อิ่มเอมใจได้อ่านกานท์กลอนทิพย์ เหมือนได้จิบน้ำฟ้าสุธาสวรรค์ สร้อยกำสรวลชอกช้ำร่ำจาบัลย์ กรีดจากทรวงจารกลั่นตำนานใจ สุเมรุเอียงเอนลั่นสะท้านโลก พญาโศกกล่อมเสียงสำเนียงใส ลั่นทมโอดกระซิกระริกใบ โอนอ่อนไหวตามลมพรมพัดพา หนาวน้ำค้างพร่างพราวหนาวเหน็บจิต คนคู่คิดชิดใกล้เริ่มหายหน้า สร้อยสวาทขาดแล้วหรือแก้วตา ทรมาดวงมานเกินบรรยาย โอ้สร้อยเอ๋ยสร้อยฟ้าอย่ากำสรวล จงสงวนสร้อยงามคงความหมาย ตำนานรักใหญ่ยิ่งยังพริ้งพราย มิควรจบบทสุดท้าย...เพราะชายเลว
20 มกราคม 2551 09:57 น. - comment id 813034
ขอบคุณค่ะที่แต่งเพื่อเป็นกำลังใจ ทำได้ไงค่ะ เก่งจริงๆเลย ใช้เวลานิด เดียวแต่งกลอนได้ไพเราะมากมาย จริงๆ ขอชมจากใจ บังเอิญแต่งได้ไม่เก่งเหมือนคุณกวีค่ะ ให้ 5 ดาวค่ะ
20 มกราคม 2551 10:29 น. - comment id 813039
ถึง..ช่ออักษราลี..กวีแก้ว เธอฉายแววกวีหวานววรณศิลป์ จารอักษรงามล้นไร้มลทิน ประทับจินต์ประทับใจไม่รู้เลือน สร้อยกำสรวล..ทุกคำกำซาบซึ้ง ยังติดตรึงทรวงในหาใดเหมือน จึ่ง..กวี ซีม่า..มาเยี่ยมเยือน คบเป็นเพื่อนสร้างสรรค์วงการกลอน
20 มกราคม 2551 11:29 น. - comment id 813059
สร้อยฟ้า...อย่ากำสรวล.. แค่ชื่อกลอน..ก็ได้ความหมายแล้วค่ะ...บทกลอนไพเราะค่ะ.. แวะมาชื่นชมบทกลอน...รักษาสุขภาพนะคะ..
20 มกราคม 2551 12:02 น. - comment id 813084
ไพเราะ น่าซาบซึ้งมากคับ
20 มกราคม 2551 19:06 น. - comment id 813247
หวัดดีครับ...... เมื่อเช้านี้ผมพลาดกลอนบทนี้ไปครับพึ่งได้อ่านครับ ไพเราะและลึกซึ้งมากเลยครับ.. จริงอย่างคห. ๑ ครับว่าทำไมคุณกวีแต่งกลอน ได้เร็วมากและไพเราะทุกคำกลอนด้วยสิครับ..