พงหนามตามเกี่ยวก่าย สะกิดกายลายริ้วแผล ร่องรอยปริมากแล้ โลหิตแผ่ตามริ้วรอย ครวญครางอย่างร้าวรวด กรรมตามกวดไม่ล่าถอย เหลือแรงอยู่เพียงน้อย ก็เพียงคอยให้กรรมโรย ทิ้งร่างรับผลกรรม บาดแผลซ้ำไม่แห้งโหย ก้าวสู้มิรู้โรย สวนทางวัฏฏ์ตัดแรงกรรม พี่เองได้เผชิญมาด้วยตนเองหลายสิบครั้ง ภายในห้องผ่าตัดค่ะ ครั้งท้ายสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 45 พี่เข้าผ่ากระดูกสันหลังค่ะ..ได้แต่งกลอนไว้สอนใจ เอามาฝากน้องๆค่ะ....พี่ดอกแก้ว
17 มิถุนายน 2546 12:03 น. - comment id 147701
ขอให้พี่ดอกแก้วจงสดใส ชีวิตใหม่ในร่างเก่า บุญงามตามเป็นเงา เจ็บที่ใดให้ลบเลือน ........ ...........
17 มิถุนายน 2546 12:06 น. - comment id 147702
บุญทานแต่กาลใด ป้องกันภัยไม่ใหญ่โต ในใจใฝ่พุทโธ ธรรมะคุ้มชุ่มเย็นครอง....
17 มิถุนายน 2546 16:28 น. - comment id 147752
ก้มกราบคุณ ดอกแก้ว เคยแว่วเสียง ทั้งเข้มแข็ง และสำเนียง เพียงแว่วหวาน กี่สิบครั้ง คุณเจ็บป่วย ด้วยทรมาณ กี่สิบครั้ง หมอต้องจาร มีดผ่านคม แต่ไฉน ใยหัวใจ ช่างแกร่งนัก แสนประจักษ์ ใจนี้ สิงามสม เป็นดอกแก้ว ดอกฟ้า แม้นตราตม คอยชื่นชม ถึงมิวาย มิคลายลืม แม้นอยู่ห่าง ร้อยด้วยทุกข์ รุกล้นอับ แม้นเดียวดาย ใจก็กลับ คอยปลอบปลื้ม ใจดอกแก้ว งามแท้ ให้หยิบยืม ของพระคุณ น้ำใจปลื้ม กรุณา
17 มิถุนายน 2546 16:28 น. - comment id 147753
ก้มกราบคุณ ดอกแก้ว เคยแว่วเสียง ทั้งเข้มแข็ง และสำเนียง เพียงแว่วหวาน กี่สิบครั้ง คุณเจ็บป่วย ด้วยทรมาณ กี่สิบครั้ง หมอต้องจาร มีดผ่านคม แต่ไฉน ใยหัวใจ ช่างแกร่งนัก แสนประจักษ์ ใจนี้ สิงามสม เป็นดอกแก้ว ดอกฟ้า แม้นตราตม คอยชื่นชม ถึงมิวาย มิคลายลืม แม้นอยู่ห่าง ร้อยด้วยทุกข์ รุกล้นอับ แม้นเดียวดาย ใจก็กลับ คอยปลอบปลื้ม ใจดอกแก้ว งามแท้ ให้หยิบยืม ของพระคุณ น้ำใจปลื้ม กรุณา
17 มิถุนายน 2546 23:48 น. - comment id 147873
ผลกรรมมีจริง แน่!!!!????
18 มิถุนายน 2546 06:30 น. - comment id 147910
รอยกรรมย้ำ ทำรอย ทางหว่างถนน ล้อรถยนต์ บนทาง แล่นวิถี บดทับเสียด สึกหรอ ประดามี คือกรรมที่ เสียดทาน ทนรอยกรรม ร่างกาย เสียดแทง รอยร้าว ใจผ่าว วาววาม เพียรขำ เหตุธรรม กรรมขาว ตามทำ จิตร่ำ ธรรมรส สงบเย็น สาธุในกุศลกรรมพี่ดอกแก้วครับ
19 มิถุนายน 2546 00:15 น. - comment id 148111
คือ ก.กรรมนำลิขิตขีดเส้นสาย เพราะทำกาย..วาจา...ใจ..ไว้แรงกล้า ในสิ่งดีสิ่งชอบกอปรสัมมา และสิ่งชั่วไร้ปัญญามาตรึกตรอง เจตนา คือตัวกรรมนำสู่ผล ฝ่ายกุศล-อกุศลให้หม่นหมอง เรียกวิบากซากวัฏฏ์มัดจับจอง ให้จำต้องพบสิ่งดี-ไม่ดีกัน เพราะเคยทำกรรมไม่ดีมีเบียนสัตว์ ให้สาหัสร่างกายไม่สุขสันต์ เคยประหารผลาญพร่าคร่าชีวัน ผลปาณาติบาตนั้นให้ตามกาล หากนำเกิดก็เพริดไปอบายบรรพ์ พ้นกำเนิดจากนั้นยังส่งสาร ให้ต้องรับเศษกรรมปวัตติกาล ถูกโรคภัยเบียดพาลเชือดเฉือนกาย เพราะเคยทำกรรมดีมีกุศล ประกอบด้วยปัญญาล้นอยู่สืบสาย จึงกำเนิดเป็นมนุษย์ภูมิสบาย และสมหมายพบศาสนาพระพุทธองค์ เพราะศึกษาคุณค่าของพระธรรม จึงน้อมนำมาสร้างใจมิให้หลง รู้ถึงเหตุของผลร้ายหมายใจปลง และมั่นคงรับผลไป.....ใจสบาย ไม่ทุรนทุรายหมายปัดเป่า สะเดาะห์เพราะเขลาเมาไม่หาย เปลืองเงินทองของข้าวร้าวรานกาย จึงไม่หลงงมงายเพราะใครชวน และเร่งทำความดีที่มีค่า เพื่อเป็นยารักษาอย่างดีล้วน รักษากาย ..วาจา..ใจ...ทั้งกระบวน ให้ทั่วถ้วนสะอาดใสในงานบุญ อย่าหมายผิดคิดว่า..ดีไม่ได้ดี เพราะต่างเหตุต่างมีผลอุดหนุน ทำทั้งดีไม่ดีไว้เป็นทุน จึงต้องวุ่นสลับภาพอาบน้ำตา บางครั้งอยู่โรงพยาบาลสานงานธรรม พร้อมรอยแผลจากผลกรรมที่ตามล่า แต่ไม่โรยแรงใจในธรรมา ยังเทิดค่าจวบชีพวายไม่หน่ายงาน ขอบคุณทุกท่านค่ะ...เพื่อน...พี่ดอกสารภี...tiki....ฤกษ์...และท่านที่ไม่ปรากฏนาม ..ขอบคุณที่ให้กำลังใจค่ะ
19 มิถุนายน 2546 00:20 น. - comment id 148112
ขอบคุณทุกท่านค่ะ...เพื่อน...พี่ดอกสารภี...tiki....ฤกษ์...และท่านที่ไม่ปรากฏนาม ..ขอบคุณที่ให้กำลังใจค่ะ
21 มิถุนายน 2546 00:50 น. - comment id 148543
น้ำเองลืมอะขออภัยนิ