เฉกชนม์นี้มีความหมายคล้ายเรือน้อย ที่เพียงลอยตามแรงแห่งคลื่นโหม ยามทุกข์เบียดบีฑาฝ่าคลื่นโครม ยามสุขไร้คลื่นโจมลำนาวา ลอยเรื่อยไปในห้วงน้ำตามกระแส ชลาลัยผันแปรเปลี่ยนทิศา เวียนวกไปในน่านธารธารา ไม่พบท่าเทียบฝั่งยั้งหยุดเรือ มองชะแง้แลทิศคิดอยู่นิ่ง ถ่วงเรือไว้ด้วยสิ่งทำหางเสือ กำหนดทางคัดท้ายอยู่ปลายเรือ ต้านกระแสความเชื่อที่เคยมี หวังจะไปให้ถึงลำสำเภาทอง ที่ฉายส่องผ่องประกายรัศมี อยู่เบื้องหน้าไกลไกลในนที จอดรอรับด้วยไมตรีมาช้านาน จึงวาดพายไปบนสายทางเส้นนั้น เรือน้อยพลันมีร่องรอยความร้าวฉาน เกิดรูรั่วขึ้นมากมายในกระดาน เปรียบทวารที่ซ่านไปในอารมณ์ เหลียวหาชันยาเรือเมื่อน้ำเข้า วิดน้ำเก่าเททิ้งสิ่งหมักหมม เพียรวาดพายให้เรือเบาเข้าแรงลม อุดรอยรั่ว...วิดน้ำตม...เร่งรีบพาย หมายสมัครสามัคคีมีในทาง ไม่อ้างว้างมีเชือกเหนี่ยวเกลียวแปดสาย กลายเป็นหนึ่งถึงสำเภาที่เงาพราย เรือลำน้อยถึงที่หมายไม่เวียนวน
12 มิถุนายน 2546 00:55 น. - comment id 146580
งานงามและมีคติแบบนี้ พี่จำได้เสมอมาในดวงใจนี้ที่เฝ้ารอการกลับมานะ
12 มิถุนายน 2546 10:57 น. - comment id 146621
ธรรมรึ มหาสมุทรทุกข์สัจกว้าง สุดขอบฟ้ามาขวางทางสวรรค์ คลื่นกิเลสภัยท้าโถมโรมลัน ลมหลงพลันปะทะอุราโคลง หวังสำเภาลอยล่องท่องสุมทร จึ่งยั้งหยุดรั้งท้ายไม้หางเสือ สติเอกอันดำรงค์คงกับเรือ ฝ่าทะเลเพื่อวิเวกธรรมทาน ค่ำมืดลงปลงกลางว้างเลเหงา หทัยร้าวจมวัฏฏะสงสาร คงจมลงบึ่งเลที่อ้างว้าง ใครเล่าจะสงสารตัวเรา สงสารยังนิ
12 มิถุนายน 2546 13:22 น. - comment id 146676
อยากให้พี่ดอกแก้วช่วยบ่งชี้ เกลียวเชือกมีแปดสายใช้จูงลาก ให้เรือถึงที่หมายไม่ลำบาก อุปถากญาติธรรมนำจิตครวญ... อมิตพุทธ
12 มิถุนายน 2546 17:52 น. - comment id 146756
ชอบค่ะ สวยงาม .. ละมุลละไม ไม่สะดุดเลย
12 มิถุนายน 2546 22:41 น. - comment id 146801
คำปุจฉาถามหาเชือกสำคัญ ว่ามีแปดเกลียวนั้นเป็นไฉน จึ่งสามารถลากจูงข้ามพ้นภัย วิสัชชนาความนัยให้ทราบกัน ย้อนเวลาล่วงไปในก่อนกาล พระพุทธองค์ผู้ทรงญาณเป็นเอกนั้น ทรงเสด็จแสดงธรรมที่สำคัญ แก่บัวงามในขั้นอุคติตัญญู คือปัญจวัคคีย์ผู้มีคุณ ได้ฟังธรรมค้ำจุนให้จิตรู้ ธัมมจักป์สูตรแรกแจกบทครู ได้สาวกหนึ่งผู้พิสูจน์ธรรม ทรงตรัสถามถึงความบำเพ็ญตน เพื่อประโยชน์มรรคผลที่เลิศล้ำ มีสองทางสองอย่างไม่ควรทำ ที่สุดโต่งน้อมนำให้งมงาย ทรงชี้ทางสายกลางมัชฌิมา เป็นทางแห่งมรรคาเชือกแปดสาย รวมหนึ่งเดียวเกลียวกลมผสมลาย ผนึกสายแปดเส้นเป็นหนึ่งเดียว เกลียวที่หนึ่งเป็นที่พึ่งอันสำคัญ ที่จะคล้องชีวันอย่างแน่นเหนียว ให้ดำเนินถูกทิศไม่ผิดเทียว สัมมาทิฏฐิเกลียวสายปัญญา เกลียวที่สองตรึกตรองประคองจิต ให้มุ่งคิดดำริเลิศเกิดคุณค่า ให้มั่นคงอยู่ในสายแห่งปัญญา มีชื่อว่าสัมมาสังกัปโป เกลียวที่สามสัมมาวาจานั้น สำรวมพลันไม่พลิกคำคุยเขื่องโข มีองค์ศีลรักษาไว้ไม่อวดโว เปล่งวาจาเพื่อโลกุตรธรรม เกลียวที่สี่มีสัมมากัมมันตะ คือการละทุจริตกายที่ใฝ่ต่ำ มีองค์ศีลล้อมไว้ไม่ล่วงล้ำ งดเว้นกรรมลามกตกอบาย เกลียวที่ห้าสัมมาอาชีโว มีธรรมโมเลี้ยงชีวาไม่โหดร้าย หลอกลวงด้วยเล่ห์กลล้นอุบาย มีองค์ศีลคุ้มใจกายให้เลี้ยงตน เกลียวที่หกผกเพ่งพิศในฤทธิ์ทุกข์ เพียรกำหนดปลอบปลุกเพื่อมรรคผล สัมมาวายามะชนะตน เพียรเพื่อให้หลุดพ้นกิเลสมาร เกลียวที่เจ็ดเผด็จธรรมย้ำความรู้ ระลึกอยู่ในอารมณ์สติปัฏฐาน ไม่ประมาทพลาดหลงวงวิญญาณ รู้ในการรับกระทบสบอารมณ์ เกลียวที่แปดสุดท้ายในสายทาง รวมเกลียวสายทุกอย่างให้สวยสม ไม่ฟุ้งซ่านพล่านไหลในทุกข์ตรม สงบสมสัมมาสมาธิง นี่คือเชือกเส้นเดียวแปดเกลียวกลม ไม่อาจแยกออกมาชมอย่างเดี่ยวสิ่ง ต้องใช้งานทั้งแปดเกลียวอย่างเหนียวยิ่ง สรุปเป็นทางจริงแห่งมรรคา
12 มิถุนายน 2546 23:04 น. - comment id 146802
เรือลำน้อยจึงลอยตรงคงสู่ญาณ ที่ประหารกิเลสและตัณหา ข้ามโอฆะละสังสารที่ผ่านมา ไตรสิกขากำหนดรู้ผู้ละตน ที่เรียกว่าวิปัสสนากรรมฐาน ที่สืบสานเกลียวธรรมนำมรรคผล ละบาปคือความลุ่มหลงในตัวตน ละเหตุแห่งโลภล้นในสันดาน เฝ้าเพียรดูรู้อารมณ์ที่กระทบ และได้พบกับความจริงของสังขาร คือไตรลักษณ์ประจักษ์แจ้งแห่งดวงมาลย์ เกิดขึ้นอยู่ไม่นานก็ดับลง มิมีใดเหลืออยู่ให้รู้นาน สรรพสิ่งพ้นผ่านไม่ไหลหลง มีสืบต่อทันทีที่ดับลง จึงเหมือนยังดำรงเพราะลวงตา หากแจ้งใจว่าไร้แก่นสาระ ทุกข์ก็จะผ่อนคลายไม่โหยหา ไม่ดิ้นรนตัดพ้อต่อชะตา มีวิชชาคมหล้าเพราะแปดเกลียว
12 มิถุนายน 2546 23:16 น. - comment id 146803
@สวัสดีค่ะพี่พุดพัดชา ..... ไปขอใช้พื้นที่ของ ณรังษี..อยู่ชั่วครั้งชั่วคราว เกรงใจเขาอยู่เหมือนกัน .....ดีใจมากค่ะที่ทราบว่ารอการกลับมา......ขอบคุณจริงๆค่ะ @เราก็ต่างล่องเรือชีวิตกันอยู่ค่ะ...น้ำ บางคนก็โชคดีที่ทราบว่า ...เรือน้อยลำนี้ไม่ปลอดภัย และต้องหาที่ปลอดภัย แต่บางคนก็โชคร้ายที่ไม่ทราบว่า ..เรือน้อยนี้ล่องลอยอยู่ในน้ำที่พร้อมจะรับอันตราย เพียงเพราะคลื่นลมสงบจึงทำให้ประมาทว่า ปลอดภัยเพียงพอแล้ว @ไม่ทราบว่าจะถูกใจคุณฤกษ์หรือเปล่านะคะ อารัมภบทเพื่อระลึกถึงพระพุทธคุณเป้นเบื้องต้นด้วยค่ะ ......ติชมมาได้นะคะ ..ฤกษ์ @ขอบคุณมากค่ะเพื่อนไพร ..ดีใจมากที่ไปเยือนเรือนดอกแก้ว ...ขอโทษนะคะที่ออกมาต้อนรับช้า ...ด้วยปัญหาสุขภาพและการงานค่ะ ..... และขอบอกว่า .. ...ใครคนนั้นที่ผันผายไปเยือนเยี่ยม จิตนี้เปี่ยมความดีใจในคุณค่า ของไมตรีที่รี่ไหลจากไพรพนา ไปยังเรือนด้อยค่า ..ค่ะเพื่อนไพร ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ
13 มิถุนายน 2546 00:28 น. - comment id 146807
ขอบพระคุณเหลือล้นพี่ดอกแก้ว เข้าใจแล้วเชือกมรรคทั้งแปดสาย มีแต่ชมจะติได้อย่างไร ซึ้งหัวใจคารวะด้วยเบญจางค์
13 มิถุนายน 2546 07:30 น. - comment id 146817
สวัสดีตอนเช้าคะคุณฤกษ์ ดีใจจังเลยที่ตอบคำถามสำเร็จแบบไม่โดนติ อิอิ..นั้นขอยกขึ้นไปเป็น..ลำนำชีวิต..ใหม่ดีกว่า ไว้เผื่อแผ่แก่ผู้ชอบธรรมะไดเปิดอ่านนะคะ ดีไม่ดีคุณสดายุมาต่อด้วยอีก..ดีไปเลย... คุณฤกษ์ถ้าไม่ลำบากกลอนคุณฤกษ์ก็แสนงดงามมาก..นำไปลงที่ลานของพี่ดอกแก้วบ้างจิจะขอบพระคุณหลายคะ