แสงตะวันเพลาเช้าปลุกเราตื่น ให้พลิกฟื้นจากนิทราคราหลับไหล ยินเสียงสั่งจากในตัวเสียงหัวใจ ก้าวต่อไปสู้ต่อไปไร้มืดมน มีคำถามตามติดครุ่นคิดอยู่ การต่อสู้คืออะไรให้ฉงน สู้ชีวิตสู้งานสู้ทานทน ในวังวนคลื่นชีวิตติดตามมา ไร้คนเรียงเคียงข้างช่างว้าเหว่ ลงทะเลมาคนเดียวเปลี่ยวนักหนา มองหาฝั่งเวิ้งว้างช่างไกลตา คลื่นลมพาเซซวนป่วนอารมณ์ ตะวันแดงดวงเดิมเริ่มแผดกล้า เราก็ล้า.เงียบเหงาเศร้าใจข่ม พอตะวันลาลับดับดวงจม เราก็ห่มแสงเดือนเป็นเพื่อนดาว เป็นเช่นนี้ผันผ่านมานานนัก เกินจะหักหวั่นไหวหัวใจสาว ในความนิ่งยังเจ็บปวดและรวดร้าว คืนและวันยืดยาวหนาวใจนัก แต่ก็ยังต่อสู้..รู้เข้มแข็ง ยังเปี่ยมแรงนักสู้.รู้ตระหนัก บอกตัวเองคือชะตามาทายทัก รู้จะรักรู้จะอยู่รู้เดียวดาย
11 ตุลาคม 2546 20:45 น. - comment id 173780
พุดมาบอกว่าคิดถึงมากค่ะ รออ่านงานแสนงามมานานมากเลยนะคะ และขอฝากแทนรักแทนคิดถึงด้วยผลงานชิ้นนี้นะคะ http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_36140.php เริ่มรุ่ง..ค่ะคนดีที่แสนรัก
11 ตุลาคม 2546 21:59 น. - comment id 173791
เหมือนชีวิตตนเองที่เป็นอยู่ มีเรียนรู้ความเหงาเศร้าแค่ไหน เหลือเพียงตัวแต่ไร้ซึ่งหัวใจ ทำให้ต้องเดียวดายไร้เงาเอย ***กลอนบทนี้แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชอบนะค่ะ เหมือนชีวิตจริงของผู้หญิงไร้เงาเลยค่ะ***
12 ตุลาคม 2546 01:33 น. - comment id 173850
...แต่งกลอนได้ไพเราะกินใจจังครับ ...ชีวิตนี้มีมากหลากรูปแบบ ...มีกว้างแคบแยบยลบนวิถี ...มีทั้งสุขทุกข์หม่นปนชีวี ...มีหลายที่ให้ดูให้รู้เรียน แวะมาทักทายครั้งแรกครับ แต่ยังไงก็จะเป็นกำลังใจให้ แต่งกลอนไพเราะๆให้เราได้อ่านเยอะๆนะครับ
12 ตุลาคม 2546 09:02 น. - comment id 173885
ไพเราะค่ะ ... ขออนุญาต print เก็บนะคะ
12 ตุลาคม 2546 23:59 น. - comment id 174033
ชีวิตคือการเรียนรู้ ศรัตรูคือยาชูกำลัง ตราบที่เรายังมีลมหายใจ ก็ต้องเรียนรู้กันตลอดชีวิตหล่ะครับ ปราชญ์เค้าว่าไว้อย่างนี้ บทกวีงามงดในแง่ความหมายและปรัชญา ชื่นชมครับ
13 ตุลาคม 2546 02:33 น. - comment id 174047
เป็นบทกลอนที่...เพราะมาก กินใจมากค่ะ
5 พฤศจิกายน 2546 00:28 น. - comment id 178726
.....ชีวิตลอยคว้างกลางเกลียวคลื่น เสียงสะอื้นหวนไห้ใครเล่าเห็น ใครจะรู้จะเข้าใจสิ่งที่เป็น เยียบเย็นหนาวเหน็บเจ็บดวงใจ ..... กลิ้งๆๆๆ กลุ๊กๆๆๆ ตามเข้ามาอ่าน งานคุณมารแมงมุมค่ะ