ใบไม้ป่า ใบไม่บ้าน ใบไม้เมือง
ฟ้าฟื้า ธรรมชาติ
มองกระจกเงา........
เห็นใบหน้าสุดเหงาเศร้ากำโศก
วิโยคร่ำหาน้ำตาไหล
คิดถึงสายน้ำลำป่าไพร
จากไกลอำลามาแสนนาน
เมืองนี้มีไหมใบไม้ป่า
พลัดบ้านจรมาตามหาฝัน
ใบแห้งใบเขียวล้วนเดียวกัน
ใบบ้านใบกลายใบไม้เมือง
กลัวสู้กลัวทนจนตนแก่
จากเขียวอ่อนแท้จะแก่เหลือง
มือฟื้นฝอยทำตาชำเลือง
มองฟ้าหล้าเหลืองสีดอกจาน
มาแล้วเมษาใกล้จะหน้าฝน
เหงาหม่นออกลายให้คืนฐาน
ทุ่งนาป่างามยามสงกรานต์
หยุดพักกลับบ้านเสียสักที
หยุดงานอีกรอบจะหอบเหงา
แลกเอากำลังใจจากที่
จากนาหน้าน้ำความอารี
จากอุ่นกอดนี้ก่อนจรลา
ละตาจากกระจกมองหน้าต่าง
ฟ้ายังมืดครึมซึมหม่นหล้า
มืดมนฝนครึ้มกระหึ่มมา
หลงฟ้าผาภูฤดูใด
แม้ใบไม้อื่นสุดฝืนแล้ว
พลังใจส่ายแผ้วระรวนไหว
ท้อแท้อิดโรยระโหยใจ
ขาสั่นหวั่นภัยใกล้ล้มลง
เหนื่อยไหมเพื่อนพ้องลองมองฟ้า
เบื้องล่างสุดตาขอบฟ้าส่ง
ฝากเมฆบ้านเราคลายเหงาลง
ส่งตรงสารมาจากฟ้าไกล
เอ๊ะนั่นคนหลังยังคอยอยู่
ส่งรักฝากสู่พระพายสาย
สูดพายสายลมลมหายใจ
อุ่นรักฝากไว้ยังไม่จาง
ใบไม้ใบนี้ไม่มีเปลี่ยน
ยังเพียรคำนึงถึงกิ่งก้าน
แม้พลัดถิ่นมาไม่ช้านาน
ป่าไพรสายธารไม่ลืมลง
ใบไม่ใบอื่นที่ฝืนอยู่
อ่านกลอนย้อนรู้ฮู้ประสงค์
เขียวเหลืองอธิฐานความจำนง
ฝากปล่อยลอยลมมาส่งไพร
ใบไม้ใบนี้คิดถึงบ้าน
ใบอื่นต่างย่านท่านว่าไหม
มีความคิดถึงซึ้งเพียงไร
.................................................
ถึงใบไม้ที่พลัดถิ่นฐานบ้านเกิดเมืองนอนมา ไม่ว่าด้วยแรงปรารถนาใดๆ อันเป็นต้นเหตุที่นำไปสู่การพลัดพรากจากกลิ่นหอมของอ้อมรักเก่าที่เคยแนบเนามาเมื่อก่อน ขอให้ใบไม้ทุกใบที่เป็นผู้พรากจากสู้ต่อไป เหนื่อยล้าเมื่อใดก็กลับไปถามหากำลังใจ ในถิ่นที่ท่านจากมา ใบไม้ใบใดรับรู้แล้ว........ ทั้งแรงงาน แรงความรู้ ความซื่อ ที่เหล่าใบไม้ทั้งหลายได้ห่อมาจากบ้าน ใบไม้ใบนี้เชื่อว่า อีกมะนานนักเราก็จะได้ห่อกลับไปยังถิ่นฐานบ้านเดิมอย่างภาคภูมิใจและทบเท่าทวีคูณ
ใบไม้ทั้งหลายได้โปรดอดทนอีกสักหน่อย ระยะเวลาอันใกล้นี้แล้ว ที่ความสุขจะอยู่กับท่าน........ตลอดไป..........
ฟ้าฟื้น ธรรมชาติ
ใบไม้อีกใบที่พลัดถิ่นเช่นกัน