่ะ ให้อ่านเอาเล่นในเช้าวันหยุดค่ะ พี่คะ พุดได้ข่าวว่าพี่ไม่สบาย พุดได้แต่ห่วงใย รักษากายนะคะให้พี่คนดีหายจากโรคภัย พุด..ได้ข่าวเรื่องพี่ไม่สบายทีไรใจก็อ่อนยวบทีนั้นค่ะ รักและห่วงใยค่ะ พักผ่อนมากๆนะคะ
11 กันยายน 2547 07:59 น. - comment id 328870
สวัสดีครับ
11 กันยายน 2547 08:09 น. - comment id 328876
เขียนได้ดี ความกลัว..เป็นอวิชา มาจากการไม่รู้ครับ ถ้ารู้ก็ไม่กลัว ๚ะ๛ size>
11 กันยายน 2547 11:18 น. - comment id 328945
พี่ดอกแก้ว เขียนดีจังค่ะ ต่อไปเพียงพลิ้วจะกล้าทำตามความตั้งใจของตัวเองมากขึ้นเหมือนพี่ดอกแก้วบอกนะคะ หายเร็วๆนะคะ
11 กันยายน 2547 12:08 น. - comment id 328965
ความกลัวคือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง..(จำมาจากโฆษณาค่ะ) แต่ก็จริงเหมือนกัน สำหรับบางกรณี น่ะค่ะ.. เห็นด้วยกับคุณทิงนองนอยค่ะ ถ้ารู้ ก็ไม่กลัว... รักษาสุขภาพด้วยค่ะ ...สวัสดีค่ะ.. ...
11 กันยายน 2547 12:23 น. - comment id 328969
เป็นการข่มความกลัวได้ดียิ่งค่ะ
11 กันยายน 2547 12:34 น. - comment id 328974
ถ้าเป็นนักเดินทางตัวจริง ก็ต้องเคยประสบความเจ็บปวดชอกช้ำ หนามตำใจ พี่ดอกแก้วมีประสบการน่าศึกษาจริง ๆ มาเยี่ยมครับ
11 กันยายน 2547 13:02 น. - comment id 328996
@...น้องพุดคะ... พี่ดอกแก้วเข้าไปอ่านแล้วทั้งสองเรื่อง... เป็นภาพชีวิต ความคิด และความเข้าใจที่ไม่เร่าร้อน ไม่กระวนกระวาย... ทราบถึงความเป็นไปที่เป็นจริงในความเกี่ยวเนื่องของเหตุและผล ..กรรม และผลผลิตของกรรมคือวิบาก..เป็นเรื่องยากที่คนจะเข้าใจและยอมรับ...แล้วแก้ไขปรับปรุง ..ส่วนมากทุรนทุรายร่ำไห้โทษผู้อื่นอยู่เสมอ ความทุกข์ใจก็ยิ่งมากขึ้น... ความเจ็บป่วยของพี่ดอกแก้วนี้...เป็นผลของกรรมที่ต้องรับแล้วแก้ไข ด้วยการเข้ารับการรักษาจากแพทย์ และการรับบำบัดด้วยธรรมโอสถ ..ดูแลกายและใจให้สอดคล้องสมดุล..ไม่หมกมุ่นเพื่อที่จะหายคลายจากโรค ..เพราะหมดเหตุและปัจจัย ...ผลที่รับอยู่ก็ต้องสิ้นไปแน่อย่างแน่แท้ ..และระหว่างที่ยังมีการส่งผลอยู่นี้ สิ่งที่จะช่วยให้เป็นประโยชน์แก่ตนมากๆก็คือการใช้เวลาอย่างมีค่า ... และเวลาที่มีค่านั้น คือเวลาที่ต้องประกอบด้วยสติปัญญา... ไม่ต้องกังวลนะคะน้องพุด ..พี่ดอกแก้วจะดูแลและจัดสรรชีวิต ของตนเองให้ดีที่สุด..เพื่อที่เราจะได้มาเขียนมาคุยที่ตรงนี้กันนานๆ ขอบคุณมากค่ะน้องพุดที่รัก ...เช้าวันนี้ได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่มาช่วยเสริมเติมใจ คือความห่วงใยจากน้องพุดนั่นเองค่ะ
11 กันยายน 2547 13:24 น. - comment id 329016
@...ปณิธาน... สวัสดีค่ะ ..เดินทางกันต่อนะคะ
11 กันยายน 2547 13:28 น. - comment id 329017
เพราะมาก เลยค่ะพี่...
11 กันยายน 2547 13:37 น. - comment id 329021
@...ทิงนองนอย... ศัตรูตัวสำคัญของเราก็คือความกลัว ..จึงต้องหาทางป้องกันและแก้ไขกันต่างๆนานา ตามความฉลาดของจิต.. ยิ่งกลัวก็ยิ่งมุ่งมั่นหาทางแก้ไข ความกลัวเป็นสภาพของจิตที่มีความไม่พอใจ ..ไม่ต้องการ ...ไม่อยากพบ ปฏิเสธสิ่งที่จะเกิดขึ้น ...เป็นอำนาจของโทสะที่มีอวิชชาคือความไม่รู้เป็นพื้นฐาน กลัวความร้อนทั้งๆที่ความร้อนยังมาไม่ถึงผิวหนัง ก็เพราะคิดว่าความร้อนจะทำให้เราไม่สบายกาย..เราจึงปฏิเสธความร้อนด้วยการหาความเย็นเข้ามาแทนที่ การหาความเย็นเข้ามาแทนที่นี้ก็คือสภาพความต้องการที่ซุกซ่อนอยู่ในชื่อของตัณหา...แต่ถ้าเปลี่ยนเหตุการณ์ไปว่า ...เมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นมากระทบกับร่างกายของเรา รับรู้ถึงสภาพความร้อนนั้น และความกระวนกระวายที่เกิดขึ้นตามมา ..แล้วก็รับรู้ว่ามีความไม่พอใจเกิดขึ้นซึ่งก็คือความทุกข์ชนิดหนึ่ง และต้องการการบำบัด...เมื่อกำหนดรู้อย่างนี้ก็หาทางแก้ไขด้วยทราบเหตุผลว่ามีความทุกข์มาบีบคั้น ... การกระทำเช่นนี้เป็นการเริ่มต้นจัดระเบียบชีวิตให้เดินทางเข้าสู่สายทางของปัญญา.... ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่าน
11 กันยายน 2547 13:44 น. - comment id 329027
@...เพียงพลิ้ว... วันนี้อาจจะพบกับความผิดหวัง ความล้มเหลว...พ่ายแพ้ กระทั่งความเศร้าโศก ... แต่ไม่เป็นไร ... เพราะยังมีพรุ่งนี้ให้เริ่มต้นใหม่ ใช้โอกาสนั้นพยายามใหม่ ... คิดให้ดีและเริ่มต้นใหม่ให้ถูก.. มั่นใจในตัวเองนะคะ ...เพียงพลิ้ว
11 กันยายน 2547 13:48 น. - comment id 329032
@...กุ้งหนามแดง... สำหรับบางกรณีของความคิดทางโลก ..เป็นเช่นนั้นจริงค่ะกุ้งหนามแดง แต่ไม่ว่าทั้งทางโลกหรือทางธรรม หากมีความรู้แล้ว ...ความกลัวก็ย่อมคลี่คลายได้ง่าย และหมดลงในที่สุด ขอบคุณในความห่วงใยนะคะ
11 กันยายน 2547 13:50 น. - comment id 329034
@...คุณทิกิ... ขอบคุณในความตั้งใจจริงของคุณทิกิที่มีต่อดอกแก้วนะคะ ว่างแล้วกลับไปพักใจทำลายความกลัวกันที่อ้อมน้อยนะคะ...เผื่อจะได้นำประสบการณ์นั้นมาเล่าสู่กันฟังต่อไป..
11 กันยายน 2547 13:56 น. - comment id 329039
@...ฤกษ์... ไม่เห็นมาหลายวัน... ฤกษ์ก็เป็นนักเดินทางเช่นกันนี่คะ เดินไปยังเมืองต่างๆ ..ไม่ทราบว่าเคยหลงทางบ้างไหม ...ไม่แปลกเลยค่ะในถิ่นที่เรายังไม่เคยคุ้น เราย่อมหลงทางไปบ้าง การถามไถ่ผู้อื่นคือการสร้างความรู้ให้พ้นจากการหลง... ชีวิตของพี่ดอกแก้วนั้น ...เดินทางมามากมาย ดังบทกวีที่ว่า ..ฯ ฉันเดินทางมามาก ฉันจึงอยากให้เธอเดิน เดินเถิดให้เพลิดเพลิน กล้าเผชิญโชคชะตา กล้าก้าวแต่ละก้าว ทุกก้าวคราวนั้นมีค่า ก้าวใครในมัคคา จะเร็วช้าใช่สำคัญ สำคัญเมื่อก้าวเท้า ทุกก้าวเราและเขานั่น ก้าวหน้าไปด้วยกัน ฤาก้าวนั้นจะถอยหลัง ฯ..
11 กันยายน 2547 13:57 น. - comment id 329043
@...namsai... ขอบคุณค่ะน้ำใส.. น้ำคำและน้ำใจหยดนี้ ..ชื่นใจนักหนาค่ะ
11 กันยายน 2547 14:41 น. - comment id 329092
อิอิอิอิทางที่เดินมาแล้วจะย้อนกลับไปทางเดิมทำไมละคะเสียเวลาอ่ะคะต้องไปเริ่มต้นใหม่อีก ใช่ๆๆๆเห็นด้วยเลยค่ะในชีวิตคนเราใช่จะล้มเหลวตอลดทั้งชีวิตนะคะคิดถึงค่ะพี่ดอกแก้ว
11 กันยายน 2547 15:28 น. - comment id 329122
ทางที่เดินเหิรไปแม้ใส่หนาม จะก้าวตามความตั้งใจไม่คิดหงอ ถากถางทางทนแย่แม้ตำตอ ไม่ถอยท้อทำต่อไปไม่รอรี
11 กันยายน 2547 15:53 น. - comment id 329152
เยี่ยมจริง ๆ ค่ะ พี่ดอกแก้ว กลอนเพราะ ความงามค่ะ
11 กันยายน 2547 16:12 น. - comment id 329166
@...เพราะรัก... น้องหวานขา..ก็เพราะทางตันไงคะ เวลาที่เราจนแต้ม ..สายลมแห่งความสะใจอาจพัดกระหน่ำมาทุกทิศทาง.. ในระหว่างที่เดินกลับมาสู่จุดเริ่มต้นนั้น ..จะต้องอาศัยกำลังใจและความอดทนมากเป็นพิเศษ.. ต้องจำให้ได้ว่า หน้าที่ของเราคือเดินมาเริ่มต้นในเส้นทางที่ดี ..อย่าใส่ใจกับเสียงที่ไม่น่าฟัง ..หน้าที่ของเราคือเดินต่อไปให้ถึงเป้าหมาย..อย่ากลัวการเริ่มต้น ขอบคุณในความคิดถึงนะคะ ...ตัวป่วนที่น่ารักเสมอ
11 กันยายน 2547 16:19 น. - comment id 329173
@...ชัยชนะ... เพราะมิเคยเลยไม่รู้อยู่ทิศไหน ความสำเร็จเป็นเช่นไรใคร่ค้นหา อาจก้าวพลาดผิดไปในหลายครา หันเหมาก้าวใหม่ไม่โศกตรม เดินทางกันต่อค่ะชัยชนะ ...ไปอย่างเป็ดๆก็ได้ ..อาจถึงก่อนเต่าและกระต่ายด้วยซ้ำ
11 กันยายน 2547 16:20 น. - comment id 329175
@...ขลุ่ยหลิบ... ขอบคุณนะคะนักกวีและคีตกานท์ ผู้สืบมรดกหลายชั้นทางวัฒนธรรมไทย ขอให้มีความสุขนะคะ
11 กันยายน 2547 16:47 น. - comment id 329203
ศัตรูตัวฉกาจของมนุษย์ก็คือ.. ตัวเอง .. ไหนจะความต้องการ .. กิเลส .. ตัณหา .. ไฟราคะ .. ไหนจะความอ่อนแอ .. ที่แม้ปกปิดใครได้ .. แต่ปกปิดตัวเองไม่ได้ .. ไหนจะความกลัวที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ .. คนบางคน .. กลัวการล้มตั้งแต่ยังไม่เริ่มก้าวเท้าด้วยซ้ำ .. และ.. ชมอักษรเอง ..ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ .. จึงไม่แปลก .. ที่ยังเดินทางเสาะแสวงหาอยู่อย่างเดียวดายเรื่อย ๆ ไป .. เฮ้อ .. ไม่ค่อยจะได้เข้ามาตอบ .. แต่ตอบทีก็ยาวเลยนะคะ ... แหะ ๆ .. เข้าเวรดึกดื่น.. รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ^___^ ..........................
11 กันยายน 2547 16:55 น. - comment id 329205
@...ชมอักษร... ตอบยาวๆอย่างนี้ดีค่ะ ..มาแสดงความคิดนึกกันให้เป็นตัวหนังสือ ..สำหรับชาวพุทธเราคงไม่แปลกเลยนะคะที่จะบอกว่า ..ตัวเองน่ะแหละคือตัวปัญหาใหญ่ที่สุด เพราะเป็นที่บรรจุไว้ทั้งสามตระกูลของกิเลส ..ที่โดยสรุปแล้ว ..คำว่า ชีวิต นี่แหละคือสิ่งที่ไม่ควรจะมี บางคนอ่านแล้วอาจคิดว่าไปฆ่าตัวตายเสียสิ ..ทำอย่างนั้นก็ไม่ฉลาดเลย เพราะตายแล้วก็ต้องเกิดอีก แถมไปเกิดเป็นอะไรก็ไม่รู้ที่อาจจะต่ำกว่าความเป็นมนุษย์ก็ได้...เนื่องเพราะเรายังมีกรรมหนุนเนื่องให้เป็นแรงส่งไปเกิดยังที่ต่างๆอยู่อย่างไม่หมดสิ้น ขอบคุณนะคะ คอมเม้นท์นี้น่าประทับใจมาก
11 กันยายน 2547 20:28 น. - comment id 329269
เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำ จะเกิดมาทำอะไร อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย เลิกอยากลาหยอก รีบออกจากกาม เดินตามขันธ์สามเรื่อยไป เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่านิพพานก็ได้ คติธรรมของ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ) +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
11 กันยายน 2547 20:55 น. - comment id 329277
ความล้มเหลว...ทำให้เราแกร่ง...กล้า... และก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมาดมั่น.... ขอเก็บบทนี้ไว้สอนใจตัวเองนะคะ.. ขอบคุณพี่ดอกแก้วที่ทำให้เกิดกำลังใจมหาศาล.. ตอนนี้กำลังต่อสู้บางอย่างอยู่ค่ะ... ขอบคุณอีกครั้งค่ะ...
12 กันยายน 2547 09:42 น. - comment id 329463
@...ผู้ชายอารมณ์ดี... เริ่มกำเนิดเกิดมาก็เดินทาง อยู่ระหว่างเส้นบุญอุ่นใจฝัน กับเส้นบาปอาบใจในบางวัน เดินอย่างนั้นกันทุกคนบนเวลา ยกเว้นบางคนนะคะน้องเมก.. ที่พยายามค้นหาทางบุญและเดินตามทางนั้นอย่างมั่นคง เช่น พระอริยบุคคลท่านไงคะ
12 กันยายน 2547 10:20 น. - comment id 329495
@...keekie... การล้มลงแต่ละครั้ง..แสดงถึงความไม่พร้อมอย่างใดอย่างหนึ่งของเรา ..อาจเป็นเพราะกำลังกายที่ไม่เพียงพอ หรือกำลังใจที่อ่อนไหว.. ..แต่ในความล้มเหลวนั้นเคยมีความงดงามอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ความเสรีของใจที่เคยตั้งเป้าหมาย และกล้าที่จะเดินไปตามเป้าหมายนั้น... จนมาถึงจุดหนึ่งที่เหนือความสามารถของเรา .... รักษาความงดงามนั้นไว้นะคะ...ความเสรีของใจที่กำหนดเป้าหมายและทิศทางของชีวิตตนเองอย่างถูกต้อง....จะเป็นกำลังใจให้นะคะน้องกีกี้
12 กันยายน 2547 15:08 น. - comment id 329677
ทุกวันนี้ทำอะไรไม่ค่อยเป็นเพราะความกลัวค่ะ ขับรถ ก็กลัวไปชนเขา ทำกับข้าว ก็กลัวไม่อร่อย ไปไหนคนเดียว ก็กลัวหลง นอนไม่หลับ ก็กลัวผี สรุปกลัวจนไม่ต้องเป็นอันทำอะไรเลยล่ะค่ะ ทุกวันนี้เลยอยู่อย่างคนโง่ๆที่ไม่กล้าค่ะ
12 กันยายน 2547 15:13 น. - comment id 329680
@..คนเมืองลิง... จะทำอย่างไรดี.. กลัวอย่างนี้จึงหายได้ ช่วยกันคิดหน่อยนะใจ ทำอย่างไรจึงหายกลัว ตัวอย่างที่ยกมานี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวทั้งสิ้นเลยนะคะ..ยกไปยกมาดูคล้ายคนรักสบายยังไงก็ไม่รุ..คือค่อนไปในทางเกียจคร้านน่ะ ..หาข้ออ้างรึป่าวเนี่ย คนเมืองลิง..อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าโง่เลยนะ..พูดเล่นนะคะ ..เพราะกลอนที่แจมนี้ตลกดี
12 กันยายน 2547 21:06 น. - comment id 329869
ความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่คือใจนั้น ไม่กล้าสู้หรือฟ่าฟันกับปัญหา ยอมพ่ายแพ้ทั้งที่ยังไม่ตรองมา แถมยังคงไม่กล้าเผชิญภัย *-*แพ้ใจเป็นความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด กลอนแต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ คิดถึงจัง*-*
13 กันยายน 2547 22:20 น. - comment id 330668
@...ผู้หญิงไร้เงา.... ปล่อยชีวิตลอยล่องดั่งฟองน้ำ แล้วแตกตามกระแสแค่น้ำไหว ไร้แก่นสารไร้สิทธิ์ไร้จิตใจ ล่องลอยไปไร้สาระกะชีวี สวัสดค่ะน้องตูน ขอบคุณมากนะคะ