สุริยัน จันทรา เมื่อจากฟ้ายังย้อนกลับ ไปแล้วไม่ลาลับ กลับมาเยือนยังถิ่นเดิม แต่เธอเป็นชาวนา ไม่กลับมายังถิ่นเดิม จากไปหมายเพิ่มเติม เสริมความรู้ที่เมืองกรุง เธอคงลืมพ่อแม่ ที่เฝ้าแลทางกลางทุ่ง รอเธอกลับจากกรุง มุ่งมองจ้องทางกลางนา แสงแดดที่แผดเผา พ่อแม่เจ้าเอากายา ต่อสู้ ฝน ลม ฟ้า ท้าชีวิตพิชิตกรรม ตายายสองผู้เฒ่า ต่างรบเร้าถามประจำ ฉันตอบอย่างระกำ ทำใจรออีกต่อไป มองฟ้าที่เวิ้งว้าง เฝ้าแลทางอย่างน้อยใจ มองฟ้าครั้งคราใด ใจก็เหงาเฝ้าแต่คอย สุริยัน จันทรา เมื่อจากฟ้ายังย้อนรอย กลับมาที่เดิมบ่อยบ่อย ไม่ปล่อยฟ้าให้ว้าเหว่ แต่เธอเป็นชาวนา ไม่กลับมายังเตร็ดเตร่ อยู่กรุงสนุกฮาเฮ เสเพลเที่ยวสำราญใจ แสงสีของเมืองหลวง ได้เหนี่ยวหน่วงเธอเอาไว้ ได้ข่าวว่าเธอไร้ ซึ่งเพื่อนรักจากท้องนา เขากลับเธอไม่กลับ เธอได้รับความเมตตา จากชายชาวเมืองฟ้า ดูแลเธออย่างดิบดี สงสารแต่แม่พ่อ ที่เฝ้ารอเธออย่างนี้ รอเธอมาหลายปี มิเคยมีวี่แววเธอ มองฟ้าที่เวิ้งว้าง มองดูทางนั่งรอเธอ แววตาหมองหม่นเหม่อ เฮ้อ ! ลูกเอ๋ยพ่อแม่รอ ฯ
2 ตุลาคม 2551 00:38 น. - comment id 901457
..... รอต่อไปนะ ครับ สักวัน เธอ จะกลับมา ขอให้มีความหวัง ครับผม
2 ตุลาคม 2551 01:00 น. - comment id 901462
แม้จากไปใจเหงาให้ครุ่นคิด เขายังติดตังค์ฉันมันไม่คืน ต่อไปนี้คงต้องแลกด้วยลูกปืน หรือไม้ฟืนด้ามขวานวานบอกที.... อิอิ แซวเล่นคะ ขำๆ
2 ตุลาคม 2551 06:31 น. - comment id 901478
สวัสดีคุณฝนทองครับ จากการอ่านบทกลอนแล้วอดไม่ได้ที่จะกล่าว ว่ากวีนิพนธ์ เรื่องนี้ไพเราะมาก เพราะเขียน จากใจ
2 ตุลาคม 2551 07:57 น. - comment id 901499
ไม่ลืมเรือนเหย้า ไม่ลืมเงาเลยละหนา ว่าเราเป็นชาวนา พ่อแม่จ๋าลูกไม่ลืม ยังอยู่ตรงนี้ที่ท้ายทุ่ง เบื่อกรุงกว้างใหญ่ไม่ปลื้ม แสนจะสุขใจได้ดูดดื่ม ได้หยิบยืมธรรมชาติสะอาดตา
2 ตุลาคม 2551 08:39 น. - comment id 901514
ในเมืองกรุงแค่หรูหราอย่างเดียว ความสุขที่แท้จริง คือธรรมชาติ ตามท้องทุ่ง ป่า เขา สายธาร ให้มีความสุข นะค่ะ คุณฝนทอง
2 ตุลาคม 2551 12:17 น. - comment id 901578
อ่านแล้วนึกถึงพ่อกับแม่เลยค่ะ อยากให้ลูกกลับไปอยู่ด้วย คงไม่นานนะคะจะได้กลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ ไปทำนา เลี้ยงควาย
2 ตุลาคม 2551 14:12 น. - comment id 901620
ไม่มีที่ใดอบอุ่นเท่าที่บ้านค่ะ ไม่นานเขาก็คงจะกลับไป.....
3 ตุลาคม 2551 05:20 น. - comment id 901818
อ่านแล้วสะเทือนใจจังเลยค่ะหัวอกคนรอ กลับอิสานบ้านเฮา ทุกคนเฝ้าคอยห่วงหา ผู้รอกลืนน้ำตา ฝนหลั่งฟ้ายิ่งปวดใจ บ้านเรายังรอคอย อีนางน้อยอย่าหลงไหล พ่อแม่ห่วงอาลัย กลับมาไวเถิดบ้านเฮา คนคอยน้อยใจท้อ ทุกคนรอคืนสู่เหย้า จะผูกมือน้อยเอา รัยขวัญเจ้ากลับบ้านนา แวะมาเยี่ยมค่ะ
3 ตุลาคม 2551 06:30 น. - comment id 901831
จากนามานานแล้ว จึงหมดแววสิคืนเมือ ทุกข์ยากลำบากเหลือ ใครจุนเจือก็เปล่ามี อยากกลับบ้านนาเรา ทุกข์รบเร้าน้ำตาปรี่ เงินทองน้องบ่มี ที่ดินเล่าเขายึดครอง ยากจนข้นแค้นนัก จำใจหักจากใจปอง พี่จ๋าอย่าลืมน้อง รอวันกลับ..รับคืนใจ.. นะคะ
3 ตุลาคม 2551 10:21 น. - comment id 901912
นึกถึงวลีที่ว่า "สำนึกรักบ้านเกิด"เลยค่ะ ขอบคุณที่ไปเยี่ยมเยือนกันเสมอเลยนะคะ
3 ตุลาคม 2551 21:54 น. - comment id 902038
...นรศิริ... ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมชมผลงาน และ ขอบคุณสำหรับกาพย์ที่ไพเราะ ๆ ครับ
3 ตุลาคม 2551 21:38 น. - comment id 902168
...พงษ์ภูษา... ขอบคุณในกำลังใจครับ
3 ตุลาคม 2551 21:41 น. - comment id 902171
...ฉางน้อย... โห...ใจร้ายจริง ๆ นะ ติดตังค์แค่เนี๊ยะ ถึงกับแจกลูกปืนเลยเรอะ... ...แนะ...ยังแถมขวานอีก โหด ๆ ๆ บรือ ๆๆๆๆ น่ากลัว
3 ตุลาคม 2551 21:43 น. - comment id 902172
...เฮาชาวดอย... ขอบคุณหลาย ๆ เด้อ ในคำชื่นชม
3 ตุลาคม 2551 21:44 น. - comment id 902174
...ครูกระดาษทราย... ขอบคุณในบทกลอนกาพย์ที่ไพเราะครับ
3 ตุลาคม 2551 21:47 น. - comment id 902175
...ดอกบัว... ก็นั่นสิครับ คุณดอกบัว ในกรุงมีแต่ความหรูหราอย่างเดียว แต่ทำไมหญิงสาวชาวบ้านป่าเข้าไปแล้วไม่ยอมกลับบ้านเลยเนาะ
3 ตุลาคม 2551 21:50 น. - comment id 902178
...เพียงพลิ้ว... พ่อแม่ก็ยังเฝ้ารอลูกกลับอยู่แหละครับ นานแสนนานในความรู้สึกของผู้รอ...
3 ตุลาคม 2551 21:52 น. - comment id 902180
...ลิลลี่สีขาว... ขอบคุณครับสำหรับการแสดงความคิดเห็น ก็จริงนะคุณ แต่คนรอสิมันทรมานนะคุณ
3 ตุลาคม 2551 22:02 น. - comment id 902183
...ครูพิม... ขอบคุณสำหรับกาพย์ที่หวานซึ้งครับ
3 ตุลาคม 2551 22:05 น. - comment id 902185
...โคลอน... คำนี้ก็เคยได้ยินครับ "สำนึกรักบ้านเกิด" แต่ทำไมผู้คนไม่เห็นจะสำนึกเหมือนกับวลีนี้เลย...เนาะ และ ขอบคุณที่มาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานที่เขียนครับ