หากฉันใช้สมองจดจำเรื่องราวก็ยังพอจะลืมเธอได้ แต่ฉันใช้หัวใจเก็บความทรงจำเรื่องของเรา... การจะลืมใครสักคนมันช่างทรมานดั่งคำที่เขียนตอนต้น ความทรงจำ การใช้ชีวิต ความผูกพัน สิ่งต่างๆที่มอบให้กันและกัน ความรู้สึกดีๆ มันทำให้เรายากจะลืมคนๆนั้น ถึงแม้ ใจหนึ่งรับรู้เสมอว่า มันกลับไปเป็นอย่างเหมือนเดิมไม่ได้ แต่... สิ่งต่างๆ ที่ผ่านมายังคงเวียนว่ายตามหลอกหลอนให้ติดอยู่กับภาพเหล่านั้น หนีเหรอ หนีไปจากที่ตรงนี้ การหลีกหนีไปในที่ไกลแสนไกล เพื่อจะลบภาพเธอออกจากส่วนลึกของใจที่ พร่ำถึง.. การหยุดที่จะพบเห็นบรรยากาศเดิมๆ ต้นไม้ต้นเดิม เส้นทางที่เคยเดินผ่าน หรือแม้แต่ทางเข้าบ้านที่เคยเดินด้วยกัน สิ่งเหล่านี้เป็นภาพถ่ายที่แสดงออกมาตามลำดับจากจุดกำเนิดของเรื่องราวจนถึงที่สิ้นสุด ณ ไม้หินอ่อนในสวนสาธารณะ ถึงแม้คนเดินพลุกพล่าน แต่ดูเหมือนจะนั่งอยู่อย่างโดดเดียว เดียวดาย ไร้เสียงกระซิบของสายลม และแล้วเสียงโน๊ตสูงตำเจี้ยวแจ้วของนกยามตะวันร่วงสู่พื้นดินก็แว้วออกมาไกลโพ้น ท้องฟ้าค่อยๆ มือมิดแสงไฟเริ่มสว่างไล้ติดเรียงรายจากซ้ายไปขวา เป็นภาพที่สวยงาม การอยู่กับตนเองมันอาจมีเพียงเวลานี้เท่านั้น เวลาที่เหงา เหว่ว้า โดดเดี่ยว หรือแม้กระทั้งถูกเธอทอดทิ้ง แต่กลับรับรู้เสียงเรียกร้องจากส่วนลึกที่ตะโกนก้องมาถึงประสาทชั้นใน มันสะท้อนออกจากด้วยตา เพียงไมนานสายน้ำก็รินไหล ฝนตกชุ่มฉ่ำ รถวิ่งอย่างรวดเร็วรีดน้ำกระเด็นลงข้างทาง ฝนเริ่มซาเม็ด ความชุ่มชื่นคืนสู่สภาวะ อายกรุ่นแผ่นซ่านขึ้นจากพื้นถนนอีกครั้ง การจะลืมใครสักคนหนึ่งมันอาจยากเย็นแสนเข็ญ แต่... เราต้องลืมให้ได้ มันคือส่วนที่จะตอบได้ว่าจะเดินไปในทิศทางใด ชีวิตที่โดดเดียว แต่กลับได้อายแห่งความผูกพันจากเพื่อนฝูง การร่วมเดินทางแห่งการแสวงหาในหน้าที่การงานเช่นเดิม หาใช้คอยตอกย้ำความเจ็บช้ำของตนเอง ภาพเก่าๆ ย้อนร้อยกลับสู่ถิ่นเดิม ถึงแม้จะหนีจาก ณ ที่นี่ไปนานแสนนาน แล้ววันหนึ่ง ก็ย่อมกลับคืนสู่มาตุภูมิ บ้านเกิดเมืองนอนที่ให้กำเนิด การเดินทางที่ไร้ที่สิ้นสุด ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ กลับมีคู่ชีวิตขึ้นมาอีกหนึ่ง นั้นคือตัวตนที่แท้จริง เราต้องอยู่ได้ถึงแม้จะขาดเธอไปก็ตาม นั้นคือเสียงคอยย้ำเตือนจากเพื่อนคู่กายที่ไม่เคยหนีหายหรือทิ้งให้เราเดียวดาย ขอบคุณใจที่กล้าแกร่ง ขอบคุณกำลังใจที่เข้มแข็ง และรอยยิ้มที่คอยประดับในห้วงสำนึก อนาคตต่อไปจากนี้ ไม่สามารถรู้แน่ชัดว่าจะเจอกับอะไร ที่หนักหนาสาหัสอีกหรือไม่ แต่กำลังใจที่กล้าแกร่งได้สร้างเกราะให้กับใจดวงนี้ สู้.. จนถึงที่สุด นกไร้คู่ยังบินสู่ท้องนภากว้าง แล้วใยฉันจะเป็นเช่นนั้นไม่ได้ การเดินทางสู่ดวงชะตาที่เรากำหนด คือสิ่งที่ปรากฏในวันข้างหน้า ดั่งดวงตะวันที่ขึ้นในด้านเดิมเสมอ ถึงแม้จะแปรเปลี่ยนตามวันเวลาและฤดูกาล แต่ดวงตะวันกลับส่องสว่าง และยังรักษาความกล้าแกร่งของตนเช่นเดิม ฉันก็เหมือนกัน...
28 มิถุนายน 2551 19:42 น. - comment id 866665
28 มิถุนายน 2551 19:51 น. - comment id 866669
การจะลืม บางสิ่งที่ฝังแน่น นั้น ลืมไม่ได้หรอกครับ. ...
28 มิถุนายน 2551 21:10 น. - comment id 866714
กาลเวลา..จะช่วยให้เราเข้มแข็งขึ้น.. เสียใจ.อย่าใจเสียนะคะ..
28 มิถุนายน 2551 21:50 น. - comment id 866752
แด่ คุณน.นิรัติศัย ภาพความหลังครั้งก่อนย้อนคิดถึง ยังตราตรึงห้วงใจให้โหยหา ยากลบเลือนความหลังฝังอุรา ขอเวลา เยียวยา ผ่าแผลใจ เวลารักษาแผลใจได้เสมอ................
28 มิถุนายน 2551 23:53 น. - comment id 866788
... ชอบเพลงนี้ เหมือนกันเลยอ่ะค่ะ ... อุ๊ แวะมาทักทายนะคะ
29 มิถุนายน 2551 20:37 น. - comment id 867108
แวะมาให้กำลังใจครับ ความทรงจำที่มีผมว่าเราลืมไม่ได้หรอกครับ อย่างน้อยในความทรงจำนั้นยังมีความผูกพันหลงเหลืออยู่ ผมไม่เคยคิดจะลืมนะครับแต่กจะจำให้น้อยที่สุด(ถ้ามันเจ็บปวดนะครับ) เป็นกำลังใจให้ทุกคนเช่นกันครับ
3 กรกฎาคม 2551 01:22 น. - comment id 868595
ขอบคุณ สำหรับคำกำลังใจและกลอนที่ถ่ายทอดให้รับรู้ขอรับ เวลาคือสิ่งที่มีค่าสำหรับทุกคน หากมัวแต่เสียเวลากับเรื่องราวที่ปวดใจ มันอาจทำให้เราเสียดาบยเวลาที่สูญเปล่า เมื่อวันหนึ่งนึกย้อนกลับมาหามันอีกครั้ง กาลเวลาเปลี่ยนตามฤดูของธรรมชาติ และเวลาทำให้เราเข้มแข็งขึ้นด้วยเช่นกัน อดีตคือบทเรียนที่ต้องจำ แต่ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ให้ติดอยู่กับความกล้าๆกลัวกับอนาคตข้างหน้า
16 กรกฎาคม 2551 21:09 น. - comment id 874510
พี่เดะ จำไว้ว่าทางถ้ารักด้วยใจมันก็จะทนทรมานกับความรู้สึก แต่ถ้ารักด้วยสมอง อาจจะเจ็บลึกๆ แต่ยังคงเดินต่อไหว สู้ตายนะ น้องคนนี้จะเนกำลังใจให้ตลอด