มาเพื่อมอบปลอบใจใครบางคน ที่ทุกข์ทนหมดแรงแห่งชีวี มาคอยเติมเชื้อไฟให้คนดี อย่าราคีเจ็บช้ำคำนินทา แค่คำลวงล่วงหลอกชอกช้ำใจ สนไปใยกันเล่าที่เขาว่า คนพูดได้เพราะปากมีที่ให้มา แต่คุณค่าใช่นินทาก็หมดไป ค่าของคนคนดูก็รู้แจ้ง เพียงแสดงคุณค่ามาจากใจ ใยต้องกลัวคำด่าที่ว่าไว้ กลัวทำไมอย่าแพ้แค่ถ้อยคำ แต่โบราณการณ์นี้ก็มีมา อันนิทากาเลเหมือนเทน้ำ แต่จะเก็บคิดไปใยให้เจ็บช้ำ คนอาจทำแค่คำด่าอย่ากังวล มิตรภาพตราบสิ้นฟ้าอย่าลืมละ จำไว้ซะอยู่ตรงนี้นี่อีกคน ใครจะด่าใครจะว่าอย่าไปสน เพราะคือคนทำดีมีคนมอง กำลังใจจึงฝากขานผ่านบทกลอน เพื่อขอวอนทุกข์ที่คิดที่ติดต้อง จะค่อยเป็นแรงใจไว้คุ้มครอง ทุกข์ทั้งผองจะปัดไปให้ไกลเอย
22 กันยายน 2545 14:49 น. - comment id 79104
มาอ่านอีกรอบคะ เมื่อกี้มันคงปลด login ใช่เปล่าค๊า...งั้นก็ขอมาอ่านอีกนะ !! อืมม...ให้ฟามหมายดีคะ เพราะ+เก่ง ด้วยคะ..ถ้าเค้าอ่านก็คงจะมีกำลังใจได้ดีเลยคะ หนักแน่นๆ..
22 กันยายน 2545 15:29 น. - comment id 79121
มิตรภาพตราบสิ้นฟ้านะครับ คุ้นมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เมือนเคยได้ยินอยู่สม่ำเสมอ อย่าลืมยิ้มนะจ้า :) ยินดีที่ได้รู้จักนะ
22 กันยายน 2545 21:06 น. - comment id 79234
.....ยามใดใจห่มใข้..........................สรรพการ มาตรมุ่งจรุงสาน.............................ชื่นช้อง อาทรข่มทรมาณ..............................วันหม่น คืนหมอง พลาดหวังกังวาลก้อง......................กู่ให้ใจรวน ฯ .....หลับตาคราเนื่องให้.....................ใจถวิล ไกลห่างยังยลยิน............................ถิ่นเจ้า เพียงพิศม์จิตโผผิน........................บินสู่ ใจประสาน สรรค์สุขทุกข์รุมเร้า.........................กล่าวซ้องปองหรรษ์ ฯ .....นามเราคราวกู่ก้อง......................มองเมียง สดับกับพจน์เพียง...........................เพ่งแก้ม จักยืนชื่นรจน์เรียง.........................เสียงแว่ว กังสดาล ปราศใครหมายนัยแย้ม......................เพื่อนเจ้าเรามี ฯ .....นภาคราหม่นคลึ้ม.......................ซึมซาน เมฆา ปกปิดจิตทรมาณ...........................สั่นใข้ ลมบนปนเหน็บนาน..........................พลันย่าง กรายเยือน กระชับจับมือให้.............................สลายเศร้าโศกศันต์ ฯ .....นามเราคราวกล่าวไกล้.................ใดเอย พึงเอ่ยเผยเฉลย.............................เอ่ยซ้ำ มินานลั่นเคียงเคย............................เชยสู่ ประตูเรือน สดับรับลอบย้ำ...............................พร่ำเพี้ยงเสียงหวาน ฯ .....ดีฤาคือรับรู้..............................มิตรภาพ พรรคเพื่อนเยือนเตือนตราบ.............ขนาบฟ้า ใครใดไฝ่เทียมทาบ..........................สับข่ม ซมหมอง เจ็บแปลบแสบใจกล้า.......................อย่าได้ไหวเอน ฯ .....ดังใครหมายแย่งยื้อ...................ถือวิญญ์ครองเอย พึงอย่าตรึงตราจิน-........................ตะข้อง หยัดยืนละผละผิน..........................บินห่าง ขอมั่นครันคราวคล้อง....................ผ่องแผ้วแวววาย ฯ .....ดีฤาคือรับรู้.............................มิตรภาพ เคยเอ่ยเฉลยทราบ.........................ตราบฟ้า ปรีดาคราเคียงทาบ........................เทียมเพื่อน เยือนใจ เธอเราพิเนาว์คว้า..........................ไขว่น้อมถนอมนาน ฯ ......เกษมศานต์มั่นแม้น.................แทนใจ เราชื่นเธอชมใน...........................ใฝ่ถ้อย ดีฤาคือมิตรใด.............................หมายร่วม เริงรมย์ มิตรหนึ่งคนึงน้อย........................กว่าร้อยชนพาล ฯ ....ขอบคุณนะคะในไมตรีที่มีให้ต่อกัน .. เช่นกันค่ะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า จะเป็นเช่นบทกวีนี้ค่ะ ... :)
22 กันยายน 2545 23:00 น. - comment id 79276
แหะๆ ขออนุญาตครับ ...^L^ บัดนั้น ............ ราหูผูทรงเดชอมฤกต ร่างกายด๊ำดำจนสนิท ตามติดกะจะกิน ศศธร ตวัดหางร่างละลิ่วล่องฟ้า สองมือเอื้อมไปข้างหน้า ยิ้มสะล้อน แยกเขี้ยวยิงฟัน ปั้นกร กะเตงค้อน แบกไว้ ใส่บ่าตน ค่ำนี้คืนเพ็ญ ศศธร เจ้ากลมงอน ก้อนขาว พราวเวหน ราหู ยิ่งดูแล้ว ให้ดิ้นรน ขอ งาบ เจ้า ปีละหลายหน นะศศธร ว่าแล้ว คว้ามับ จับแน่น สองแขน ล๊อคไว้ ไมผลัดผ่อน ไซด์เฮคล็อค บล๊อค สิ้นไม่ให้นอน ศศธร ก้อนกลมกลม น่าดม เอย ....ู^L^
22 กันยายน 2545 23:02 น. - comment id 79277
ขออนุญาต ช่วยจับราหูใส่กระป๋องค่ะ ..กิ..กิ.. ...อสูรอมจนเจ้าดับ..............................ลับแสง จะดีดดิ้นด้วยแรง................................นิดน้อย ต้องค่อยค่อยตะแคง............................ให้หลุด ออกนา ที่มืดดำก็คล้อย....................................เปล่งให้นวลขาว ฯ
23 กันยายน 2545 18:00 น. - comment id 79597
มาขอรับกำลังใจดีดีอย่างนี้ด้วยคนครับ เต็มที่ไปเลยครับ แค่บทแรกยังเยี่ยมขนาดนี้นับถือจริงๆครับ