บนผืนทรายสีอ่อนสะท้อนแสง ความแห้งแล้งเด่นชัดถนัดหล้า คนเดินทางแรมรอนค่อนชีวา สอดสายตาหาไม้ให้ร่มเงา หมายหลบแดดแผดร่างห่างไอร้อน ที่กัดกร่อนผิวกายดั่งไฟเผา มีแต่เพียงสายลมที่บางเบา มาคลอเคล้าความหวังครั้งเดียวดาย กู่ก้องใจถามฟ้าเรียกหาฝน ให้ร่วงหล่นมาถึงสักหนึ่งสาย ชะล้างไอความร้อนเพื่อผ่อนคลาย ความทุรนทุรายในแผ่นดิน หวังให้ฟ้าปรานีมีน้ำใจ หวังให้คนเคียงใกล้ไม่โหดหิน หวังเมตตาจากใจให้ไหลริน อย่าสูญสิ้นดั่งทรายไร้ธารา กลางสังคมสงครามความแก่งแย่ง ยิ่งคุแรงด้วยไฟปรารถนา ต่างแผดเผาเชื้อไฟให้ได้มา ทรัพย์ชื่อเสียงเงินตราเพื่อเปรอปรน หาร่มเงาพักใจในสงคราม หานิยามน้ำใจอีกหลายหน หาไม้ใหญ่คลายร้อนผ่อนกมล หาต้นหญ้าสักต้นบนผืนทราย แม้นไม่พบสบหวังในครั้งนี้ ทางชีวียังคงทอดสู่เป้าหมาย แม้นรอบตนแห้งแล้งและเดียวดาย ชีพไม่วาย...ไม่สิ้นสุดหยุดเดินทาง
13 พฤษภาคม 2547 07:46 น. - comment id 266804
เรน..อรุณสวัสดิ์..พี่ดอกแก้วนะคะ.. แบบ เรน ..คิดกลอน..ตั้งนานนะคะ.. คิดม่ายออกเลยคะ ..(เกาหัวฟู เฮ้อ อ อ..).. ก็ เรน.. อยากมาทักทาย .. พี่ๆ ..ทุกคนเลย ... คิดถึง..
13 พฤษภาคม 2547 08:30 น. - comment id 266827
เป็นนิยามการเดินทางอันไพเราะงดงามมากค่ะ
13 พฤษภาคม 2547 12:56 น. - comment id 266878
อ่านกลอนดี เก่งจัง อีกครั้งแล้ว พี่ดอกแก้ว ร้อยคำ ลำนำหวาน เสนาะหู ดูงาม ตามโบราณ ขอให้งาน อย่างนี้ มีต่อไป กลอนไพเราะครับ
13 พฤษภาคม 2547 13:05 น. - comment id 266887
กลอนกำลังใจ...แด่ทุกชน น้อมกมล ตั้งใจ ไม่เลิกล้า ด้วยมุ่งมั่น ความดี เสกสรรพา กายวาจา จิตสถิตรธรรมงดงาม มาสาธุกลอนกำลังใจพี่ดอกแก้วครับ
13 พฤษภาคม 2547 14:43 น. - comment id 266931
สู่จุดหมายจุดฝันของวันเหงา ค่อยบรรเทาแรงกายให้ต่อสู้ เติลพลังไฟร้อนได้เชิดชู แหละเพียรรู้ค่าชีวิตที่เกิดมา dinso
13 พฤษภาคม 2547 15:01 น. - comment id 266946
อยากเดินไปสู่เป้าหมายแห่งความสงบ ตามวิถีแห่งธรรมชาติ สงบอยู่ในการกระทำ เพราะทำอยู่ในการปล่อย
13 พฤษภาคม 2547 15:30 น. - comment id 266958
ตามครรลองผองชนมีเป้าหมาย เป็นผืนทรายผืนน้ำสูงค้ำฟ้า ต่างมุ่งมั่นตะกายเพื่อได้มา ถึงสุดหล้าแสนไกลไม่ย่อท้อ แม้แต่พระครองผ้าอยู่ในโบสถ์ ยังมุ่งหน้าหาประโยชน์เข้าพกห่อ ตาลปัตรพัดยศกำหนดรอ ถึงแย่งชิงวิ่งขอกันเกรียวกราว ต่างกับสัตว์ล่าเหยื่อเนื้อพออิ่ม แล้วพักผ่อนนอนพริ้มไม่ร้อนหนาว ไร้สมบัติตกทอดกันยืดยาว ตายเปลี่ยวเปล่าทับถมร่างจมดิน แม้โลภมากกอบโกยเป็นหมื่นล้าน ตายไปแล้วถูกผลาญจนหมดสิ้น แบกติดตัวไปไม่ได้แม้สักชิ้น ร่างเป็นปุ๋ยฝังดินเช่นเดียวกัน ควรคิดใหม่ทำใหม่เป้าหมายตั้ง เพื่อหยุดยั้งละโมภและโกรธหลง ช่วยจรรโลงสรรพสัตว์ให้มั่นคง ได้เชื่อมโยงคุณธรรมเปี่ยมน้ำใจ.. พี่ดอกแก้วครับ ขอแจมหน่อยครับ อ่านกลอนของพี่แล้วอดไม่ได้ อิอิ
13 พฤษภาคม 2547 17:43 น. - comment id 267068
แม้ลำบาก ถากถาง หนทางก่อ ไม่ย่อท้อ รอรี ตีอกสั่น แม้ทางไกล ถึงไหน ก็ถึงกัน ไม่หวาดหวั่น ความหวังมี ปรี่ต่อไป
13 พฤษภาคม 2547 19:00 น. - comment id 267162
@...เรนน้อย... เกาหัวฟูๆแต่เช้าเชียว คิดไม่ออกก็ม่ายเป็งลาย ..คิดมากๆระวังผมร่วง ทักทายอย่างเดียวก็พอแล้วละ คิดถึงเช่นกันจ้ะ ..เด็กหัวฟู
13 พฤษภาคม 2547 19:04 น. - comment id 267166
@...tiki... นิยามของการเดินทางกลางสังคมปัจจุบันค่ะ คล้ายทะเลทรายเข้าไปทุกทีแล้ว .... จนหลายคนท้อใจ .. และแปรเปลี่ยนนิสัยไปเป็นคนเห็นแก่ตัวกัน แก่พวก แก่กลุ่มของตนเท่านั้น ความเห็นใจอันเป็นสาธารณะ(กุศล)นั้นหายากแล้วนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมา
13 พฤษภาคม 2547 19:12 น. - comment id 267171
@...พิกุลทอง.... ขอบคุณคำนำใจให้ชุ่มชื่น เหมือนได้ยืนใกล้น้ำยามร้อนจิต ได้เข้าร่มพรมพฤกษ์ของหมู่มิตร ด้วยลิขิตน้ำใจในน้ำคำ ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาทักทาย
13 พฤษภาคม 2547 19:15 น. - comment id 267173
@...น้ำ... กลอนกำลังใจ ยากแค่ไหนก็อย่าท้อ ขอเพียงอดทนพอ และก้าวต่อก็ถึงชัย ขอบคุณค่ะน้ำ
13 พฤษภาคม 2547 19:18 น. - comment id 267175
@...ดินสอ... สู่จุดหมายคือมีใจไม่อ่อนล้า หาได้อยู่กับคุณค่าของสิ่งไหน ความสำเร็จนั้นต้องอยู่ที่ใจ สิ่งภายนอกมิใช่ความสำคัญ
13 พฤษภาคม 2547 19:23 น. - comment id 267176
@...บุรุษแห่งสายน้ำ... เพราะใจอ่อนตอนรับอารมณ์มา จึงกระตุ้นสัญญาที่ปลูกฝัง ให้ตีความตามใจไม่ระวัง เกิดชอบชังขังใจไร้เสรี การเปรียบเทียบเหยียบฐานจากการคิด จึงมีคำว่า ..สิทธิ์..ไปทุกที่ คือส่วนของอัตตาที่ตนมี พลาดวิถีสงบงามเพราะตามใจ นานๆจึงจะได้พบกันสักที..คงสบายดีนะคะ
13 พฤษภาคม 2547 19:40 น. - comment id 267190
@...ฤกษ์... ควรคิดใหม่ทำใหม่ให้ถูกต้อง ตามครรลองคลองธรรมนำนิสัย ศึกษาหาความจริงที่เป็นไป ของชีวิตจิตใจอย่างแท้จริง มีวันเกิดเปิดตามาดูโลก ก็ย่อมมีวันโศกที่หยุดนิ่ง คือวันที่ความตายมาแอบอิง เป็นความจริงทุกชีวีที่มีมา จะรวยจนข้นแค้นแสนยากเข็ญ ทรัพย์สมบัติซ่อนเร้นเท่าภูผา หรือทั้งชีพมีเพียงแต่กะลา เมื่อถึงคราก็ต้องทิ้งทุกสิ่งไป เหลือเพียงบาปบุญมาหนุนนำ เป็นรอยกรรมที่ตามตนไปให้ คือสมบัติส่วนตัวตลอดไป อยู่นอกใบมรดกยกมอบกัน สวัสดีค่ะฤกษ์ แจมยาวเหยียดอย่างนี้ตั้งเรื่องใหม่ได้เลยนะนี่ อิอิ...
13 พฤษภาคม 2547 19:44 น. - comment id 267192
@...ชัยชนะ... การเดินทางอย่างสบายไม่มีจริง ความสะดวกทุกสิ่งคือเรื่องฝัน ยิ่งเป้าหมายอยู่ไกลยิ่งฝ่าฟัน อย่างทะนงคงมั่นในเส้นทาง ขอบคุณที่แวะมาทุกครั้งเลยค่ะ..
14 พฤษภาคม 2547 17:11 น. - comment id 267686
แม้วันนี้เหนือยล้ามาเพียงไหน แต่หากเรามั่นใจเติมต่อฝัน พรุ่งนี้ยังคงมีในชีวัน กับความฝันเป็นจริงดั่งตั้งใจ *-*กลอนไพเราะๆๆๆๆๆๆๆๆๆและสวยงามด้วยความด้วยความหมายมากเลยค่ะ เก่งจริง ๆ ชื่นชมเสมอค่ะ*-*
14 พฤษภาคม 2547 21:48 น. - comment id 267874
@...ผู้หญิงไร้เงา... อุปมาอุปสรรคหนักเช่นนี้ ไร้ใครที่ช่วยเหลือเกือ้อุดหนุน ที่ผ่านพ้นต้องมีตนเป็นต้นทุน ช่วยค้ำจุนให้ถึงหมายได้ด้วยตน ขอบคุณนะคะน้องตูน..ยังอุตส่าห์มีน้ำใจติดตามมาอ่านและให้กำลังใจเสมอ