ด้วยปีกแห่งฝัน

ลำน้ำน่าน

เมื่อเงาแสงแห่งชีวีมีปรากฏ
แจ่มจรดพริ้งพราวดาวบุหลัน
บ่งนิมิตด้วยแรงแสงแห่งตะวัน
จักฝ่าไปเก็บฝันอันเรียงราย
เมื่ออุ่นไอแห่งรักประจักษ์มา
จะแสวงคุณค่าหาความหมาย
ดั่งสัญญาที่มั่นไว้ไม่คลอนคลาย
คือจุดหมายที่ปลายฟ้ายังยืนยง
เมื่อสวรรค์ยังซื่อตรงคงคำสัตย์
ปฏิพัทธ์ปีติธรรมดำรงหงส์
ตราบรวงแรงแห่งปีกฝันยังมั่นคง
จะบินตรงเยือนอารยาแหล่งนาคร
เมื่อมวลชนดลใจให้ยินเสียง
ก้องสำเนียงเจนจบครบอักษร
จะทะยานลดเลี้ยวเทียวอาทร
ไปถมดอนฐานันดร์ชั้นวรรณา
เมื่อกางปีกลมบนจะวนว่อง
เคียงประคองป้องบังให้หยั่งฟ้า
จะท้าทายความชังอหังการ์
เหิรเมฆาไปเปิดทางถิ่นร้างใจ
เมื่อเด่นดาวทอแสงแหล่งนภา
จะหาญกล้าฝ่าดั้นไม่หวั่นไหว
กระโจนข้ามม่านฟ้าหาทางไกล
นำดวงใจไปหว่านทานคนจน
เมื่อเบื้องหน้าปราการธารสมุทร
จะเร่งฉุดใบเรือเพื่อล่องหน
ยอมหัวอกฟกร้าวหนาวกมล
เพื่อผองชนเกริกกล้านภาลัย
เมื่อยามใดอรุณรุ่งอาบคุ้งน้ำ
เพียงชั่วยามแสงเรืองรองส่องไสว
หวังชื่นชมกับรางวัลกำนัลใจ
แม้นสิ้นไร้ผู้ใดรุมยินดี
แม้นวันนี้ปีกฝันเกรอะกรังดิน
หาใช่สิ้นวิญญาณผลาญศักดิ์ศรี
หน้าจะซบกายจะทาบอาบธุลี
ศรัทธามีความหาญกล้ายังท้าทาย
เมื่อวันรุ่งพรุ่งนี้ที่รอคอย
ความต่ำต้อยจะถูกบดลดความหมาย
ความรังเกียจเดียดฉันท์จะพลันตาย
แอกความพ่ายจะถูกพรากจากบ่าชน
				
comments powered by Disqus
  • พุดพัดชา

    6 กันยายน 2546 23:55 น. - comment id 165881

    ขณะชีวิตกำลังเดินทาง
    เพื่อรังสรรค์ความใฝ่ฝันให้กลายเป็นจริง
    อาจมีบ้างที่จังหวะและการก้าวเดินนั้นสะดุดลง
    หรือพบอุปสรรคขวากหนาม
    จึง..มีทั้งผู้หยุดยั้งในระหว่างเดินทาง
    และมุ่งมั่นไปถึงปลายทางโดยมิย่อท้อ
    
    กล่าวกันได้ว่า บนถนนทุกสายนั้น
    มีทั้งคนหยุดพักตามรายทาง
    และผู้ที่แซงผ่านหน้าคนเหนื่อยล้าขึ้นไป..
    
    เฉกเช่นนี้ในทุกวิถีชีวิตของคนเรา
    
    ขณะแต่ละจังหวะของการเดินทางนั้น
    ย่อมมีบางช่วงที่นักเดินทางทั้งหลาย
    กำลังโหยหาพักพิง..
    อาจเป็นสิ่งที่เราเรียกว่ากันว่า.. บ้าน..
    หรือจะโดยนามใดก็ตาม
    แต่สัญญะนั้นทำให้เรารู้ว่า..
    คือสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง
    สำหรับร่างกายและจิตวิญญาณได้พักพิง 
    ทั้งชั่วครู่ยาม หรือตลอดนิรันดร์
    
    โดยความหมายทางกวีนิพนธ์
    บ้าน...บ้านภายใน..เงาภายนอก..
    ของโกศล  กลมกล่อม 
    
    จึงประสานทั้งรูปธรรมและนามธรรม
    ให้กลายเป็นทั้งแหล่งพักพิงและแหล่งค้นคว้าทางจิตวิญญาณ
    เพื่อทุกดวงจิตของนักเดินทาง
    ได้เยี่ยมกรายเข้ามาอาศัย
    
    ผมสัมผัสความเป็น  บ้าน แห่งนี้ ได้โดยสงบสุข
    และรู้ตัวตนได้ดีขึ้น
    ผมก้าวผ่านกำแพงและวิถีแห่งกวีนิพนธ์
    ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากต่อการรับรู้ของคนธรรมดาๆ
    บ้าน..บ้านภายใน เงาภายนอก..ของโกศล
    กลมกล่อม ได้ตัดทอนความยุ่งยากต่างๆออก
    โดยความปรีชาชาญของผู้รังสรรค์
    ทำให้ผมมิได้เกิดความขุ่นข้องหมองใจหรือวิตกเลย..
    ไม่ว่า..จะแค่เดินชมโดยรอบ บ้าน
    หรือเดินสู่ภายใน
    ผลักหน้าต่างแห่งจิตวิญญาณเพื่อเพ่งมองโลกภายนอก
    ผมมีที่พักพิงและมุมเฉพาะมากมาย ซึ่งหาได้ไม่ง่ายนักในโลกอันวุ่นวายนี้
    โกศล กลมกล่อม ได้นำเอาวิธีคิดทุกอย่างมารังสรรค์เป็น.. บ้าน บ้านภายใน เงาภายนอก
    ด้วยความลงตัว มีทั้งความงดงามและสมบูรณ์เกินกว่าถ้อยคำเหล่านี้จะบรรยายถึง
    
    ด้วยจิตคารวะ
    รักษ์ มนัญญา...
    
    พี่พุดทราบพระเบิ้องบนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ชักนำ
    พลังรักมหัศจรรย์มาสู่คนดีผู้มีค่าคู่ควร.
    
    และสักวัน..หนึ่งไม่นาน..ลำน้ำน่านจะได้รับพรแสนงดงามนั้น..จงอย่าหยุดยั้งสร้างหวังพลังใจทำฝันให้เป็นจริงตาม...สิ่งที่คุณโกศล เคยเพียรlสร้างทุกย่างก้าวอย่างคนดีผู้รู้ตน
    พี่พุด..เชื่อเช่นนั้น..
    
  • อ้อมค่ะ

    6 กันยายน 2546 23:59 น. - comment id 165883

    สวย จังค่ะ พี่นิว
  • ผู้หญิงไร้เงา

    6 กันยายน 2546 23:59 น. - comment id 165884

    แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    7 กันยายน 2546 00:01 น. - comment id 165885

    เมื่อสักครู่อ่านมาแล้วรอบหนึ่ง  แต่ไม่เป็นไรค่ะกลอนไพเราะและงดงามด้วยความหมายอย่างนี้อ่านกี่รอบก็อ่านได้ค่ะ  ยอมรับในฝีมือการแต่งกลอนของคุณจริง ๆ เก่งจริง ๆ เลยค่ะ
  • ลำน้ำน่าน

    7 กันยายน 2546 00:02 น. - comment id 165887

    ***พุดพัดชา
    
    อ่อนคำแสดงความคิดเห็นในยามนี้ ที่อยากบอกก็คือน้ำตาซึมครับ จริงๆ แล้วไม่เคยคิดในทางเช่นนั้นเลย  หากแต่บทกวีที่เขียนหากมีส่วนก่อเกิดกำลังใจเล็กๆ น้อยให้ผู้อ่านบ้างนั้นย่อมถือเป็นความสำเร็จแล้วครับ
    
    ขอบคุณมากครับสำหรับคำชมที่ยกให้ ถ้าโอกาสมีจริงๆ ก็คงจะได้สมพรปากครับ 
    
    ***น้องอ้อม
    ***ผู้หญิงไร้เงา
    
    ขอบคุณมากนะครับที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ ระยะหลังมานี้ผมไม่ค่อยได้เข้ามาสักเท่าไหร่ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกคือ ยังคิดถึงทุกๆ คนที่นี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงครับ
    
  • เมจิคเชี่ยน -^^- ... ขี้เกียจล๊อกอิน

    7 กันยายน 2546 01:48 น. - comment id 165910

    ชอบจังเลยครับบทกลอน
    อ่านแล้วฮึกเหิม ^^
    
    ***
    แวะมาเยี่ยมนะครับพี่
  • rain..

    7 กันยายน 2546 05:45 น. - comment id 165922

    ..ปีกฝัน..ยังมุ่งมั่น...
        กับตรงนั้น..ที่ท้าทาย..
       จะบิน..ใกล้จุดหมาย..  
       กับพายุร้าย.. จะไม่หวั่น...
          จะไตร่ตรอง....
          จะขอลอง... อีกสักครั้ง...   
           เปลวแดด..จะไม่ยั้ง..
        มองตะวัน... แบบท้าทาย...
    
          ..เรน..ขอแจม..บทกวี..ที่ไพเราะ..ของพี่นิวนะคะ...
             ..ไพเราะ...สื่อความหมาย.ได้ดีจัง..
                 ....
  • เวทย์

    7 กันยายน 2546 10:20 น. - comment id 165949

    รออ่านอีเมลก็แล้วกันนะ  อิอิ
  • เจือจันทร์

    7 กันยายน 2546 14:15 น. - comment id 165969

    กลอนก็จริง  คนก็จริง  ชื่นชมจริงๆครับ
  • ชัยชนะ

    7 กันยายน 2546 14:49 น. - comment id 165971

    เหนือคำบรรบายครับน้องนิว สมกับที่หายหน้าไปหลายวัน ได้อ่านกลอนนี้แล้ว
    ถือว่าคุ้มค่ามากครับ ว่าจะมาต่อกลอนด้วยเห็นไม่มีใครแต่ง เขิน! 
     เลยยกกลอนของน้องแต่งที่โดนใจพี่มากที่สุด ยกมา
    
    เมื่อเด่นดาวทอแสงแหล่งนภา
    จะหาญกล้าฝ่าดั้นไม่หวั่นไหว
    กระโจนข้ามม่านฟ้าหาทางไกล
    นำดวงใจไปหว่านทานคนจน
    
    ( ความจริงแล้วพี่ต่อไม่ได้ครับ  ด้วยค่อยถนัดเท่าไหร่แบบสร้างสรรค์ )
    
  • มารแมงมุม

    7 กันยายน 2546 17:11 น. - comment id 165985

    เติมพลังให้ปีกฝันอันกล้าแกร่ง
    ให้มีแรงไปปลดแอกแบกศักดิ์ศรี
    มีศรัทธาหาญกล้าฝ่าไพรี.
    เถิด...วันนี้เรามีหวังกำลังใจ
    
    แล้วพรุ่งนี้เกียรติยศปรากฏชัด
    ความซื่อสัตย์หยัดยืน..ชีพชื่นได้
    ฝุ่นธุลีจะเติบกล้าท้าแรงไฟ
    ความเป็นใหญ่ประชาชนถูกค้นเจอ
    
    แล้วดวงดาวจะพราวแสงแห่งผู้กล้า
    ประดับฟ้าให้ได้รู้อยู่เสมอ
    นามคนกล้าจะจดจารขานชื่อ เธอ
    ความเลิศเลอจะติดตามทุกยามไป
    
    
    อ่านแล้วรู้สึกถึงพลังมุ่งมั่นที่มีในตัวค่ะ
    ขอเขียนเป็นกำลังใจให้เล็กๆนะคะ
  • ตามฝัน

    7 กันยายน 2546 19:01 น. - comment id 166004

    สุดยอดเลยค่ะ ไม่ทราบว่าจะหาคำไหนมาบรรยายได้แล้ว ช่างเป็นบทกลอนที่ไพเราะมาก ๆ เลยล่ะค่ะ :)
  • ลดาดวง

    7 กันยายน 2546 23:14 น. - comment id 166070

    ฉันนะหรือคือน้ำค้างกลางดอกไม้
    คือดาวพรายฉายแสงแห่งหวานหอม
    ฉันนะหรือคือเพื่อนแท้ยามร้าวรอน
    คือทิวายามรารอนใกล้สายันณ์
    ฉันคือใครก็ได้ใกล้ดวงจิตยามคิดถึง
    ใครคนหนึ่งมีซึ้งเศร้าเฝ้าหลงฝัน
    ฉันคือดอกไม้รักงามง่ายผู้เงียบงัน
    ฉันคือขวัญส่องสว่างกลางใจเธอ..ปลอบประโลม 
    
  • ลำน้ำน่าน

    7 กันยายน 2546 23:16 น. - comment id 166072

    **เมจิคเชี่ยน
    **น้องเรน
    **ตามฝัน
    **ลุงเวทย์
    **เจือจันทร์
    **พี่ชัยชนะ
    **มารแมงมุม
    
    แรงบันดาลใจที่เขียนบทกวีอันนี้ มี 3 อย่าง คือ 1)  ได้รับข่าวการเสียชีวิตของคุณโกศล กลมกล่อม นักเขียนที่ผมชื่นชอบผลงาน 
    2)  อ่านบทกวีของคุณจิรนันท์ พิตรปรีชา เรื่องใบไม่ที่หายไป เป็นบทกวีที่สรรเสริญและเป็นกำลังใจให้ต่อสู้เพื่อมวลชล
    3) ฟังเพลงๆ หนึ่งของ นักร้องชื่อดังที่ให้ความหมายนุ่มลึก  จึงบันดาลหัวใจ ออกมาเป็นบทนี้ครับ
    
    ขอบคุณในน้ำใจที่ให้กันเสมอมาในบ้านหลังนี้ ขอบคุณด้วยบทนี้แทนนะครับ  โดยเฉพาะมารแมงมุม บทกวีที่ไพเราะและเข้ากันได้ดีครับ 
    
    บทกวีที่เพียรสร้างบนทางฝัน
    ทุกคืนวันบ่มไว้ให้กรุ่นหอม
    ปราถนาสักคนได้ดมดอม
    เปลี่ยนตรมตรอมเป็นพลังทุกวันคืน
    
    นำความดีที่เก็บไว้ไปหว่านดิน
    ให้ทั่วสิ้นดินแล้งแหล่งระโหย
    หวังฝุ่นร้ายฟายฟ่องล่องราโรย
    เหมือนฝนโปรยจากฟ้าลงมาดิน
    
    รางวัลใจที่ได้จากมวลชน
    ปราบทุกข์ทนเลือนหายสลายสิ้น
    ก่อรวงแรงแบ่งฝันอยู่อาจินต์
    ไม่หมดสิ้นแรงหวังกำลังใจ
    
    ก่อนิยามความหมายแห่งการอยู่
    ดั่งผู้รู้ผู้เปิดทางปล่อยร้างไว้
    นำมวลชนสรรค์สร้างทางวิไล
    สมกับได้ที่เกิดมาควรค่า คน
    
  • ลำน้ำน่าน

    7 กันยายน 2546 23:20 น. - comment id 166076

    **ลดาดวง
    
    ขอดอกไม้ที่เธอเป็นมาวางไว้
    ใกล้หัวใจในวันที่ฉันเหงา
    บางเวลาที่ท้องฟ้าเป็นสีเทา
    จะได้เอามาชื่นชมพรมหัวใจ
    
    ยามฉันเหนื่อยอ่อนแรงแข่งอธรรม
    ให้เธอนั้นมาหอมหอมอยู่ใกล้ๆ
    เป็นดอกไม้ผลิบานหวานในใจ
    เป็นผู้ให้คนยากไร้ในดินแดน
    
    
    
  • ลดาดวง

    7 กันยายน 2546 23:27 น. - comment id 166079

    ขอหยุดโลกความจริงไว้ชั่วครู่ 
    รู้รู้อยู่ แม้โลกฝัน พาหวั่นไหว 
    เพราะบางครั้ง โลกความจริง โหดร้ายไป 
    ขอเติมใจ ไฟฝัน วันหวานเรา.....  
    
    ขอหยุดโลก ความจริง ใช่วิ่งหนี 
    แค่บางที อยากมีใคร ใจเลิกเหงา 
    ขอหยุดโลก ความจริง ชั่วครู่ใช่นานเนา 
    เพื่อสองเรา ร่วมเก็บฝัน วันแสนดี..  
    
    ขอหยุดโลกความจริง แค่ขอ ต่อโลกฝัน 
    ให้คืนวัน ผ่านทุกข์ ใช่วิ่งหนี 
    ขอหยุดโลก ความจริง แสนเศร้าได้ไหมเล่านะคนดี 
    พื่อเรานี้ มีกันและกัน วันท้อใจ..  
    
    ขอหยุดโลกความจริงด้วยใจนี้ 
    ย้ำฤดี ใช่ฝันเพ้อ ใช่หวามไหว 
    แค่ขอหยุดโลกความจริงให้ของขวัญกับหัวใจ 
    ขอได้ไหม ขอแค่นี้ ให้ชีวีมีชีวารอท่า..เธอ..! 
    
    
  • ผีขี้เมา

    8 กันยายน 2546 11:16 น. - comment id 166179

    มาขอชื่นชมด้วยครับ..
    
    
  • tiki

    8 กันยายน 2546 13:58 น. - comment id 166219

    อาจจะช้าต้องคตลิกมาที่หน้าสอง
    จึงจะเห็นท่วงทำนองกลอนน่านหนา
    ไม่เข้าเว็บอยู่สองวันสุดพรรณนา
    แต่ได้อ่านกลอนคุณค่า...ก็พอเพียง
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    8 กันยายน 2546 14:03 น. - comment id 166222

    อ่านแล้วเหมือนเข้าไปในบรรยากาศสมัยจิต  ภูมิศักดิ์ยังอยู่
    
    
  • ลำน้ำน่าน

    8 กันยายน 2546 14:34 น. - comment id 166232

    **ผีขี้เมา  ขอบคุณครับ
    
    **Tiki
    เป็นเพียงกลอนบนทางร้างวิสัย
    มวลชนใดได้อ่านก็ใต่ถามฝัน
    หากทำได้ตามกวีที่จำนรรจ์
    ในเมื่อนั้นประชาชนจะมีชัย
    
    **พี่ฤกษ์
    เพียงฝุ่นฟ่องล่องไล้ความรู้สึก
    อีกทึกอยู่ท่ามกลางวิญญาณฝัน
    ความเป็นจริงสงบเงียบเทียบไม่ทัน
    ไม่อาจฝันไม่อาจทำได้ดั่งใจ
    
    
  • พุด

    11 กันยายน 2546 06:42 น. - comment id 166878

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6193
    ชะตาชีวิต   
    เพลงพระราชนิพนธ์ : : Key C  
    นกน้อยคล้อยบินมาเดียวดาย
    คิดคิดมิวายกังวลให้หม่นฤทัยหมอง
    ขาดมวลมิตรไร้คนสนิทคู่เคียงครอง
    หลงไหลหมายปองคนปรานี
    ขาดเรือนแหล่งพักพำนักนอน
    ขาดญาติบิดรและน้องพี่
    บาปกรรมคงมี จำทนระทม
    ท้องฟ้าสายัณห์ตะวันเลือน
    แสงลับนับวันจะเตือนให้ใจต้องขื่นขม
    หากเย็นลงฟ้าคงยิ่งมืดยิ่งตรอมตรม
    ชีวิตระทมเพราะรอมา
    จวบจันทร์แจ่มฟ้านภาผ่อง
      เฝ้ามองให้เดือนชุบวิญญา
    สักวันบุญมา ชะตาคงดี
    
    นกน้อยคล้อยบินมาเดียวดาย
    คิดคิดมิวายกังวลให้หม่นฤทัยหมอง
    ขาดมวลมิตรไร้คนสนิทคู่เคียงครอง
    หลงไหลหมายปองคนปรานี
    ขาดเรือนแหล่งพักพำนักนอน
    ขาดญาติบิดรและน้องพี่
    บาปกรรมคงมี จำทนระทม
    ท้องฟ้าสายัณห์ตะวันเลือน
    แสงลับนับวันจะเตือนให้ใจต้องขื่นขม
    หากเย็นลงฟ้าคงยิ่งมืดยิ่งตรอมตรม
    ชีวิตระทมเพราะรอมา
    จวบจันทร์แจ่มฟ้านภาผ่อง
      เฝ้ามองให้เดือนชุบวิญญา
    สักวันบุญมา ชะตาคงดี... 
    .*******
    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6196
      รัก   
    เพลงพระราชนิพนธ์ : : Key Eb  
    รักทะเล
    อันกว้าง ใหญ่ไพศาล
    รักท้องฟ้า โอฬาร สีสดใส
    รักท้องทุ่ง ท้องนา ดั่งดวงใจ
    รักป่าเขา ลำเนาไพร แสนสุนทร
    รักพฤกษา รุกขชาติ ที่ดาษป่า
    รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร
    รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร
    รักทั้ง รัตติกร ในนภดล
    รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง
    รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล
    รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล
    รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ
  • พี่ดอกแก้ว

    11 กันยายน 2546 06:55 น. - comment id 166882

    จักโบยบินค้นถิ่นไปไถ่ถาม 
    สร้างนิยามชีวีมีความหมาย 
    ปลุกปลอบชนผู้ยากลำบากกาย 
    ซับน้ำตาเรียงรายที่หยาดริน 
    
    แม้นมีเพียงสองมือถือความฝัน 
    จะมุ่งมั่นทอหวังดั่งถวิล 
    ถึงล้มลุกคลุกคลานเป็นอาจิณ 
    ก็มิสิ้นการยืนบนผืนธรรม 
    
    แต่ละก้าวสาวไปด้วยใจภักดิ์ 
    หมายปักหลักชีวีที่งามล้ำ 
    ให้แก่ผู้เหนื่อยล้าบอบระกำ 
    ถึงสิ้นชีพก็จะทำด้วยเต็มใจ 
    
    คือความหวังความฝันอันสูงค่า 
    จะเหิรสู่ฟากฟ้าอย่างแจ่มใส 
    แม้นปีกหักเพราะฝ่าวาตภัย 
    ก็จะไปตามฝันคำสัญญา 
    
    คงสักวันฝันมีที่ปรากฏ 
    ล้างกำสรดเริ่มสรวลชวนหรรษา 
    ให้กับผู้ขื่นขมตรมน้ำตา 
    ถึงเวลาปลดแอกแยกโซ่ตรวน 
    
    สวัสดีคะ พี่ดอกแก้วตอบช้าไปนิดนะคะแต่ยอมรับในอรรถรส ที่ปรากฎงดงามจริงๆค่ะ
  • ลำน้ำน่าน

    11 กันยายน 2546 09:43 น. - comment id 166906

    ***พี่พุดพัดชา
    
    บทเพลงพระราชนิพันธ์ ชะตาชีวิตที่ผมเปิดเปิดฟังอยู่เสมอในยามที่รู้สึกว่า เหนื่อยและท้อแท้ เป็นเหมือนขุมพลังที่สว่างทอเปิดรอแล้วครับ
    
    **พี่ดอกแก้ว
    ผมคิดเสมอว่า บ้านหลังนี้นั้นแม้จะไม่ได้รู้จักหน้าข้าตากัน แต่เพียงอักษรกลอนกานต์ เท่านั้นนี้ก็ทำให้เรารู้สึกอภิรมย์ และรู้สึกว่า ต้องมีใครๆ หรือใครสักคนที่พูดกับเราแน่ๆ
    
    --------------
    มีความรู้สึกมากมายข้างใน ที่จะกลั่นออกมาเป็นบทกวี แต่เวลาและสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ทำได้เพียงนานๆ มาจารไว้ทีหนึ่ง แต่กระนั้นก็ยังดีใจที่ยังมีมิ่งมิตรและผองเพื่อนติดตามงานและให้กำลังใจเสมอมาครับ โดยเฉพาะสาวงามแห่งพรรณพฤกษ์ พี่พุดพัดชา พี่ดอกแก้ว พี่ชัยชนะ และน้องๆ ที่น่ารักอีกมากมาย น้องนก น้องเรน น้องอ้อม  ฯลฯ และมิตรวงศ์วานบ้านเรือนไทย ที่มีน้ำใจและใจดีกันทุกๆ คน ซาบซึ้งยิ่งนักครับ
    จะมีสิ่งไหนที่จะงดงามไปกว่าการให้และอยู่ร่วมกันอย่างผู้รู้รัก เมตตา และเอื้ออาทรต่อกัน ไม่มีอีกแล้วครับ พรุ่งนี้เราอาจจาก พรากไป แล้วเราจะไม่เสียใจเลยที่กับสิ่งที่เราเพียรพยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว
    
    ด้วยรักในมิตรวงศ์วานบ้านเรือนไทยเสมอมา
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน