ดอกไม้งามยามอรุณอุ่นรังสี ดุจมณีดาราพาวาบหวาน ดอกไม้เฉาเคล้าแสงสุริยกานต์ ดุจอกรานแหลกลงตรง....ปุถุชน ต่างแต่พระอริยบุคคลผู้ละหลง และปลดปลงปวงศัตรูสู่มรรคผล แม้นดอกไม้อับเฉาไม่เศร้ากมล กลับงามล้นยิ่งงามยามต้องมอง เมื่อรับรู้ดูสิ่งที่จริงแท้ ความเปลี่ยนแปรดับไปในสิ่งผอง มีดวงตาดุจแก้วอันเรืองรอง ที่ฉายส่องทะลุม่านแห่งกาลลวง ความอับโชคโศกศัลย์อันทุลักษณ์ ได้ประจักษ์จริงใจไปทุกห้วง พบชีวิตไร้สิทธิ์สิ่งทั้งปวง มิอาจทวงถามคืนคราชื่นบาน เห็นดอกไม้อับเฉาทุกคราวดอก มิอาจกลอกกลับใจให้ฟุ้งซ่าน มีไตรลักษณ์ถักร้อยสร้อยสุมาย์ เป็นดอกไม้เบ่งบานในหัวใจ
12 กรกฎาคม 2546 10:01 น. - comment id 153721
...ต่างแต่พระอริยะผู้ละหลง และปลดปลงปวงศัตรูสู่มรรคผล แม้นดอกไม้อับเฉาไม่เศร้ากมล กลับงามล้นยิ่งงามยามต้องมอง ... @...ตรงบทนี้ขอแก้ไขนะคะ พิมพ์เกินไปหน่อยค่ะ...
12 กรกฎาคม 2546 15:33 น. - comment id 153768
กลอนพี่ทุกบท ไพเราะ ทั้งนั้นเลยค่ะ ............(^_^).........
12 กรกฎาคม 2546 21:22 น. - comment id 153816
( ใจของน้องอ้อมช่างมาตรงกับใจผมเป๊ะเลย แฮ่ แฮ่ ผมว่าจะพูดเช่นดียวกันกับน้องอ้อม) จะสดเฉา หรือแห้งเหี่ยว ก็งามนัก ดอกไม้รัก ที่บาน ในใจฉัน จะถนอม ดูแล ทุกคืนวัน หวังน้องนั้น ชะโลมรด ด้วยน้ำใจ
14 กรกฎาคม 2546 11:47 น. - comment id 154100
@น้องสองคนนี้น่ารักจริง... ขอบคุณมากค่ะน้องอ้อม ..และคุณชัยชนะ
17 กรกฎาคม 2546 08:19 น. - comment id 154660
อธิถาร สติใน ฐานทั้งสี่ เย็นฤดี สุขล้น ธรรมท้นไสว ขอบัวบาน ผุดขึ้น กลางดวงใจ บุญอำไพ แผ่ไป มิมีประมาณ สาธุ บุญอาจารย์ครับ