อกหัก..ไม่ยักตาย
กะลาสีเบจ
โลกชมพูงดงามท่ามดอกรัก
ตอกเสาหลักฝังลึกเป็นปึกฐาน
จะคงมั่นนิรันดร์รักชั่วกัปกาล
ร่วมสาบานต่อเบื้องฟ้าธรานินทร์
เราสองคนปรนนิบัติพัดความทุกข์.
แม้ล้มลุกคอยประคองคล้องถวิล
ข้าแต่ฟ้าเบื้องบนได้ยลยิน
สดับศิลป์แห่งรักปักนำทาง
ฟ้าสวยใสบนเทียวทางครั้งย่างก้าว
เมฆาขาวบรรทุกรักถักสายหาง
ไม่ทันใดฟ้าตระบัตกัดเขี้ยวกราง
กวาดตาขวางร้องคำรามคร้ามอื้ออึง
เสียงเปรี้ยง!ดังของสายฟ้ามาบอกเหตุ
ภัยอาเพทของใจใคร่มาถึง
โลกชมพูมืดสนิทปิดตายตรึง
ประโยคหนึ่ง.."ประโยคเดียว"เคี้ยวกลบกลืน
วาระของ..สองเราเหลือเงาอดีต
เธอใช้ถ้อยคำเป็นมีดมากรีดขืน
สองมือกำรักเราที่ยาวยืน
มาทิ้งคืนทั้งดอกผลต้นทุนใจ
จากวันนั้นฉันหมดแรงแล้งใจสู้
กินน้ำหูซดน้ำตาเพื่ออาศัย
ฝังเสาหลักปักเลนจำเอนไป
โรเรไร้..จุดยืนกล้ำฝืนทน
บทเรียนแสนราคาแพงที่แบ่งให้
คือหลักชัยทางชีวิตลิขิตผล
อุโมงค์มืดกลบฝังร่างพรางใจตน
พลันสว่าง ณ บัดดลบนทางจริง
มาวันนี้ขาหัวใจไร้ทางล้ม
หลงจ่อมจมกับอดีตจารีตสิง
คราบรอยยิ้มนักสู้ลู่เข้าชิง
ปลดแอกอิงกิ่งปัญหาถลาชัย
โลกชมพูงดงามในยามนี้
เท่าที่มีพำนักรักไฉน
รักตัวเองให้ดีก่อนคิดป้อนใจ
ให้กับใครที่อยากรักและภักดี
"อกหัก"ช้ำย้ำหนักสลักแน่น
การแก้แค้นไม่จำเป็นหรอกโฉมศรี
แค่อยากถามผู้หญิงใดช่วยไขที
น้ำตาผู้ชายนี้..คือของว่างหรืออย่างไร
..กะลาสีเบจ (๑๓ มกราคม ๒๕๕๑)