_สิ่งรังสรรค์ ธรรมชาติ สร้างเป็นคู่ ชนต่างรู้ ตระหนักถึง จึ่งกล่าวขาน ขอเปรียบเปรย เอ่ยซ้ำ ย้อนตำนาน ร่วมสืบสาน สิ่งคู่กัน พลันเกี่ยวดอง ชายกับหญิงสิ่งประจักษ์รู้รักแท้ ภมรแล บุปผชาติ ประกาศก้อง เหล่าพฤกษาพึ่งพาดินกลิ่นละออง นภา พร้อง คู่วิหก ผกโผบิน มีปากกา ถ้าไร้หมึก นึกคิดถึง คราใดบึ้ง อาจหัวเราะ น่าถวิล มีอดอยาก คงถึงคราว มีข้าวกิน ความเศร้าสิ้น เพราะความสุข ได้เกิดมา สายลมพัด คลื่นซัดฝั่ง ดังโหยหวน เร้ารัญจวนสายน้ำกับหมู่มัจฉา หยดน้ำค้าง ค้างอยู่ ยอดหญ้าคา ดาวบนฟ้า ประกายแสง แข่งกับเดือน เมื่อมีจันทร์ ก็ต้องมี พระอาทิตย์ มีมืดมิด ต้องมีแสง แจ้งเสมือน ศาสนา กับอธรรม ตอกย้ำเตือน อย่าบิดเบือน ความจริง สิ่งไม่ตาย มีภาษา ฤๅไม่มี ซึ่งคำแผลง มีของแพง ก็ต้องมี ของถูกขาย มีคนเกิด แน่นอนต้อง มีคนตาย สงครามร้าย สงบไป สันติคืน =>เมื่อมองโลก สองด้าน ได้แง่คิด หากดวงจิต โศกเศร้า เคล้าคำขืน อย่าลืมเมื่อ ล้มแล้ว ต้องกล้ายืน แม้กล้ำกลืน จักฟันฝ่า ท้าแรงลม
20 มกราคม 2547 06:29 น. - comment id 205165
เมื่อมีทุกข์ มีสุขใจ ให้ถวิล มีแผ่นดิน มีแผ่นฟ้า พาสดใส ชายคู่หญิง จริงเท็จ เหตุผลใด ฉันจึงไร้ คู่หญิง อิงแอบครอง
20 มกราคม 2547 10:12 น. - comment id 205198
อ่านกลอนแล้ว จับใจ เป็นยิ่งนัก ด้วยประจักษ์ สองด้าน คานวิถี อ่านแล้วหนอ บรรลุ สุขฤดี แต่งได้ดี เก่งมาก จากใจจริง