เป็นหนุ่มน้อยเติบใหญ่วัยยี่สิบเอ็ด น้ำตาเร็ดมีเรื่องเศร้าคิดถึงแม่ กราบแทบเท้าบอกอยากบวชแทนคุณแก มองเห็นแม่น้ำตาไหลให้ตื่นตัน มีเรื่องดีเรื่องร้ายผ่านหลายหลาก ผู้คนมากดีเลวประปนกัน เป็นเด็กหนุ่มมีอนาคตคนช่างฝัน ผ่านคืนวันต้องก้าวเดินดำเนินไป ยามเจ็บป่วยไข้ใครช่วยหา ทั้งหยูกยาข้าวปลาแม่หาให้ แม่ถนมรักลูกกว่าอื่นได ชุบเลี้ยงให้เติบใหญ่ให้สู้ทน ลูกจากบ้านมาทำงานในเมืองใหญ่ รถฝักไฝ่คนมากมายต้องฝึกฝน หาเลี้ยงชีพมาทำงานต้องอดทน เรายากจนเหล้ายาอย่าไปลอง พบสาวงามตามที่ใจปรารถนา พี่สู้ทนฟันฝ่าหาเงินทอง รักน้องยาอยากได้เป็นเจ้าของ อยากจับจองกลัวน้องเป็นอื่นไป และแล้วมาวันหนึ่งจึงต้องเศร้า เห็นน้องสาวควงหนุ่มพี่กลุ้มใจ ถามความจริงจากเพื่อนต้องร้องไห้ น้องมีแฟนใหม่ไปแล้วแก้วลืมคอน ไม่เป็นอันทำงานช่างหาญกล้า อัดแน่นในอุราไม่ถ่ายถอน ถามความจริงจากน้องอย่างวิงวอน ให้สะท้อนหัวอกร้าวเขาทิ้งไป
27 กรกฎาคม 2553 09:29 น. - comment id 1148036
ลูกจำจากบ้านนาในครานี้ เพราะยังมีความหวังครั้งยิ่งใหญ่ จักทำงานหาเงินเพลิดเพลินใจ เพื่อส่งให้แม่สุข มิทุกข์ทน ขอก้มกราบตักแม่ผู้แก่เฒ่า เสียงกระเส่าเล่าพลางอย่างหมองหม่น มือแม่ลูบหัวลูก...เคยซุกซน จงอดทนต่องานฐานชีวี เรื่องเหล้ายาปลาปิ้งเรื่องหญิงหนึ่ง ควรคำนึงให้ถ้วนอย่าด่วนจี๋ อนาคตสดใสจะได้มี ลูกแม่นี้จักจำเริญด้วยเงินทอง
27 กรกฎาคม 2553 11:06 น. - comment id 1148051
ยังมีตักของแม่แน่แท้ลูก พ่อบุญปลูกอย่าหลงพะวงหญิง ว่างจากงานรีบผละอย่าประวิง รุดหน้าวิ่งกอดแม่แน่น้องเอย สวัสดีจ้าน้องชาย
27 กรกฎาคม 2553 12:36 น. - comment id 1148061
อ่ะนะ ตรงกันข้ามกับครูกระดาษทรายเลยล่ะค่ะ ต้องจากเมืองใหญ่ ไปสู่บ้านนา สาวชาวกรุงมุ่งมั่นหมั่นศึกษา หอบวิชาความรู้สู่อีสาน ตามฝันใฝ่ก็ได้สมอุดมการณ์ เป็นครูบาอาจารย์สานสังคม เคยรับประทานอาหารจานหรูล้น ได้มากินตำป่นฮวก ผักลวกขม เคยดื่มคาปูชิโนโปะแก้วนม ได้น้ำต้มในหม้อก็พอใจ เคยทานขนมหวานร้าน Coffee bean ไปป่ายปีนเก็บลูกหม่อนกินหนอนไหม เคยนั่งรถ ปอ.พอหทัย รถอีแต๋นก็นั่งไหวตามเวลา เคยว่ายน้ำตามสระใสสะอาด เปลี่ยนไปห้วยธรรมชาติสุขหรรษา เคยกินส้มตำไทยใส่ปูม้า ไปกินตำปูปลาร้าน่าแซ่บจริง เคยนั่งดูทีวีมีแม่พ่อ ได้นั่งจ้อกับเพื่อนใหม่ครูชายหญิง เคยได้ยินสำนวนบ่นซนเหมือนลิง ได้เห็นจริงแล้วหนอ อ้อ! ศิษย์เรา เคยรู้จักผักชีมีหอมแบ่ง ได้รู้จักผักขะแยงแกงป่าเขา เคยกินแต่ขนมจีบซาลาเปา ได้กินแมงเม่า กินหมาน้อย ก้อยกุ๊ดจี่ เคยสนทนาภาษากลางกระจ่างสิ้น ได้ฝึกพูดภาษาถิ่นเก่งอีหลี เคยดูจันทร์ไม่แจ่มฟ้ายามราตรี แต่ที่นี่เดือนดาราจรัสไกล เคยมองสุดสายตาตึกสะดุด ได้แลสุดทุ่งนาจดฟ้าใส เคยอยู่ที่จำกัดอึดอัดใจ ได้อยู่ใกล้ไพรกว้างช่างสุขกาย เคยศึกษาหาความรู้อยู่แต่ชั้น ได้ด้นดั้นในชุมชนรู้ล้นหลาย เคยอยู่ดีมีสุขสะดวกสบาย แต่สุดท้ายสุขพอกันอีสานเฮา
27 กรกฎาคม 2553 13:02 น. - comment id 1148066
อย่าหลงแสงสีเสียง จนลืมบ้านนา นะพี่..อิอิ
27 กรกฎาคม 2553 13:42 น. - comment id 1148073
เพียงมีกำลัง เท่านั้น ก้อพอครับ.... ล้ม ย่อมลุกใหม่ได้เสมอ พ่าย ย่อม ยืนผงาดได้อีกเสมอ
27 กรกฎาคม 2553 17:19 น. - comment id 1148107
แวะมาให้กำลังใจฅนจากมาบ้านมาไกลทำงานในเมืองใหญ่เหมือนกันครับพี่ชาย เป็นกำลังใจให้เสมอนะพี่มีเมลล์หรือเบอร์โทรป่าว ๆ ว่าง ๆ จะได้นัด meeting กัน อยู่ยุดยาเหมือนกันนี่นิ ปล. มีคำเขียนผิดด้วยฮับ ยามเจ็บป่วยไข่ใครช่วยหา ต้องเป็นป่วยไข้นะ เห็นน้องสาวควงหนุ่มพี่กุ้มใจ ต้องเป็นกลุ้มใจนะฮับ
28 กรกฎาคม 2553 06:52 น. - comment id 1148186
ขอบคุณท่านกวีน้อยเจ้าสำราญครับที่แวะมาเยื่อมชม ขอบคุณพี่สาวแก้วประภัสสรที่มาให้กำลังใจ ขอบคุณครูกระดาษทรายที่มาร่วมแจมไม่เคยขาด ขอบคุณท่านกิ่งโศกที่มาให้กำลังใจ ขอบคุณท่านสุริยันต์ ที่เข้ามา ช่วยแก้คำผิดครับเดี๋ยวจะส่งให้ทางเมลนะครับ
28 กรกฎาคม 2553 15:18 น. - comment id 1148212
สงสารคนอกหักจัง